เวลาผ่านไปเหมือนโกหกจริง ๆ นะครับคุณผู้อ่าน ผมยังรู้สึกว่า Ford Focus เจเนเรชั่นที่ 2 ยังเพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้เอง แต่เมื่อลองย้อนเวลากลับไปก็ลองนับนิ้วดูคร่าว ๆ แล้ว Ford Focus เจเนเรชั่นที่ 2 มีอายุการตลาดราว 6 ปีไม่มากและไม่น้อยเกินไปสำหรับรถยุโรปยุคปัจจุบันที่เริ่มกระชั้นเวลาการเปลี่ยนโฉมจากเดิม 10 ปีลงมาเป็น 8 ปีและลงท้ายด้วย 6 ปีเพื่อให้ทันกับการแข่งขันที่รุนแรงทั่วโลก

 
 

ปีนี้ Ford ก็ได้ฤกษ์เผยโฉม Focus เจเนเรชั่นที่ 3 แล้วในงาน Detroit Autoshow 2010 และเป็นการเปิดตัวรถตระกูล Focus ครั้งแรกของโลกในสหรัฐอเมริกา ทั้งที่รถรุ่นนี้เป็นรถหัวใจหลักในตลาดยุโรปตั้งแต่ต้น เพราะตลาดยุโรปค่อนข้างอยู่ตัวแล้วเหลือตลาดอเมริกันที่ Ford ยังต้องการคอมแพคท์ที่สดใหม่จริง ๆ ยิ่งถ้าคุณเห็นโฉมหน้า Ford Focus เวอร์ชันอเมริกันล่าสุดแล้วอาจจะมีอารมณ์หัวเสียได้ เพราะรถที่ขายกันในตลาดสหรัฐอเมริกันนั้นก็คือ Focus โฉมแรกที่นำมาปรุงแต่งหน้าเสียใหม่  ซึ่งเราก็มิทราบเหตุผลกลใดที่ Ford อเมริกาเหนือไม่นำ Focus เจเนเรชั่นที่ 2 มาทำตลาดในบ้านเกิด

 
 

แต่ไหน ๆ ก็เปิดตัว Focus เจเนเรชั่นที่ 3 จะมาแบบขาด ๆ เกิน ๆ ก็กระไรอยู่ Ford จึงเปิดตัว Focus พร้อมกันทั้ง 2 ตัวถังชนิดที่ว่าความสวยกินกันไม่ลงเลยทีเดียว

 
 

คุณ Alan Mulally ประธานและซีอีโอบริษัท Ford ออกมายืนยันว่า Focus โฉมใหม่เป็นรถยนต์ 1 ในยุทธศาสตร์สำคัญของ Ford ทั่วโลกภายใต้ความเป็นเอกภาพเดียวกันหรือ ONE Ford Strategy ตอบสนองสินค้าที่มีคุณภาพเหมือนกันทั่วโลก

 
 

หัวใจหลักสำคัญของรถตระกูล Ford C-Car Platform ยุคใหม่ของพวกเขา คือ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพภายใต้ราคาที่ซื้อหาได้ รวมทั้งให้ความประหยัด,ความปลอดภัยและเทคโนโลยีที่เหนือชั้นไปอีก

Ford Focus โฉมใหม่ก็เป็นรถรุ่น 1 ใน 10 รุ่นที่ถูกพัฒนาจากพื้นตัวถังและกลยุทธ์ C-Car Platform ซึ่ง Ford คาดหวังยอดขายรวม C-Car Platform นี้มากถึง 2 ล้านคันทั่วโลกภายในปี 2012 และรถคันแรกที่ใช้พื้นตัวถังนี้ล่วงหน้าไปแล้วก็คือ Ford C-Max และ Ford Grand C-Max ที่เพิ่งเปิดตัวปลายปีที่แล้ว

 
 

ความท้าทายในการพัฒนารถในตระกูล C-Car Platform คือต้องตอบสนอความต้องการของลูกค้าที่อยากซื้อรถขนาดเล็กที่โดดเด่นไปด้วยความประหยัดน้ำมัน แต่ไม่ละทิ้งเรื่องของสไตล์,เทคโนโลยี,การเชื่อมต่อการสื่อสาร และคุณภาพการขับขี่

 
 

ผู้ที่จะต้องรับผิดชอบกับความคาดหวังของลูกค้า C-Car ก็หนีไม่พ้นหน่วยวิจัยและพัฒนารถยนต์ Ford รถขนาดเล็กและขนาดกลาง แห่งภาคพื้นยุโรป เมือง Merkenich  ประเทศเยอรมนีเป็นแม่งานสำคัญ และต้องทำงานร่วมกับฝ่ายพัฒนาเทคนิควิศวกรรมในเมือง Danton สหราชอาณาจักร โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองลูกค้าทั่วโลกมากกว่าเดิม

