ใครบางคนเคยบอกไว้ว่า การขึ้นไปเป็นที่ 1 นั้นยาก แต่การรักษาความเป็นที่ 1 นั้น ยากยิ่งกว่า
คำพูดนี้ ผมว่า ยังคงใช้ได้ดีกับบริษัทรถยนต์หรูตราดาว แห่งเยอรมันี อย่าง Mercedes-Benz

ในเมื่อตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ปัญหาใหญ่ที่สุดของ ค่ายรถยนต์ตราดาวในบ้านเราก็คือ การที่
ผู้นำเข้าอิสระ ต่างพากันสั่งรถเข้ามา และกอบโกยยอดขายกันเข้าไป จนปริมาณรถป้ายแดง
ยี่ห้อนี้ มีรถยนต์ที่นำเข้ากันมาเอง มากกว่า ร้อยละ 51 และนั่นอาจส่งผลที่ตามมาถึงบริการ
หลังการขาย ซึ่งลูกค้าต้องเผชิญ ทำให้ Mercedes-Benz ตัดสินใจ ประกาศมาตรการต่างๆ
เพื่อรับมือกับปัญหานี้ งานแถลงข่าวจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (8 กันยายน 2011) ที่ห้อง Grand
Ballroom โรงแรม Centara ราชประสงค์)

บรรยากาศในการแถลงข่าว ขอบอกเลยว่า ผมไม่เคยเห็น อ.อเล็กซ์ เพาฟเลอร์ CEO ของ
Mercedes-Ben Thailand ประกาศ “กร้าว” ได้มากแบบนี้มาก่อน

ปกติ ผมไม่ลง บท Speech ของผู้บริหาร ในงานแถลงข่าว แต่ในครั้งนี้ ขอแหวกธรรมเนียม
สักครั้ง เพราะเป็น Speech ที่ประกาศชัดเจนอย่างมาก ถึงสิ่งที่ อ. Alex คิดกันอยู่ในใจ และ
ดูท่าทางอยากจะพูดมานานแล้ว…

จัดเต็ม ในส่วนที่สำคัญ ไม่แก้ไขข้อความนะครับ

หลายท่านคงทราบดีว่า ปีนี้นับเป็นปีพิเศษอย่างยิ่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพราะเป็นปีที่ทุกคน
ต้องจารึกว่า ปีนี้เป็นปีที่ 125 แล้ว นับจากที่ Carl Benz และ Gotlieb Daimler ได้ประดิษฐ์คิดค้น
รถยนต์คันแรกของโลกขึ้น ในชื่อ “Benz Patent Motor wagen” และเมื่อรถ Mercedes-Benz
คันแรกได้เข้ามาในเมืองไทยช่วงปี 1904 ได้ทำให้รถยนต์เข้ามามีบทบาทสำคัญแทนที่ยาน
พาหนะอื่นๆ บนท้องถนนไปโดยปริยาย  

ซึ่งแน่นอนหลังจากนั้นเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้กลายเป็นแบรนด์ที่คนไทยทั่วไปรู้จักกันเป็นอย่างดี
ในฐานะแบรนด์รถยนต์หรูที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในสมรรถนะของเครื่องยนต์
รูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจ รวมถึงการให้การดูแลลูกค้าอย่างยอดเยี่ยม และการให้บริการหลังการขายของ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยเครือข่ายการให้บริการของผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการที่
มีครอบคลุมทั่วประเทศ และได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก

ความเป็นที่นิยมและปรารถนาที่จะครอบครอง Mercedes-Benz สะท้อนได้จากจำนวนจดทะเบียน
ที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง Mercedes-benz จะเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งที่จะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์หรู
เมอร์เซเดส-เบนซ์จะคงขับเคลื่อนยานยนต์แห่งโลกอนาคตอย่างยั่งยืนภายใต้คุณค่าของแบรนด์
คือความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ความงดงามน่าหลงใหล (Fascination) และ…ความรับผิดชอบ
(Responsibility)

