กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอบสนองความต้องการรถยนต์ระดับหรูแบรนด์มินิ
ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค เริ่มการประกอบสำหรับรถยนต์มินิ คันทรี่แมน
เป็นครั้งแรกที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอร์ริ่ง นิคมอุตสาหกรรมอมตะ จ.ระยอง ถือเป็น
อีกขั้นแห่งความสำเร็จของมินิ นับตั้งแต่เริ่มผลิตรถยนต์มินิคันแรกเมื่อปี พ.ศ. 2502 ณ เมืองอ๊อกซฟอร์ด
สหราชอาณาจักร
ทำการเปิดตัวเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา

alt

พิธีเปิดการขยายสายการประกอบรถยนต์ใหม่นี้จัดขึ้นที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จ.ระยอง โดยมีทั้ง
ตัวแทนจากภาครัฐ พันธมิตรธุรกิจ สื่อมวลชน และทีมงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เข้าร่วมฉลอง
ความสำเร็จที่สำคัญอีกก้าวของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป พร้อมเปิดตัวรถยนต์มินิ ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่
มินิ คูเปอร์
คันทรี่แมน, มินิ คูเปอร์ ดี คันทรี่แมน และ มินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรี่แมน
ที่ได้รับการประกอบขึ้นในประเทศอีกด้วย

การขยายสายการประกอบรถยนต์มินิใหม่นี้จะช่วยตอบสนองความต้องการรถยนต์มินิที่เพิ่มสูงขึ้น                  
ของตลาดภายในประเทศ โดยในปี พ.ศ. 2556 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปประเทศไทยคาดว่าจะสามารถทำลาย
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์มินิของปี พ.ศ. 2555 ที่ทำไว้ 501
คัน รวมถึงการประกอบรถยนต์เพื่อรองรับ
ยอดขายที่จะเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงในปีต่อๆ ไป

มร. แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “การขยายสายการประกอบ
รถยนต์มินิ คันทรี่แมนซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในประเทศไทย ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ของเรา
เนื่องจากตลาดในประเทศไทยให้ความสำคัญต่อ
ยนตรกรรมที่มาพร้อมนวัตกรรมอันล้ำสมัย พร้อมด้วยสมรรถนะที่เต็มเปี่ยม ในขณะเดียวกัน การเปิดสาย
การประกอบรถยนต์ใหม่นี้ยังเป็นการตอกย้ำพันธกิจของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป อย่างชัดเจน
ต่อการดำเนิน
ธุรกิจในประเทศไทยอย่างยาวนานและมั่นคง รวมถึงความมั่นใจของเราว่าประเทศไทย
เป็นศูนย์กลาง
ด้านยนตรกรรมที่มั่นคงของภูมิภาคอาเซียน”

มร. ปีเตอร์ วูลฟ์ กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอร์ริ่ง ประเทศไทย กล่าวถึงการขยาย
สายการประกอบที่โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ครั้งนี้ ว่า “นับตั้งแต่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอร์ริ่ง
ประเทศไทยเริ่มดำเนินธุรกิจในเดือนเมษายน พ.ศ. 2543 บริษัทฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึง
ศักยภาพและ
ประสิทธิภาพในการประกอบรถยนต์ที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
ซึ่งปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญมาจากการทุ่มเทแรงกายแรงใจของทีมงานคนไทยที่เปี่ยมไปด้วยทักษะ
และความสามารถ บริษัทฯ จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สามารถประกอบรถยนต์มินิ คันทรีแมนซึ่งเป็นรุ่น
ที่ได้รับความนิยม เพิ่มเติมขึ้นในสายการผลิต เพื่อเป็นการขยายศักยภาพสูงสุดของกำลังการประกอบรถยนต์
รวมถึงเป็นการสร้างงานให้กับภาคอุตสาหกรรม และยังคงรักษาระดับคุณภาพตามมาตรฐานสากลของ
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สำหรับทั้งรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิอีกด้วย”

สำหรับ MINI Countryman รุ่นประกอบในประเทศ จะมีด้วยกัน 5 รุ่น ได้แก่
– MINI Cooper Countryman Look 1 เครื่องเบนซิน 1.6 ลิตร 122 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ 1.84 ล้านบาท
MINI Cooper Countryman Look 2 เครื่องเบนซิน 1.6 ลิตร 122 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ 1.99 ล้านบาท
MINI Cooper D Countryman Look 1 เครื่องดีเซลเทอร์โบ 1.6 ลิตร 112 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2.04 ล้านบาท
MINI Cooper D Countryman Look 2 เครื่องดีเซลเทอร์โบ 1.6 ลิตร 112 แรงม้า ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2.19 ล้านบาท
MINI Cooper SD Countryman Look 1 เครื่องดีเซลเทอร์โบ 1.6 ลิตร 143 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ 2.49 ล้านบาท

ซึ่งทั้งหมดพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และคาดว่าจะช่วยเสริมความร้อนแรงแก่
ตลาดครอสโอเวอร์ระดับ 2 ล้านบาทไม่น้อย