Toyota Motor ประเทศไทยได้ฤกษ์เปิดตัว All New Toyota Yaris ในวันนี้ (22 ตุลาคม 2013) พร้อมกับการสื่อสาร
ทางการตลาดว่ามันคือ “รถสปอร์ตแฮทช์แบค” ที่ตอบสนองชีวิตไลฟ์สไตล์สำหรับคนเมือง รถคันนี้จะใช้สิทธิ์เข้าโครงการ
Eco-Car เหมือนกับคู่แข่ง 4 เจ้าที่เหลือดังนั้นโครงสร้างราคาทั้งหมดก็จะอยู่ในเฉลี่ยไล่เลี่ยกันคืออยู่ภายใต้ราคาระหว่าง 4
แสนบาทถึง 5 แสนบาทปลาย ๆ

จุดขายสำคัญของ All New Toyota Yaris ใหม่คือดีไซน์ที่ดูสปอร์ตล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ตัวถังภายนอกออกแบบตามหลัก
อาการพลศาสตร์ (Aerodynamic) ช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความสนุกในการขับขี่ มีมิติภายนอกใหญ่ที่สุดในบรรดารถ
อีโคคาร์แฮทช์แบค ภายในมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางที่สุดในรถระดับเดียวกัน พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่ใหญ่ขึ้น การ
ทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์แก๊สโซลีนใหม่ ขนาด 1.2 ลิตร DOHC Dual VVT-i 4 สูบแถวเรียง ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นใหม่
สำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ และระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i พร้อมระบบเบรก ABS / EBD และระบบ
เสริมแรงเบรก BA ถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้า และเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ (Pre-tensioner & Force limiter)
อันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น

มร.ทาเคชิ มัตซึดะ หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า “ทีมวิศวกรโต
โยต้าได้สร้างสรรค์ ยาริส ใหม่ โดยมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาเพื่อให้เป็นรถยนต์ที่มีความคุ้มค่าเหนือราคา สร้างความ
ภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ ภายใต้แนวคิด “Value Beyond Belief” ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ให้
มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ที่สุด พร้อมดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ตลอดทั้งคัน ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูง
และมีพื้นที่กว้างขวางที่สุดในระดับรถแฮทช์แบ็คขนาดเล็ก รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระที่ใหญ่มากขึ้น เครื่องยนต์ Dual VVT-i
ใหม่ ขนาด 1.2 ลิตร ที่พัฒนาสำหรับตลาดประเทศไทยโดยเฉพาะ พร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i ให้
สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้น การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์พร้อมช่วงล่างที่ปรับปรุง
ใหม่ ยังช่วยเพิ่มความสุขในการขับขี่ เกาะถนนดียิ่งขึ้น ตลอดจนประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันที่ได้มาตรฐาน ด้วย
คุณสมบัติต่างๆเหล่านี้เชื่อว่า ยาริส ใหม่ จะตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า เมื่อทุกคนได้สัมผัส ยาริส ใหม่ จะรู้สึก
ถึงความพึงพอใจและได้รับในสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ยาริส ใหม่ จะเป็นรถสปอร์ตแฮทช์แบ็ค
ขนาดเล็ก ที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับลูกค้าชาวไทย”

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ยาริส
ใหม่ นี้ มาพร้อมกับความหลากหลายที่ครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า โดยเราได้ใช้แนวความคิดใน
การโฆษณา ยาริส ใหม่ นี้ว่า “All New YARIS…That’s Right” ซึ่งจะเริ่มโฆษณาผ่านสื่อต่างๆให้ลูกค้าได้รับทราบอย่าง
เต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป นอกจากการสื่อสารหลักแล้ว เรายังได้มุ่งเน้นในการสื่อสารผ่านสื่อดิจิตอล
รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนยุค Gen-Y เพิ่มขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ เรายังมี
การจัดกิจกรรมการเปิดตัวยาริสใหม่อย่างเป็นทางการที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศในวันที่ 26 – 27 ตุลาคมนี้ รวมถึง
กิจกรรมโร้ดโชว์ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งเราได้จัดเตรียมรถทดลองขับไว้ให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่กันอย่าง
ทั่วถึง โดย ยาริส ใหม่ นี้ จะมีให้เลือกถึง 4 รุ่น 7 สี ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 469,000 บาท

“จากผลิตภัณฑ์และแผนการตลาดทั้งหมด เรามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ยาริส ใหม่ จะสามารถบรรลุเป้าหมาย
การขายที่ 4,000 คันต่อเดือน”