สิ่งสำคัญที่สุดที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่เคยละเลยตลอดในการดำเนินงาน คือ การเป็นองค์กรที่ยึดถือ
ในหลัก ธรรมาภิบาล เรามีการบริหารจัดการที่โปร่งใสในทุกด้าน มีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ ฉะนั้น
การดูแลและปกป้องสิทธิ์ลูกค้าของเราโดยปฏิบัติตามกฎกติกาอย่างเป็นธรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ลองทายซิว่า “คอนเซ็ปต์ของงานในวันนี้ เป็นธีมอะไร ใครเดาได้บ้าง ผมบอกใบ้ให้นะครับ ใคร
สังเกตบ้างว่า    รถที่เรานำมาจัดแสดงในวันนี้เป็นสีอะไร
ถูกต้องครับ รถยนต์ทุกคันที่จัดแสดงในวันนี้เป็นสีขาวทั้งหมด
    The new SLK 200
    The new C 250 Coupé
    E 200 NGT
    The new generation C 200 AVANTGARDE
    E 250 CGI Coupe

ทั้งนี้เราต้องการตอกย้ำสิ่งที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ยึดถือปฏิบัติ ดังนี้   

– เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจแบบขาวสะอาด   
เราให้ความเคารพต่อกฏ ระเบียบ และข้อกฏหมายของประเทศไทย  
– เราให้ความสำคัญต่อการเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศนี้    
– เรา เสียภาษีให้แก่ภาครัฐด้วยความเที่ยงตรง และครบเต็มจำนวนมาโดยตลอด  เราดูแลลูกค้าอย่างดี  
  โดยลูกค้าจะมั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาใดๆตามหลัง

– เรามีความห่วงใยในความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์นำเข้าจากผู้นำเข้าอิสระ
  ซึ่งส่งผลกระทบต่อแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์
– เราทราบว่าสิ่งที่ลูกค้าปรารถนา คือ ความปลอดภัย ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในสมรรถนะของ
  เครื่องยนต์ ความสมบูรณ์แบบของรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจ
– เรารับประกันว่าลูกค้าของเราจะได้รับการบริการและการเอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดีจากผู้จำหน่าย
   เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น

เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีพันธสัญญาที่จะทำธุรกิจในประเทศไทยในระยะยาว ด้วยการลงทุนในโรงงาน
ประกอบรถยนต์ภายในประเทศไทย (ซึ่งสร้างแรงงานรวมถึงคู่ค้ากว่า 1,000 คน) และเป็นมาตรฐาน
เดียวกันกับโรงงานประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก ซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก
แก่คนไทย เรามีความภาคภูมิใจที่จะบอกว่าขบวนการประกอบรถยนต์ได้ผ่านการตรวจสอบอย่าง
ละเอียดในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ตรงตามเกณฑ์มาตรฐานจนเราสามารถผ่านได้รับคะแนนเต็ม 10
จาก 10 คะแนน ซึ่งโรงงานประกอบรถยนต์ในไทยจึงเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่กล่าวถึงในทั่วโลก

นอกจากนี้เราให้ความสำคัญด้านการพัฒนาบุคลากรทั้งในส่วนของทีมขายและทีมบริการ (ประมาณ
กว่า 600 คน) โดยเราจัดให้มีโปรแกรมพัฒนาทักษะและศักยภาพของบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเรามี
คณะอาจารย์ที่ทรงคุณวุฒิและองค์ความรู้แบบมืออาชีพมากกว่า 20 ท่าน เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และ
ทักษะต่างๆให้แก่ทีมงานเพื่อสามารถสนองตอบการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ
แบบมืออาชีพ นั่นหมายความว่า เราจะเพิ่มศักยภาพในงานบริการอย่างสูงสุดรวมถึงปกป้องสิทธิ์ของ
ลูกค้าไปพร้อมกันด้วย

ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้  จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไม ผู้ที่ชื่นชอบและรักในแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์
จึงควรตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพราะ
ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการมีการลงทุนเป็นเม็ดเงินในจำนวนสูง มีการสร้างงานให้แก่คนไทย สร้าง
ศูนย์บริการที่ดีได้มาตรฐาน พร้อมทั้งจัดหาเครื่องมือทันสมัยและอุปกรณ์ต่างๆ

