ตลาดครอสโอเวอร์ลูกครึ่งลูกผสมลูกเสี้ยวทั้งหลายนับวันจะมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตลาดรถยนต์ปัจจุบันเริ่มอิ่มตัวขึ้นเรื่อย ๆ แต่พวกเราเป็นมนุษย์ที่ไม่รู้จักพอจึงทำให้ผู้ผลิตรถทั้งหลายสรรหารถแบบใหม่ ๆ มาจำหน่ายเรื่อย ๆ  อนาคตก็ไม่รู้ว่าจะผสมพันธุ์ได้อีกบ้างนะครับ ไม่แน่อาจจะมีมินิแวนแบบคูเป้ก็ได้นะครับ

 
 

Acura ZDX ก็ไม่พ้นกฏแห่งการผสมข้ามสายพันธุ์ยิ่งถ้าเข้าตลาดก่อนใคร ๆ แบรนด์ของตนเองก็ยิ่งโดดเด่นและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ตามหลัก ยังไม่สายเกินไปนักหากจะเข้าตลาดครอสโอเวอร์คูเป้กับเขาบ้างเพราะคู่แข่งน้อยเหลือเกินมีแค่ BMW X6 และ Infiniti FX แต่คันนี้ส่วนผสมของเขา 50:50 ไม่เน้นด้านความลาดชันปราดเปรียวเหมือนรถคูเป้แท้ ๆ มากนัก ดังนั้น ZDX จึงน่าจะต่อกรกับ X6 ได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า

 
 

คำนิยามที่ Acura แต่งตั้งให้ ZDX คือรถสปอร์ตครอสโอเวอร์คูเป้ 4 ประตู ที่ผสมระหว่างคูเป้,ซีดานและเอสยูวี ทำไมไม่เรียกว่า 5 ประตูน่าจะเพราะว่าออกแบบท้ายให้เหมือนรถคูเป้จริง ๆ มิได้ดัดแปลงให้ดูอเนกประสงค์ขึ้นตามสไตล์เอสยูวีครับ รูปร่างหน้าตาไม่แตกต่างจาก ZDX Concept ที่โชว์ในงานนิวยอร์ค ออโตโชว์ ช่วงมีนาคมปีนี้

 
 

ZDX ถูกพัฒนาโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาภูมิภาคอเมริกาเหนือและเป็นรถคันแรกที่เริ่มต้นงานออกแบบทั้งหมดที่ Acura Design Studio เมืองทอร์แรนซ์ ประเทศแคนาดา กระบวนการออกแบบทั้งภายนอกและภายในทีมงานจะใกล้ชิดและทำงานร่วมกันทั้งหมด ส่วนงานสเกตช์ดีไซน์บนกระดาษขั้นแรกเราต้องปรบมือให้หญิงเก่งคนนี้ เธอชื่อว่า มิเชล คริสเต็นเซ่น ฝากฝีมือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเส้นขอบโค้งแห่งจิตวิญญาณ,แนวบ่าสลักที่ดูลึก และเส้นสายที่บ่งบอกบุคลิกภาพชัดเจน

 
 

ขนาดตัวถังใหญ่ยาวถึง 4,887 มม. กว้างมหึมาถึง 1,993 มม. ไม่รวมกระจกมองข้าง สูงถึง 1,596 มม. ความสูงจากพื้นถึงตัวถัง 200 มม. ความยาวฐานล้อ 2,750 มม. แทร๊คล้อคู่หน้ากว้าง 1,720 มม. แทร๊คล้อคู่หลังกว้าง 1,719 มม. น้ำหนักตัวรถอยู่ระหว่าง 2,000 – 2,023 กิโลกรัม กระจายน้ำหนักหน้า/หลัง 57.3/42.3%

 
 

ภายใน Acura เคลมว่าเป็นรุ่นที่ตั้งใจทำอย่างประณีตและความหรูหราสลับซับซ้อนมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา ได้แก่ หนังหุ้มแผงหน้าปัด แผงข้างประตู และคอนโซลกลางลงทุนใช้แรงงานคนแทนที่จะเย็บเครื่องจักรแบบ Built-In จากซัพพลายเออร์ ,หนังแท้ชั้นเยี่ยมให้ความอบอุ่นและเก็บอุณหภูมิหากเปิดเครื่องปรับอากาศ (ผู้ใช้แถบอเมริกาเหนือมีฮีตเตอร์ในตัวอยู่แล้วครับ หากร้อนก็มีระบบทำความเย็นได้),สร้างบรรยากาศห้องโดยสารด้วยไฟ LED ส่องแสงร่วมกับไฟธรรมชาติที่ส่องจากช่องกระจกพาโนรามิคบนหลังคาที่ยาวตั้งแต่เสาเอจรดบานประตูท้าย

 
 