 
 

งานดีไซน์ภายนอกของ Ford Focus เจเนเรชั่นที่ 3 คือสเตปต่อไปของ Kinetic Design ยุคใหม่ ถึงขนาดคุณ J Mays ผู้รับผิดชอบงานออกแบบรถยนต์ Ford ชื่อดังหลาย ๆ รุ่นต้องเอ่ยปากว่า Focus ใหม่เป็นแหล่งศูนย์รวม Trend การออกแบบสมัยใหม่ ด้วยงานออกแบบที่ตอบสนองทางด้านอารมณ์การขับขี่ก่อนที่จะเข้าไปนั่งขับเสียด้วยซ้ำ

 
 

Focus ทั้งตัวถังซีดานและแฮทช์แบคมาในมาดสปอร์ตปราดเปรียวเพรียวลม ซึ่งเป็นอีกขึ้นของ Kinetic Design ที่ใช้กับรถเล็กและรถขนาดกลางเวอร์ชันล่าสุด ให้ความรู้สึกเหมือนรถกำลังวิ่งแม้ขณะจอดนิ่ง ๆ  สัดส่วนของตัวรถดูปราดเปรียว คล่องแคล่ว เส้นบ่าด้านข้างรถที่ดูแข่งแกร่งก็รับกับความเพรียวบางทั้งคัน

 
 

การออกแบบภายในห้องโดยสารเราต้องขอบอกเลยว่าดีกว่ารุ่นเดิมราวหลายล้านปีแสงเพราะมันดูทันสมัย และมีความหรูหราไปในตัว ยิ่งบุด้วยวัสดุห้องโดยสารที่หุ้มไปทั่วทั้งคันก็จะเป็นเงาสะท้อนทำให้ดูมีราคาค่างวดมากกว่าเดิม

จุดเด่นของ Ford Focus ใหม่คือขุมพลัง EcoBoost เทคโนโลยีระบบฉีดเชื้อเพลิงตรง (DI) พ่วงเทอร์โบชาร์จก็มีกับเขาแล้วด้วยขนาดความจุ 2.0 ลิตรพร้อมวาล์วแปรผัน Ti-VCT ช่วยเพิ่มสมรรถนะถึง 20 แรงม้าและประหยัดขึ้นอีก 10 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร Duratec บล๊อกเดิม และที่ขาดไม่ได้เลยคือเกียร์คลัทช์คู่ PowerShift 6 จังหวะ เกียร์ลูกนี้ Ford อ้างว่าสามารถลดการใช้เชื้อเพลิงลงอีก 9 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะลูกเดิม

 
 

ส่วนมาตรฐานการขับขี่,มาตรฐานความปลอดภัยยังคงไว้เช่นเคย และยังจะเพิ่มมาตรฐานมากขึ้นเสียด้วยซ้ำเพราะ Ford ออกแบบให้ Focus โฉมใหม่ จะใช้เหล็กกล้าที่ทนทานต่อการบิดตัวสูงถึง 55 เปอร์เซนต์สำหรับตัวถังภายนอก และโครงสร้างตัวถังมากกว่า 26 เปอร์เซนต์จะใช้เหล็กกล้าทนต่อการบิดชนิดพิเศษผสมกับเหล็กโบรอนมากกว่ารถทุกรุ่นที่ Ford ผลิตในปัจจุบัน!!

ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับตลาดอเมริกัน Ford จะติดตั้ง SYNC เวอร์ชันใหม่ที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์และสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ในตัว

 
 

กำหนดการณ์การอวดโฉมครั้งแรกในโลกไม่ต้องรอนานเลยครับ ตั้งแต่วันที่ 11-24 มกราคม 2010 Ford ก็อวดโฉม Focus โฉมใหม่ในงาน Detroit Autoshow 2010 หลังจากนั้น Ford ก็จะเตรียมงานเปิดตัวเพื่อให้ลูกค้าจับจองได้ภายในปลายปี 2010 สำหรับตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกา และพร้อมส่งมอบหรือทยอยเปิดตัวให้ครบทุกประเทศในภูมิภาคยุโรปภายในต้นปี 2011

หลังจากนั้นก็เตรียมเปิดตัวในตลาดเอเชีย,อาฟริกา และอเมริกาใต้ (ละตินอเมริกา) รถทั้งหมดจะถูกผลิตจากฐานการผลิตทั้ง 3 แห่งได้แก่ เยอรมนี,สหรัฐอเมริกาและประเทศจีน

ส่วนประเทศไทยแน่ชัดแล้วว่าเราจะได้ยลโฉม Ford Focus โฉมใหม่รหัสพัฒนา C346 ได้ภายในปี 2012 จากโรงงานส่วนต่อขยาย AAT2 นั่นเอง