ที่ศูนย์บริการผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเราจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและสม่ำเสมอ เพื่อให้งาน
บริการคงระดับความเป็นมาตรฐานสากล ซึ่งลูกค้าสามารถสัมผัสได้ในคุณค่าแห่งแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์  
– นั่นหมายถึง >>> รถยนต์ Mercedes-Benz ทุกคันที่ผลิตในไทยได้รับการคัดเลือกและกลั่นกรองเป็นอย่างดี
– นั่นหมายถึง >>> รถยนต์ Mercedes-Benz ทุกคันที่นำเข้าได้รับการคัดเลือกและกลั่นกรองเป็นอย่างดีเช่นกัน
– นั่นหมายถึง >>>รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ผลิตในไทยได้ผลิตเพื่อให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานภายใน
   ประเทศโดยคำนึงถึงสภาพภูมิอากาศและปัจจัยโครงสร้างของประเทศเป็นหลัก
–  นั่นหมายถึง >>>คุณภาพอุปกรณ์ชิ้นส่วนและอะไหล่เพื่อการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ที่เป็นของแท้ให้ความ
    ปลอดภัย 100%
– นั่นหมายถึง >>>งานบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการที่มีอยู่
  30 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ (ในกรุงเทพ 17 แห่ง ต่างจังหวัด 13 แห่ง)
  นั่นหมายถึง >>>การให้บริการทางการเงินแบบหลากหลายและคุ้มค่าจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่งเท่านั้น  
– นั่นหมายถึง >>>รถยนต์ที่ซื้อจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้นเหนือกว่าในด้านราคาขายต่อ
– นั่นหมายถึง >>>โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านได้ซื้อรถยนต์จากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของเราเท่านั้น

ต่กจากนั้น คุณ Stephan  Moebius กับคุณ กฤษณะกร เศวตนันท์ ก็ขึ้นมาเล่าถึงรายละเอียดของรถยนต์
รุ่นใหม่ๆ และการปรับราคาลงครั้งใหญ่ ให้กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆหลายๆรุ่น

สรุปได้ สั้นๆ ดังนี้

– SLK 200 Blue Efficiency พร้อมชุดแต่ง AMG และช่วงล่าง AMS Sport Pacjage อุปกรณ์ที่ให้มา มีทั้ง
ไฟหน้า Bi-Exnon  ILS , ระบบ Air Guide ,AMG Sport package แอโรพาร์ต รอบคัน และล้ออัลลอยใหญ่
Ambient Lighting มีระบบ COMMAND On-Line พร้อม HDD ขนาด 10GB และระบบนำทาง Navigation
System กับระบบสั่งการด้วยเสียง Linguatronic พร้อมเครื่องเสียง Harmann Kardon Logic 7 ระบบ
Keyless-Go , Dynamic Handling Package กับระบบ PRE-SAFE และสารพัดอุปกรณ์ความปลอดภัยครบ
ราคาเดิม ประกาไป 4,3 ล้าน ตอนนี้ ลดเหลือ 4,299,000 บาท และถ้าใครไม่อยากได้ชุด AMG ราคาก็จะ
ลงไปเหลือแค่ 3,899,000 บาท !!

– C 250 Coupe Edition 1 มีไฟหน้า Bi-Xenon ILS , Panoramic Glass Roof ,Interior Light package
เบาะดำ ตะเข็บข้าง สีพอร์สซเลน มี Media Interface ร่วมทั้ง Command Online และ Harman-Kardon
เหมือนใน SLK ใหม่ทุกประการ ราคาเดิม เปิดไว้ 4.3 – 4.5 ล้านบาท วันนี้ หั่นลงมาเหลือ 4,099,000 บาท
และถ้าอยากได้ แพ็กเก็จ AMG แต่ไม่ต้องแรงมาก ยังมี C180 Coupe AMG Package ให้สั่งจองกันแล้ว
ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,299,000 บาท เท่านั้น!!!