ความกว้างขวางห้องโดยสารสามารถบรรจุผู้โดยสารถึง 5 คน (ผู้เขียนสังเกตว่าใน Press Release ไม่บรรยายสรรพคุณความโอ่โถงนัก ก็ควรทำใจว่าผู้โดยสารตอนหลังเนื้อที่เหนือศีรษะน่าจะคับแคบแน่นอน) ด้วยแนวคิด 2+Freedom คือเน้นผู้โดยสารตอนหน้าเท่านั้น ส่วนด้านหลังบรรจุผู้โดยสารผู้ใหญ่ 2 คน หรือเบียด 3 คนสำหรับนั่งระยะทางสั้น ๆ สามารถบรรทุกสิ่งของด้วยห้องสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 651 ลิตร หากพับเบาะหลังจะเพิ่มเนื้อที่เป็น 1,565 ลิตร กรุณาอย่าดูถูกว่ารถแนวสปอร์ตขนาดนี้จะขนไม้กอล์ฟยาว ๆ ไม่ได้เพียงแค่ท่านพับที่ท้าวแขนตรงกลางเบาะหลังก็ใส่ได้แล้ว หากท่านมีของลับ ๆ ที่ไม่พึงประสงค์ให้คนอื่นได้รับรู้ก็สามารถซ่อนใต้พื้นห้องสัมภาระขนาด 62 ลิตรได้ครับ

 
 

 เครื่องยนต์อลูมิเนียมน้ำหนักเบาบล๊อกใหม่ V6 SOHC 24 วาล์ว  3.7 ลิตร ความจุกระบอกสูบ 3,664 ซีซี วาล์วแปรผัน VTEC ให้พละกำลังถึง 300 แรงม้า (HP) ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิด 37.26 กิโลกรัมเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงอัด 11.2 ต่อ 1 ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะพร้อมระบบคำนวณอัจฉริยะและ Sequential SportShift ทำอัตราสิ้นเปลืองมาตรฐาน EPA ในเมืองได้ 6.8 กิโลเมตรต่อลิตร นอกเมืองทำได้ 9.3 กิโลเมตรต่อลิตร ค่าเฉลี่ยได้ 7.6 กิโลเมตรต่อลิตร

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ SH-AWD เอกสิทธิ์เฉพาะฮอนด้าที่กระจายแรงขับเคลื่อนทั้งเพลาหน้าหลังและแยกอิสระล้อซ้าย-ขวาที่เพลาล้อหลัง ถูกปรับจูนสำหรับการขับขี่บนถนนจริงในชีวิตประจำวันรวมทั้งถูกทดสอบอย่างหนักหน่วงที่สนามมาตรฐานโลกนูร์เบิร์กริง เยอรมนี ระบบจะอนุญาตให้ล้อหลังเคลื่อนที่เร็วกว่าล้อหน้า 1.7% ช่วยลดอาการอันเดอร์สเตียร์ได้

 
 

ระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอสันสตรัท ด้านหลังมัลติลิงค์ เทรลลิ่งอาร์มติดตั้งซับเฟรมโลหะแยกจากกัน คอยล์สปริง แดมเปอร์ และ Anti Roll bar พร้อมระบบการขับขี่ปรับเปลี่ยนตามสภาวะได้เรียกว่า Integrated Dynamics System (IDS) ทำงานร่วมกับระบบปรับค่าความหนืดโช๊คอัพแม่เหล็ก และพวงมาลัยพาวเวอร์ที่มีเซ็นเซอร์จับความเร็วได้ หากต้องการความสะดวกสบายก็แค่กดปุ่มเท่านั้นระบบจะปรับโช๊คอัพให้นิ่มลง แต่หากต้องการขับขี่แบบสปอร์ตโช๊คอัพจะแข็งขึ้นระบบตรวจจับต่าง ๆ ก็เริ่มทำงาน

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ เบาะนั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง ส่วนผู้โดยสารตอนหน้า 8 ทิศทาง กระจกหลังคาพาโนรามายาวจนถึงห้องเก็บสัมภาระ เครื่องปรับอากาศแยกเนื้อที่ตอนหน้าและหลัง ระบบปรับอากาศเบาะนั่งตอนหลังอัตโนมัติ ลำโพงรอบคัน 8 จุดพร้อมซีดีเชนเจอร์ 6 แผ่น วิทยุ AM/FM รองรับวิทยุผ่านดาวเทียม  XM Radio ระบบพูดคุยโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth มีช่องต่อ USB กับอุปกรณ์เครื่องเล่นพกพา และช่องต่อ AUX กล้องส่องถอยหลังถ่ายทอดภาพผ่านกระจกมองหลังที่ตัดแสงได้ทั้งกลางคืนและกลางวัน หน้าจอระดับ VGA ติดตั้งระบบนำทางเรียบร้อยแล้ว

 
 

หากชาว Headlightmag ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ถ้าสนใจ ZDX แล้วล่ะก็กรุณาสั่งซื้อที่ดีลเลอร์ Acura 270 รายทั่วประเทศ พร้อมรับประกันตัวรถนาน 4 ปี หรือ 50,000 ไมล์ เครื่องยนต์รับประกัน 6 ปี หรือ 70,000 กิโลเมตร ลูกค้าทุกคนจะได้รับบริการจาก Acura Luxury Care ได้แก่บริการตามซ่อมนอกสถานที่,บริการรับส่งหากรถเกิดปัญหา และบริการนำทางตลอด 24 ชั่วโมงครับ