หลังจากที่เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน มีข่าวเรื่องโบชัวร์ของ Audi RS5 ได้หลุดออกมาเผยแพร่กันหรา
บนโลก WWW กันว่อน ก่อนจะแถลงเปิดตัวกันในงาน Geneva Motorshow ซะอีก แต่กลับไม่มี
ข้อมูลรายละเอียดสเป๊คต่างๆของตัวรถแต่อย่างใด วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2010) Audi ก็ได้ออกมาประกาศ
ถึงรายละเอียดของ A5 รุ่นย่อยใหม่ ภายใต้รหัส RS5 เรียบร้อยแล้ว  

เป็นไปตามที่คาดหมายกันไว้ว่า RS5 นั้นจะมากับเครื่องยนต์ V8 DOHC 32 วาล์ว 4,200 ซีซี หายใจเอง
โดยไม่ต้องง้อ เทอร์โบ หรือซูเปอร์ชาร์จ ให้เมื่อยตุ้มกันแต่อย่างใด เครื่องยนต์ บล็อกนี้ ก็เป็นที่คุ้นเคยกันดี
ในหมู่แฟนพันธ์แท้ของ Audi เพราะเคยถูกวางไว้กับพี่น้องร่วมสายเลือดอย่าง RS4 (ที่พี่จิมมี่ เคยทำรีวิวแล้ว 
นั่นเอง

แต่จะยกเครื่องเดิมมาทั้งดุ้นเลยก็คงจะไม่เหมาะ ทางวิศวกรของ Audi ได้ปรับเพิ่มกำลังสูงสุดขึ้นจากเดิม
420 แรงม้า กลายเป็น 450 แรงม้า (PS) ที่ 8,250 รอบ/นาที ส่วน แรงบิดสูงสุดก็ขยับเป็น 43.74 กก.-ม.
ซึ่งจะมีให้ใช้กันไล่ไปได้ตั้งแต่ 4000 – 6000 รอบ/นาที เลยทีเดียว ทำความเร็ว 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ได้ภายใน 4.6 วินาที  ความเร็วสูงสุดถูกล๊อคไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือถ้าลูกค้าต้องการจะปลดล็อค
ความเร็วปลายก็สามารถทำได้ โดยที่ความเร็วสูงสุดที่ทำได้นั้นจะอยู่ที่ 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เครื่องยนต์บล็อกนี้ จะจับคู่มากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro อันเลื่องชื่ออยู่แล้ว แต่สิ่งที่แตกต่างไป
จากปกตินั้นก็คือ เปลี่ยนเฟืองท้ายเดิมแบบ Torsen center differential ที่ติดตั้งในรถรุ่นก่อนๆ  มาใช้
เฟืองท้ายที่ออกแบบใหม่ในรูปแบบ  Crown gear differential ที่ควบคุมชุดคลัทช์ด้วยระบบไฟฟ้า  
อัตราส่วนการส่งกำลังระหว่างล้อ หน้า-หลัง ในเวลาปกติจะอยู่ที่ 40:60 โดยที่สามารถแปรผันกำลัง
ไปตามสภาพการขับขี่ได้มากสูงถึง 70% ในล้อหน้า  และ 85%  นอกจากนี้ยังมีอ๊อปชั่นเสริมพิเศษ
อย่างระบบกระจายแรงบิดแปรผันในล้อแต่ละข้างอย่าง Active torque vectoring rear differential
ไว้ให้ลูกค้าได้เลือกสั่งเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมให้กับเจ้า RS5 ได้เฉียบคมยิ่งขึ้น  
โดยที่ระบบส่งกำลังของ Audi RS5 นั้นจะส่งผ่านกำลังผ่านชุดเกียร์คลัทช์คู่ S-Tronic 7 จังหวะ (DCT)

Audi RS5 จะเปิดตัวต่อสาธารณะชนกันในงาน Geneva Motorshow สัปดาห์หน้านี้แล้ว และพร้อม
จะออกทำตลาดยุโรปในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ โดยที่สนนราคาเริ่มต้นกันที่ 77,000 ยูโร ส่วนทางตลาด
ทางฝั่งอเมริกานั้นคงต้องรอกันต่อไปก่อนระยะ ส่วนในบ้านเรา เห็นทีจะต้องหวังเพิ่งทาง MTM Thailand
กันแล้วกระมัง