Daihatsu ถือเป็นแบรนด์รถเล็กอันดับ 1 ที่เร่งสปีดแซง Suzuki ไม่นานนัก แต่เพื่อให้แน่ใจว่าจะแซงได้อย่างถาวรหรืออย่างน้อยให้ตนเองได้อันดับ 1 ยาวนานที่สุดจึงต้องเร่งส่งรถใหม่ ๆ อุดช่องว่างให้เต็มตลาดอย่างรวดเร็ว

บูธ Daihatsu ประจำปีนี้ใช้แนวคิด “Innovation for Tomorrow” นวตกรรมสำหรับวันพรุ่งนี้สวนทางกับแนวคิดของ Suzuki พอสมควร อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า Daihatsu มุ่งเน้นรถยนต์พลังงานทางเลือกหรือรถที่ลดใช้พลังงานของโลกไปอีกขั้นหนึ่งด้วยรถยนต์ขนาดเล็กน่ารัก ขับขี่สนุกและประหยัด

 
 

เริ่มต้นด้วย e:S ชื่อเต็มว่า eco&smart รถต้นแบบที่กำหนดมาตรฐานรถเล็กในอนาคตที่ควรจะเป็นได้แก่ ฐานล้อที่สั้นเพียง 2,175 มม.ลดเนื้อที่ตัวถังแต่สามารถบรรจุผู้โดยสารผู้ใหญ่ 4 คนได้สบาย ๆ ,ตัวถังมีน้ำหนักเบาแค่ 700 กิโลกรัมก็เพราะพัฒนาเบาะนั่งมีน้ำหนักเบา และวัสดุชิ้นส่วนตัวรถน้ำหนักเบานั่นเอง

 
 

Daihatsu e:S ยังบรรจุเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อการลดใช้พลังงานด้วยเทคโนโลยีควบคุมการเผาไหม้เอกสิทธิ์ของ Daihatsu และติดตั้งระบบ Idling Stop ระบบดับเครื่องยนต์ขณะจอดที่น่าจะติดตั้งในรถเล็กยอดนิยมอีกไม่นาน

 
 
 

ผลของเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้ Daihatsu เคลมว่า Daihatsu e:S ประหยัดน้ำมัน 30 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐานการวัดอัตราสิ้นเปลืองโหมด 10-15 ประหยัดเทียบเท่ารถ Hybrid เลยทีเดียว

 
 
 
 
 
 
 

คันที่สอง Daihatsu Tanto EXE และ Tanto EXE Custom รถโปรโตไทป์พร้อมวางจำหน่ายไม่นานนัก บางคนอาจจะถามว่าต่างจาก Tanto เวอร์ชันธรรมดาตรงไหน จะมีเพียงแค่ตัวถังภายนอกที่ดูไม่เหมือน Tanto ดั้งเดิมเอาเสียเลยกลับดูเหมือนรถมินิแวนธรรมดา ๆ ที่ดูละม้ายกับ Daihatsu Move เสียเหลือเกิน

 
 

แต่คุณงามความดีของ Daihatsu Tanto EXE นั้นดีกว่า Tanto เวอร์ชันปกติตรงที่มีตัวถังน้ำหนักเบา ประหยัดน้ำมันมากกว่าและขนาดห้องโดยสารที่ขยายออกไปมากขึ้นไปอีก(ปกติ Tanto ดั้งเดิมก็กว้างมาก ๆ อยู่แล้ว)

 
 
 
 

ที่สำคัญคุณภาพห้องโดยสารของ Tanto EXE ดูมีคุณภาพดีมากทั้งการออกแบบแผงคอนโซลหน้า เบาะนั่ง จนไปถึงวัสดุที่ใช้บุห้องโดยสาร รวม ๆ แล้วดูน่าใช้มาก ๆ ครับและคุณภาพอาจจะดีกว่า Suzuki Palette ที่จัดได้ว่าออกแบบได้สวยและมีวัสดุภายในห้องโดยสารดีที่สุดในรถ K-car ด้วยกัน

