BMW Thailand แจ้งมาแล้ว เมื่อวานนี้ (3 มีนาคม 2010) ว่า จะเปิดตัว รถยนต์รุ่นใหม่
ในงาน Bangkok International Motor Show มากถึง 4 รุ่นรวด มีทั้งรุ่น X1 ประกอบนอก
สดๆร้อนๆจากยุโรป รวมทั้ง รถประกอบในประเทศ ที่เติม แก็สโซฮอลล์ E20 ได้แล้ว (เสียที)
ทั้ง 730Li 325i Sport จำนวนจำกัด 48 คันเท่านั้น และ 318i ที่อัดออพชันมาเพียบ แต่ขายแค่
2.299 ล้านบาท ส่วน MINI ยังคงนำรุ่น Cooper 50 Mayfair และ Cooper-S 50 CAMDEN
อวดโฉม เหมือน Motor Expo ที่ผ่านมา ตามเดิม รายละเอียดคร่าวๆ มีดังนี้

BMW X1 xDrive20d

ภายใต้คอนเซ็ปต์ครอสโอเวอร์ที่ผสมผสานความสปอร์ตและความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว
BMW X1 ได้เอาคุณสมบัติที่โดดเด่นของรถยนต์อเนกประสงค์ (เช่น ความบึกบึน
ความสูงใต้ท้องรถ และตำแหน่งนั่งขับสูง) ผนวกรวมเข้ากันคุณสมบัติของรถยนต์
แบบสปอร์ตซาลูน (เช่น โอเวอร์แฮงค์สั้น ฐานล้อยาว) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รูปทรงของ BMW X1 มีสัดส่วนที่เน้นถึงความสปอร์ตล้ำสมัย ด้วยความยาวตัวรถ
4.45 เมตร ความยาวฐานล้อ 2.76 เมตร ฝากระโปรงหน้ายาว และแนวหลังคา
ลาดเอียงลงในด้านท้าย มันจึงมีรูปลักษณ์ที่บ่งสะท้อนความสปอร์ตได้อย่างมีสไตล์
ในขณะเดียวกันมันก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของรถบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ย์ X ไว้
อย่างเหนียวแน่น

การออกแบบภายในของ BMW X1 ได้สะท้อนแนวทางของรถครอสโอเวอร์ที่ผสมผสาน
ความสปอร์ตและความอเนกประสงค์ได้อย่างไร้ที่ติ ตำแหน่งการนั่งขับสูงตามแบบรถยนต์
อเนกประสงค์ ซึ่งนอกจากทำให้ผู้ขับมีทัศนวิสัยที่ดีแล้ว ยังเป็นระดับความสูงที่สะดวกในกา
รขึ้น-ลงรถด้วย ตำแหน่งของอุปกรณ์แสดงผลและปุ่มบังคับควบคุมต่างๆ ถูกวางไว้อย่าง
เหมาะสม ใช้งานง่ายสะดวกมือ ส่วนคอนโซลกลางและแดชบอร์ดที่เอียงทำมุมเข้าผู้ขับ
ให้ความรู้สึกเฉกเช่นรถสปอร์ต อีกทั้งยังเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูด้วย 


 
รุ่นที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย คือ BMW X1 sDrive20d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ
DOHC 16 วาล์ว 2,000 ซีซี พร้อมเทคโนโลยีระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน กำลังสูงสุด
177 แรงม้า (HP) และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-3,000 รอบ ถ่ายทอดกำลังผ่าน
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด อัตราเร่งจาก 0 ถึง100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 8.3 วินาที
และด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ซึ่งรวมถึงระบบเครื่องยนต์แบบ Advanced Diesel,
ระบบ Brake Energy Re-Generation และระบบปั๊มน้ำและปั๊มน้ำมันเครื่องแบบ On-demand
ทำให้ BMW X1 sDrive20d มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยถึง 16.9 กิโลเมตรต่อลิตร และ
ค่าเฉลี่ยการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 155 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งเป็นค่าที่ดี่ที่สุด
ในบรรดารถยนต์ SUV ที่มีขายในปัจจุบัน

มีการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุลหน้า-หลัง 50:50, ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง อีกทั้งยังมี
ระบบช่วงล่างอันทันสมัย ที่ใช้ระบบปีกนกแบบ Double-joint สำหรับด้านหน้า และระบบ
มัลติลิงค์แบบ 5 จุดสำหรับด้านหลัง 

BMW 730Li CKD E20
หลังประสบความสำเร็จกับยอดขายของ BMW 740Li และ BMW 730Ld ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
คราวนี้ BMW ได้เสริมรุ่นย่อยใหม่ให้ตระกูล ซีรีส์ 7 ด้วย BMW 730Li ซึ่งนอกจากจะสามารถ
ใช้แก็สโซฮอล์ E20 ได้แล้ว 730Li ยังเป็นรถระดับซุเปอร์ซาลูนที่มีอัตราการประหยัดน้ำมัน
และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมดีที่สุดคันหนึ่งในกลุ่มตลาด Luxury Saloon   

BMW 730Li เวอร์ชันไทย จะติดตั้งระบบ DDC Dynamic Damper Control ที่ช่วยให้ปรับ
ความนุ่มนวลของระบบช่วงล่างได้ 4 รูปแบบ ให้เหมาะสมกับทุกสภาพถนน เพิ่มเสถียรภาพ
ของรถขณะใช้ความเร็วสูงอีกด้วย และระบบ Night Vision ใหม่ ซึ่งเป็นระบบกล้องอินฟาเรด
ที่มาพร้อมกับความสามารถในการจับทิศทางและความเร็วของคนหรือสัตว์ เพื่อคำนวณและ
เตือนล่วงหน้าให้ผู้ขับได้ทราบถึงสถานการณ์ที่อาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
โดยเฉพาะยามค่ำคืนและอยู่เกินระยะส่องของไฟหน้า นอกจากนั้น BMW 730Li ยังติดตั้ง
ระบบนำทาง BMW Navigation System Professional ซึ่งทำงานบนระบบฮาร์ดดิสก์ เพื่อให้
ความสะดวกสบายและรวดเร็วในการค้นหาเส้นทาง และยังสามารถจัดแบ่งหน่วยความจำ
ขนาด 12 GB เพื่อเก็บข้อมูลเพลงและวีดิโอได้อีกด้วย

เครื่องยนต์เป็นแบบ เบนซิน 6 สูบเรียง DOHC 24 วาล์ว 3.0 ลิตร พร้อมระบบแปรผันวาล์ว
VALVETRONIC 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร / 2,600-3,000 รอบ อัตราเร่งจาก
0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ ในเวลา 9.0 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 10.3 กิโลเมตร/ลิตร
และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 229 กรัมต่อกิโลเมตร
ราคา 7,299,000 บาท (ราคาพิเศษสำหรับช่วงแนะนำ 100 คันแรก):



BMW 325i Sport เติม แก็สโซฮอลล์ E20 ได้ ผลิตจำนวนจำกัดแค่ 48 คันเท่านั้น

มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมความสปอร์ตต่างๆ เช่น ชุดแต่ง M Aerodynamics Kit พร้อมระบบช่วงล่าง M Sport,
ล้ออัลลอยด์ M ขนาด 18 นิ้ว, ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบสเต็ปทรอนิคและแป้นเปลี่ยนเกียร์
บนพวงมาลัย, พวงมาลัย M Sport พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น, ระบบเครื่องเสียงไฮไฟ, ระบบนำทาง BMW
Navigation System Professional ซึ่งทำงานบนระบบฮาร์ดดิสก์ ที่สามารถจัดแบ่งความจำ 12 GB เพื่อใช้
เก็บข้อมูลเพื่อความบันเทิง เช่น เพลงและวีดิโอ และระบบ iDrive ใหม่พร้อมจอแสดงผลขนาด 8.8 นิ้ว
เป็นต้น นอกจากนี้ มันเพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยพิเศษซึ่งผนวกเข้ากับระบบรักษาเสถียรภาพ
DSC Dynamic Stability Control ได้แก่ ระบบเบรกพิเศษสำหรับความเร็วสูง ที่เมื่อผู้ขับยกเท้าออกจาก
แป้นคันเร่ง ระบบเบรกจะเข้าโหมดเตรียมพร้อมทันที และเมื่อผู้ขับเหยียบแป้นเบรก ระบบก็จะตอบสนอง
ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการลดเวลาในการตอบสนองและเพิ่มความปลอดภัยโดยเฉพาะขณะใช้ความเร็วสูง,
ระบบ Dry Brake ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยรีดน้ำและความชื้นออกจากระบบเบรก เพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงาน
สูงสุด โดยเฉพาะเวลาขับในสภาพถนนเปียก และระบบ Brake Fade Compensation ซึ่งจะเพิ่มแรงจับเบรก
อย่างอัตโนมัติตามอุณหภูมิของจานและผ้าเบรก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเบรกในขณะที่ระบบเบรก
ถูกใช้งานหนักจนมีความร้อนสะสม

วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง พร้อมด้วยระบบแปรผันวาล์ว VALVETRONIC
218 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,750-4,250 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในเวลาเพียง 7.7 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 11.4 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอน-
ไดอ๊อกไซด์เพียง 174 กรัม/กิโลเมตร (ยังไม่ประกาศราคา)
 
BMW 318i เติมแก็สโซฮอลล์ E20 ได้
รุ่นเริ่มต้นที่เน้นคุ้มค่าสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู BMW 318i มาพร้อมกับเทคโนโลยี EfficientDynamics
อีกทั้งยังสามารถใช้พลังงานทางเลือกก๊าซโซฮอล์ E20 ได้ เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เน้นความคุ้มค่า
ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเริ่มต้นก็ตาม BMW 318i ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ
เช่น ระบบ Comfort Access, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, ระบบพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ระบบ PDC Parking
Distance Control สำหรับช่วยกะระยะขณะถอยหลัง และระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability
Control BMW 318i คันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นประสบการณ์ Sheer Driving Pleasure ได้เป็นอย่างดี

วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร พร้อมด้วยระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC
136 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ที่ 5,750 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา
10.8 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 12.8 กิโลเมตร/ลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง
155 กรัม/กิโลเมตร ราคา 2,299,000 บาท (ถือว่าเป็น BMW ประกอบในประเทศที่ถูกที่สุด ในบรรดา BMW
ทุกรุ่นที่ขายในบ้านเราตอนนี้เลยทีเดียว)

นอกจาก BMW ทั้ง 4 รุ่นใหม่แล้ว ในฝั่ง MINI ก็จะยังคงมี MINI 50 Mayfair (ราคา 2,600,000 บาท)
และ MINI 50 Camden (ราคา 3,000,000 บาท)
ทั้งสองเป็นมินิรุ่นพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นมาในโอกาสฉลอง
ครบรอบ 50 ปีนี้ของมินิ โดยรุ่น Mayfair ให้เป็นตัวแทนของอดีตที่ยิ่งใหญ่ของรถคันเล็กอย่างมินิ
และให้รุ่น Camden เป็นตัวแทนจากอนาคต ตกแต่งเป็นพิเศษเฉพาะของแต่ละรุ่น ทั้งในเรื่องของ
สีภายนอก ล้ออัลลอยด์ลายพิเศษ และการตกแต่งภายในด้วย ทั้ง MINI 50 Mayfair และ MINI 50 Camden
จะหยุดการผลิตในเร็วๆนี้

MINI Cooper 50 Mayfair ราคา 2,600,000: เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบแปรผันวาล์ว
VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตรที่ 4,250 รอบ/นาที
อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเวลาเพียง 9.1 วินาที  อีกทั้งยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย
ถึง 17.2 กิโลเมตรต่อลิตรและอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ยเพียง 139 กรัมต่อกิโลเมตร