ดีไซน์ภายนอก

การออกแบบใหม่ในทุกมุมมอง ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ตามหลักอากาศพลศาสตร์ มิติตัวรถมีความกว้างใหญ่
มากยิ่งขึ้นในขณะที่ความสูงถูกปรับลดต่ำลง รูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตรอบคัน กระจังหน้าเชื่อมต่อกันชนหน้าด้วยลายเส้น
รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแบบใหม่อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชุดไฟหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ที่ดูเรียวงามคมเข้ม ตลอดจนคิ้วกัน
กระแทกด้านข้าง คิ้วฝากระโปรงท้าย และสปอยเลอร์หลังคา ให้อารมณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว และความรู้สึกที่ปราดเปรียว
คล่องตัว

ภายใน

พื้นที่ภายในของห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความกว้างขวางสะดวกสบาย มีการเพิ่มความยาวช่วงล้อเป็น 2,550
มิลลิเมตร (ยาวกว่าเดิม 90 มิลลิเมตรหรือเท่ากับ Vios รุ่นใหม่) ทำให้ห้องโดยสารมีขนาดความยาวเพิ่มขึ้น ระยะห่าง
ระหว่างผู้โดยสารตอนหน้าและหลังเพิ่มขึ้นเป็น 912 มิลลิเมตร (มากกว่าเดิม 46 มิลลิเมตร) พื้นที่วางเท้าสำหรับผู้โดยสาร
ด้านหลังมีความยาวถึง 663 มิลลิเมตร (ยาวกว่ารุ่นเดิม 77 มิลลิเมตร) แผงพนักพิงเบาะหลังกว้างขวางขึ้นขนาด 1,310
มิลลิเมตร (มากกว่ารุ่นเดิม 10 มิลลิเมตร) เพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารด้านหลัง ระยะห่างจากจุดกึ่งกลางล้อหลัง
– กันชนหลัง มีความยาวเพิ่มขึ้นเป็น 690 มิลลิเมตร (ยาวกว่ารุ่นเดิม 110 มิลลิเมตร) ทำให้ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมี
ความยาวถึง 734 มิลลิเมตร (ยาวกว่าเดิม 140 มิลลิเมตร) และทำให้มีปริมาตรความจุถึง 326 ลิตร สามารถเก็บสัมภาระ
ได้มากกว่าเดิม ห้องโดยสารภายในโทนสีดำให้อารมณ์สปอร์ต มีการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในที่มีคุณภาพ ดูหรูหรา
ทันสมัย

เครื่องยนต์
นี่คือสิ่งที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด All New Toyota Yaris ติดตั้งเครื่องยนต์ ขนาด 1200 ซีซี ที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับ
เมืองไทยโดยเฉพาะ โดยมีระบบวาล์วอัจฉริยะ Dual VVT-i ซึ่งจะปรับจังหวะเปิด – ปิดวาล์วไอดีและไอเสียแบบแปรผัน
ให้สอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์ ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 4 ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super
CVT-I ที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ต่อเนื่อง พร้อมปรับระดับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ให้คงอยู่ในรอบต่ำ แม้ในขณะเร่ง
ความเร็ว ในส่วนของการควบคุมบังคับนั้น พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) จะช่วย
ปรับเปลี่ยนน้ำหนักของพวงมาลัยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับทุกความเร็ว

การพัฒนาเพื่อให้การทรงตัวที่ดีขึ้น

(1). การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยการปรับลดความสูงของตัวรถแบบรถสปอร์ตและการดีไซน์หลังคาแบบ
Catamaran เพื่อให้การไหลเวียนของกระแสลมผ่านราบเรียบยิ่งขึ้น ช่วยลดแรงปะทะของลม
(2). การติดตั้ง “Fin” หรือ “ครีบ” ที่บริเวณกระจกมองข้างและไฟท้าย ช่วยทำให้กระแสลมที่ไหลผ่านบริเวณด้านข้างตัว
รถขณะกำลังวิ่ง สามารถไหลผ่านได้ดียิ่งขึ้น
(3). โครงสร้างตัวถังได้มีการเพิ่มจุดเชื่อม
(4). ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบ ทอร์ชั่นบีมพร้อม
เหล็กกันโคลง