 
 

คนญี่ปุ่นอดใจไม่นานนักเพียงแค่รอต้นปีหน้า Tanto EXE จะยลโฉมให้เป็นเจ้าของกันครับ

 
 

Daihatsu Deca Deca ชื่อฟังดูยิ่งใหญ่มากแต่ที่จริงแล้วมันคือรถเล็ก K-car ต้นแบบทรงกล่องที่มีหน้าตาคล้าย ๆ Honda Mobilio ผสมพันธุ์กับ Daihatsu Tanto ดั้งเดิมและ Daihatsu Naked อยู่ไม่น้อย

 
 
 
 

แนวคิด Deca Deca คือการเป็นแนวกล่องบึกบึนหรือแนวคิด Super Box ที่เน้นเทคโนโลยีการออกแบบห้องโดยสารให้มีความกว้างขวาง พื้นตัวถังเรียบสนิท พื้นต่ำให้เข้าออกห้องโดยสารได้ง่าย ประตูบานหน้าและหลังเปิดแบบ side by side หรือประตูตู้กับข้าว 135 องศา

 
 
 
 

ห้องโดยสารเน้นเนื้อที่ใช้สอยมากเริ่มจากแผงคอนโซลที่บางเฉียบ เบาะนั่งทั้งสองตอนที่บางเฉียบเอามาก ๆ ดูละม้ายเบาะนั่งรถโดยสารประจำบางรุ่น แต่เห็นแบบนี้กรุณาอย่าดูถูกเป็นอันขาดเพราะชุดเบาะนั่งเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อเนกประสงค์เท่าที่สุดที่คุณเคยเห็นมาครับ ยกตัวอย่าง หากคุณจะจัดประชุมส่วนตัว คุณสามารถจัดเรียงเบาะให้หันหน้าชนกันและต้องกางโต๊ะขนาดย่อมที่ติดตั้งไว้ด้านข้างห้องโดยสารเพื่อวางอุปกรณ์การประชุม เป็นต้น

 
 

คันสุดท้าย Daihatsu Basket แปลกันตรง ๆ หมายถึงตะกร้าใส่ของนั่นเอง  เมื่อมองดูรูปทรงของรถก็ไม่แปลกใจนักเพราะมันเป็นรถเปิดประทุน (Convertible) ที่มีเสาค้ำบริเวณเสา B ดูเผิน ๆ เหมือนกระเช้าหรือตะกร้าตามชื่อครับ

 
 

ดีไซน์ตัวรถดูย้อนยุคสมัย 20 ปีก่อนที่เน้นเหลี่ยมสันมากกว่าโค้งมนหรือเส้นพลิ้วเหมือนรถปัจจุบัน นอกจากรถจะดูย้อนยุคแล้ววิธีการปิดประทุนก็ย้อนยุคกับเขาด้วย เพราะ Daihatsu Basket ไม่ซ่อนหรือติดตั้งผ้าใบไว้คลุมหลังคา แต่ Daihatsu มอบชิ้นส่วนปิดหลังคาสำหรับห้องโดยสารตอนหน้าและโครงหลังคาผ้าใบสำหรับห้องโดยสารตอนหลัง

 
 
 

ภายในห้องโดยสารแม้จะดูย้อนยุคแต่ก็มีความทันสมัยมากเช่นกัน โดดเด่นวัสดุหุ้มแผงคอนโซลและเบาะมีลวดลายเสมือนพื้นผิวเปลือกไม้สีน้ำตาลพาสเทลทำให้ห้องโดยสารดูผ่อนคลายครับ

นี่คือของเด็ดประจำบูธ Daihatsu ในงาน Tokyo Motorshow ประจำปีนี้ รายละเอียดเต็ม  ๆ จะปล่อยให้ทุกคนได้รับทราบในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ครับ