MINI Cooper S 50 Camden ราคา 3,000,000: เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศ
Twin-Scroll Turbo และระบบฉีดน้ำมัน GDI Gasoline Direct Injection กำลังสูงสุด 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด
240 นิวตัน-เมตรระหว่าง 1,600-5,000 รอบ และสามารถเพิ่มเป็น 260 นิวตัน-เมตรในขณะเร่งแซงด้วยฟังก์ชั่น
Over-boost ของเทอร์โบ มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเวลาเพียง 7.1 วินาที  อีกทั้งยังมี
อัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยถึง 14.5 กิโลเมตรต่อลิตรและอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ย
เพียง 164 กรัมต่อกิโลเมตร

และในส่วนของ จักรยานยนต์ คราวนี้ BMW นำสุดยอด ซูเปอร์ไบค์ คันแรกในตระกูล
มาเปิดตัวในเมืองไทยเป็นครั้งแรก นั่นคือ BMW S 1000 RR

BMW S 1000 RR ใช้เครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบ 1,000 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ แถมยังมี
วาล์วแบบพิเศษที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม สามารถผลิตกำลังสูงสุดถึง 193 แรงม้า ที่ 13,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 112 นิวตัน-เมตรที่ 9,750 รอบ และมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรภายใน 2.9 วินาที
 ติดตั้งบนตัวถังเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา มุ่งเน้นที่เสถียรภาพการขับ ความปราดเปรียว
และความเฉียบคมในการบังคับที่เป็นเลิศ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับมอเตอร์ไซค์แข่ง
นอกจากนั้น BMW S 1000 RR ยังได้รับการติดตั้งระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆ เช่น Race ABS
และระบบรักษาเสถียรภาพ DTC Dynamic Traction Control ที่สามารถปรับเลือกโหมดการขับขี่
ให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานได้ เช่น โหมด Rain สำหรับถนนเปียก โหมด Sport สำหรับ
การขับขี่แบบสปอร์ต โหมด Race สำหรับการแข่งขัน และ โหมด Slick สำหรับใช้ในสนามแข่ง
และใส่ยางแบบสลิ๊ค  

แคมเปญจ์มอเตอร์โชว์ – BMW  

พิเศษสำหรับในช่วงมอเตอร์โชว์  บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยจัดแคมเปญจ์พิเศษ สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ
ถยนต์ BMW ในงาน คือ (1) แคมเปญ ”Trade-In” และ (2) แคมเปญจ์ “ของขวัญพิเศษ iPod / iPhone”
แคมเปญจ์ดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 6 เมษายน พ.ศ. 2553

* ไฮไลท์ของแคมเปญจ์ ”Trade-In”

 รุ่นที่สั่งซื้อ             แคมเปญจ์  ”Trade-In”

BMW 520d Sport     มูลค่า 350,000 บาท
BMW X3 xDrive25i    มูลค่า 350,000 บาท
BMW 525i Sport      มูลค่า 350,000 บาท
BMW 525i               มูลค่า 400,000 บาท
เงื่อนไข ค่า Trade-In ดังกล่าว เป็นมูลค่าสนับสนุนเพิ่มเติม
จากราคาประเมินของรถเก่าอ้างอิงจาก Red Book โดยรถ
ที่จะนำมา Trade-In จะต้องมีมูลค่าประเมินมากกว่า 400,000 บาท
โดยอ้างอิงจาก Red Book

* ไฮไลท์ของแคมเปญ ”ของขวัญพิเศษ iPod / iPhone”
สำหรับช่วงมอเตอร์โชว์นี้ (1 มีนาคม-6 เมษายน พ.ศ. 2553 เท่านั้น) ทุกท่านที่ซื้อรถยนต์ BMW ในงานนี้
และรับรถภายใน 30 เมษายนนี้ จะได้รับของขวัญจาก BMW Thailand คือ iPod Nano หรือ iPhone 3Gs
(แล้วแต่รุ่นรถที่สั่งซื้อ) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบ USB Connector เพื่อฟังเพลงจากระบบเครื่องเสียง
ของรถ BMW ได้

รายละเอียดเพิ่มเติม โทรถามกันเอาเองได้ตามสะดวกที่ BMW Contact Center โทร. 1-800 269-269
(ถ้าโทรออกจากโทรศัพท์มือถือ โทร. 1-401-269-269) หรือติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายของ BMW ทั่วประเทศ

———————————————///——————————————-