ระบบมาตรฐานความปลอดภัยครบครันทุกรุ่น
– โครงสร้างนิรภัย GOA ให้ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทกจากการชน
– ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยลดการบาดเจ็บของศีรษะและหน้าอก
จากแรงปะทะซึ่งเกิดจากการชนจากด้านหน้า
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหันหรือเบรกบนถนนลื่น
– ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้อให้ทำงานได้อย่างสมดุลเพื่อป้องกันอาการท้าย
ปัด และช่วยควบคุมรถให้มั่นคงขึ้นแม้เบรกในขณะเข้าโค้ง
– ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ช่วยเพิ่มแรงเบรกให้มากขึ้นในกรณีเบรกกระทันหัน เพื่อให้หยุดรถได้ในระยะที่สั้นกว่า
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ ช่วยรั้งร่างกายผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แนบ
กับเบาะเมื่อเกิดการชน และลดการบาดเจ็บจากการรัดดึงของระบบเข็มขัดนิรภัย
– เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening) ช่วยลดการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอเมื่อเกิดการชน
จากด้านหลัง
– กุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer ป้องกันกุญแจเลียนแบบไม่ให้สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้หากรหัส
ของกุญแจและเครื่องยนต์ไม่ตรงกัน
– ระบบป้องกันการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System) ส่งสัญญาณเสียงเตือนภัย เมื่อมีการบุกรุก

All New YARIS รุ่นใหม่ล่าสุด มี 7 สี รวม 3 สีใหม่ ได้แก่
– สีส้ม..Orange Metallic ใหม่
– สีแดง..Red Mica Metallic ใหม่
– สีฟ้า..Frozen Blue Metallic ใหม่
– สีเทา..Gray Metallic
– สีขาว..Super white
– สีเงิน..Silver Metallic
– สีดำ..Attitude Black Mica

ราคา All New Toyota Yairs มี 4 รุ่น ให้เลือกดังต่อไปนี้
– 1.2G A/T เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 599,000 บาท
– 1.2E A/T เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 549,000 บาท
– 1.2J A/T เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 519,000 บาท
– 1.2J ECO A/T เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 469,000 บาท

โดยที่รุ่นย่อย J ECO CVT 469,000 บาท นั้นจะมาพร้อมกับ
– เหล็กกันโคลงหน้าและหลัง
– กระจกมือหมุน
– เบรคหน้าดิสก์/หลังดรัม
– ล้อกระทะ 14 นิ้ว พร้อมยาง 175/65 R14
– ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์
– ไฟท้ายแบบ LED
– กระจังหน้าสีดำ
– สปอยเลอร์หลังคา
– คิ้วฝากระโปรงท้ายสีดำ
– ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา
– กระจกมองข้างสีดำ
– มือเปิดประตูด้านนอกสีดำ
– คิ้วกันกระแทกด้านข้าง
– เบาะผ้าสีดำ
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
– ABS/EBD/BA
– ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
– กระจกมองข้างปรับธรรมดา

รุ่นย่อย J CVT มาตรฐาน 519,000 บาท จะเพิ่มอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
– ฝาครอบล้อ 14 นิ้ว
– ระบบเซ็นทรัลล็อค
– กระจกปรับไฟฟ้า + ระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ
– กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
– มือเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
– ไฟเบรคดวงที่ 3
– เบาะด้านคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้
– วิทยุ CD FM AM
– ช่องอุปกรณ์ USB และ AUX
– ราวมือจับ 4 ตำแหน่ง
– ช่องเก็บของด้านหลังเบาะผู้โดยสาร

ในขณะที่ รุ่นย่อย E CVT 549,000 บาท จะเพิ่มอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
– ฝาครอบล้อ 15 นิ้วพร้อมยาง 185/60 R15
– วัสดุตกแต่งเกียร์สีเงิน
– คิ้วฝากระโปรงท้ายสีเงิน
– กระจังหน้าสีเงิน
– กระจกมองข้างไฟฟ้า
– สวิทช์เปิดฝาท้ายแบบไฟฟ้า
– Immobilizer
– กุญแจรีโมท
– สัญญาณกันขโมย
– ลำโพง 4 ตำแหน่ง
– เบาะหลังพับได้ 60:40
– แผงปิดห้องสัมภาระด้านท้าย

และในรุ่นย่อย G CVT 599,000 บาท จะเพิ่มอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
– ล้ออัลลอย 15 นิ้ว
– ปุ่มปรับเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
– คิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียม
– Push start และ Smart Entry
– ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์
– กระจกบังลมหน้าแบบ Acoustic Glass
– ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง
– หัวเกียร์และพวงมาลัยหุ้มหนัง
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
– มือเปิดประตูด้านหน้าและภายในโครเมียม
– กระจกมองข้างพับไฟฟ้า
– ช่องเก็บของด้านหลังคนขับ+ผู้โดยสาร
– จอแสดงข้อมูลการขับขี่

ผู้สนใจในตัว All New Toyota Yaris สามารถชมตัวรถคันจริงและสั่งจองได้ที่ดีลเลอร์ทั่วประเทศในงานเปิดตัวระหว่างวันที่ 26-27 ตุลาคม 2013 นี้