ย้อนกลับไปไม่นานมานี้ งาน Intermot 2014 ที่จัดขึ้น ณ เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมันนี
BMW Motorrad ได้เปิดตัว Superbike รุ่นล่าสุดที่เหล่าสาวกฉลามต่างรอคอยมา
นานกว่า 6 ปีเต็ม ก็ได้ถึงเวลาในการเปลี่ยนโฉมครั้งใหม่ นั้นก็คือ BMW S1000RR 2015
มาถึงตอนนี้ ประเทศไทย จะเป็นครั้งแรกในเอเชียที่ BMW S1000RR 2015 จะปรากฎ
ตัวอย่างเป็นทางการ ในงาน Thailand International Motor Expo 2014 และ
Headlightmag ทีมงาน Bigbike ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน ไม่พลาดที่จะนำภาพตัวจริง
ในประเทศไทยมาให้เพื่อนๆ ดูกัน ซึ่งงานนี้ขอขอบคุณทาง BKK Motorcycle
ที่ได้อนุเคราะห์ให้ทีมงานได้สัมผัสรถจริงก่อนใคร


BMW S1000RR 2015 ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 999 cc. แรงม้าสูงสุด
198 แรงม้า (146 kW ที่ 13,500 รอบต่อนาที) แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร
ที่ 10,500 รอบต่อนาที เกียร์ 6 สปีด ด้วยการออกแบบเฟรมตัวถังใหม่ ทำให้น้ำหนัก
รถโดยรวมอยู่ที่ 204 กิโลกรัมเท่านั้น



การออกแบบ ยังคงเป็นแนวเดิม คือการแบ่งช่องไฟออกเป็นสองด้าน
ด้วยซ้ายจะเป็นแนวสูง ทำเส้นสายการออกแบบให้อ่อนลงด้วยโค้งตัดกับลายเส้น
ส่วนด้านขวาออกแบบให้เป็นวงรี การออกแบบแบบนี้ ทำให้เกิดความสมดุลใน
การใช้งานไฟหน้ามากขึ้น ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ ที่สลับดวงไฟซ้ายขวาอยู่
ตรงข้ามกัน และเส้นสายของขอบไฟดูตรง ไม่อ่อนช้อยเหมือนปี 2015

จุดเด่นหลักๆ ของ BMW S1000RR 2015
ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดจากรุ่นก่อนหน้านี้ อย่างแรกเลยคือ

1.    Dynamic Damping Control (DDC) หรือ ระบบควบคุมช่วงล่างแบบไฟฟ้า
ที่สามารถปรับลักษณะการทำงานได้อัตโนมัติตามสภาพถนนและรูปแบบการขับขี่ของเรา
(ก่อนหน้านี้มีเพียงในรุ่น HP4 เท่านั้น) การทำงานคร่าวๆ ของ DDC คือ เป็นระบบไฟฟ้า
ที่ควบคุมการทำงานของช่วงล่างจะปรับเปลี่ยนความยืดยุ่นของการขับขี่แบบอัตโนมัติ
แต่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่า Compression และ Rebound ได้เองจากหน้าจอ ด้วยเช่นกัน

2.    Gear Shift Assistant Pro หรือ ระบบการเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องใช้คลัช
หรือเรียกง่ายๆ คือ Quick Shift ที่รุ่นก่อนหน้านี้จะสามารทำได้เฉพาะการเปลี่ยนเกียร์
โดยไม่ต้องใช้คลัชตอนเปลี่ยนเกียร์ขึ้น แต่ระบบ Gear Shift Assistant Pro
สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้ครัชทั้งขึ้นและลง


3.    Dynamic Traction Control หรือระบบควบคุมการเกาะถนนแบบ
ไดนามิก ปรับการขับขี่ให้เกิดความสมดุลต่อสถานการณ์ต่างๆ

จอแสดงผล BMW S1000RR 2015 ปรับเปลี่ยนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นจอแสดง
สถานะข้อมูลและฟังก์ชั่นต่างๆ ให้อ่านได้ง่ายขึ้น เช่นการเซ็ท DDC, DTC, การจับเวลาแบบ
lap time และ lap distance, lap-specific speed, active riding mode,
gear changes per lap เป็นต้น ส่วนท่อไอเสีย ถูกออกแบบใหม่ ปรับเปลี่ยนการไหล
เวียนของอากาศแบบคู่ ทำให้แรงบิดเพิ่มขึ้นในรอบเครื่องเท่าเดิม นอกจากนี้ยังลดเสียงรบกวน
และลดน้ำหนักลงถึง 3 กิโลกรัม

ดีไซน์กุญแจมีการคาดสีเท่าตรงกลางกุญแจ
พร้อมแปะโลโก้ BMW อย่างเด่นชัด เพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์นี้เช่นเคย

BMW S1000RR 2015 เปิดตัวครั้งแรกในงาน Thailand International
Motor Expo 2014 วันที่ 29 ธันวาคม – 10 ธันวาคมนี้ที่ IMPACT CHALLENGER
เมืองทองธานี โดยมีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกันคือ Motorsport (Tri color), Racing red
และ Black Storm metallic โดยในรุ่นสีธรรมดา ราคาอยู่ที่ประมาณ 1.05 ล้านบาท
และ Motorsport (Tri color) อยู่ที่ประมาณ 1.08 ล้านบาท จองตอนนี้
พร้อมส่งมอบรถประมาณช่วงเดือนมกราคม 2558 (หรือใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการจองรถ)

*S1000 RR ของพี่ปอง Big Wheel