มร.ทาคาอากิ คิชิอิ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยว่า
ภายหลังจากการใช้กลยุทธ์การจัดกิจกรรมทางการตลาดแนวใหม่ ที่เน้นการจัดกิจกรรมแบบรุกถึงตัวลูกค้ามากยิ่งขึ้น
โดยร่วมกับผู้จำหน่ายทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จัดกิจกรรมโรดโชว์ในห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์สโตร์ต่างๆ
รวมทั้งการจัดกิจกรรมแบบเฉพาะกลุ่ม กับลูกค้าปัจจุบันและกลุ่มลูกค้าเก่าที่มีแบรนด์รอยัลตี้สูง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก
ของมิตซูบิชินั้น ปรากฎว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยกลยุทธ์ดังกล่าวนอกจากจะสร้างความเชื่อมั่นในรถยนต์มิตซูบิชิ
รวมทั้งสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าในพื้นที่แล้ว ยังเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ซึ่งระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาช่วงเดือนมี.ค. – เม.ย. มียอดขายภายในงานจำนวน 230 คัน  คิดเป็น 7.8%
ของยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิทั้งหมด 2,936 คัน โดยนอกจากนี้ยังมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ได้จากงานครั้งนี้
ซึ่งจะต้องติดตามผล ต่อไปอีกจำนวนมากกว่า 1,600 ราย

“แม้สภาพตลาดรถยนต์ของเมืองไทยในปัจจุบันจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม
เราคงไม่เข้าไปใช้การทำสงครามราคา เพราะนั่นไม่ใช่แนวทางการตลาดของมิตซูบิชิ แต่เราจะเน้นกิจกรรมที่เจาะ
เข้าถึงตัวลูกค้าโดยตรง เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจในผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพฤติกรรรมในการซื้อรถของผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก จากเดิมที่จะซื้อรถ
ตามโชว์รูมกลายมาเป็นการซื้อในห้างสรรพสินค้าและงานแสดงรถต่างๆ แทน เพราะนอกจากจะสะดวกสบายแล้ว
ลูกค้ายังสามารถพิจารณาและเปรียบเทียบองค์ประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวรถ ราคา และแคมเปญ ก่อนตัดสินใจซื้อ
ได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

ดังนั้นแนวทางหลักในการจัดกิจกรรมทางการตลาดของเรา ที่หันมาเน้นการจัดกิจกรรมโรดโชว์ในห้างสรรพสินค้า
และ ซุปเปอร์สโตร์ชั้นนำต่างๆ  เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าดังกล่าว จึงถือเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางการตลาด
อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจโดยไม่ต้องใช้กลยุทธ์ด้านราคา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ เรายังได้เพิ่มความถี่
ในการจัดกิจกรรมให้มากยิ่งขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้า เพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภคในกลุ่มที่กว้างขึ้น
เรายอมรับว่า งบประมาณอาจมีจำกัด แต่เรายังคงรูปแบบของกิจกรรมเดิม ที่นอกจากจะมีการจัดแสดงรถแล้ว
ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดสอบสัมผัสสมรรถนะและฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ และมีวิทยากรคอยให้ความรู้
ความเข้าใจในเทคโนโลยีของรถมิตซูบิชิ  ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้น
การตัดสินใจซื้อรถของลูกค้า ช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย โดยมีตัวเลขยอดขายทั้งหมดกว่า 230 คัน
จากการจัดงานทั้งหมดเพียง 22 วัน ใน  27 พื้นที่“มร. คิชิอิ กล่าว

ทั้งนี้นอกเหนือจากการพัฒนารถยนต์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมนำเสนอกิจกรรม
ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงนี้นั้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังมุ่งพัฒนาปรับปรุง
ทั้งภาพลักษณ์ของผู้จำหน่าย และคุณภาพการบริการหลังการขายให้มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
เพื่อเป็นการดูแลลูกค้าครบวงจร ควบคู่กันไปอีกด้วย

เพราะท้ายที่สุด การบริการหลังการขาย คือสิ่งสำคัญที่เราตั้งใจจะปรับปรุง เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจสูงสุดอย่างแท้จริง

———————————————///———————————————–