– CLS 350 นั้น เป็นกรณีที่ MB Th ตัดสินใจ ชี้แจงว่า เหตุที่ไม่เอารุ่นเครื่องยนต์ ดีเซลมาขายอย่างที่
ผู้นำเข้าบางรายเขาทำ ก็เพราะว่า คุณภาพน้ำมันในบ้านเรา มันไม่เหมาะสมกับเครื่องดีเซลตัวใหม่
ซึ่งเป็นคนละเครื่องกับที่ขายกันในเมืองไทย มันไม่สามารถใช้น้ำมันบ้านเราได้เลย อาจเติมได้
แต่ยังไงๆ ก็จะมีปัญหาตามมาแน่นอน ดังนั้น MBTh จึงไม่สั่งเข้ามา แต่ ตั้งราคารุ่น CLS 350 ไว้
ที่ 8,399,000 บาท ถูกกว่ารถรุ่นเดิมไปเยอะอยู่แล้ว

– C-class อย่างที่ทราบกันดีว่า มีรุ่น C200  พื้นฐาน 2,149,000 บาท มาให้ แต่ว่า ข้าวของก็ยังมีมาให้
ในระดับที่ ไม่น้อยหน้าใครเท่าไหร่ เหมาะกับลูกค้าที่ไม่ต้องการออพชันมากนัก แต่อยากได้ อุปกรณ์
สำคัญครบๆ เครื่องยนต์ เหมือน C200 คันอื่น 184 แรงม้า (PS) เกียร์ ก็เป็น 7G Tronics เหมือนกัน
แถมมีล้ออัลลอย 17 นิ้วให้ มีระบบ PRE-SAFE เต็มพิกัดมาให้ทั้งหมด ขายในราคาที่เห็น

และสุดท้าย E200 NGT เปิดราคามา 3,549,000 บาท ถูกกว่าตัวเดิม แรงกว่าเดิม แถมใส่ระบบ PRE SAFE
และข้าวของลุกเล่นมากมายยิ่งกว่ารถรุ่นก่อนอีกด้วย แต่มาในราคาถูกกว่ากันชัดเจน จุดเด่นอยุ่ที่ การ
เติมน้ำมัน กับ๊าซ CNG 1 ถัง สามารถ แล่น ไป – กลับ กทม – เชียงใหม่ – กทม ได้ด้วยการเติมน้ำมันและ
ก๊าซ เพียงครั้งเดียว!

นอกจากนี้ ก็ยังมีการนำเสนอ โปรแกรม สินเชื่อ บริการทางการเงิน ของ Mecedes-Benz Leasing
กับ เรื่องของการรับประกันหลังการขาย โดยคุณ อรุณ สมุทรสาร ซึ่ง ก็เป็นที่รู้กันในบรรดาชาว MBTh
ว่า พี่อรุณ เหมาะเป็นนักพูดมาก เพราะขณะที่ อ. Alex กับคุณ Stephan หรือผู้บริหารท่านอื่น ต้องมี
presentation ควบคู่ แต่ของพี่อรุณ เป็นคนเดียวที่ “ไม่ต้องมี” พี่เค้าปล่อยไหลต่อเนื่อง เล่าเคสที่เกิด
กับลูกค้าซึ่งซื้อรถเกรย์ไปแล้ว ว่าเจออะไรกันมาบ้าง (เคสนี้ ขอเล่าในภายหลัง ถ้าใครอยากทราบ
ก็ไปถามเอาในกระทู้ที่เว็บบอร์ดแล้วกันนะครับ)

แถมพูดๆไป จู่ๆ ฝนก็เทโครมลงมา ทุกคนมองหน้ากัน พอพี่อรุณพูดจบ ครบเวลา ฝนหยุดตก!!!

มันฮาก็ตรงนี้แหละ! (^0^)

และในช่วงสุดท้าย คือช่วงถาม – ตอบ Q & A ก็มีคำถามที่น่าสนใจพอจะนำมาสรุปได้ดังนี้

Q : คุณ สมศักดิ์ มีลือการ จากรายการวิทยุ คู่แข่ง มอเตอร์ริง ถามว่า
“ในเมื่อ มีการลดราคาลงมาอย่างนี้ แล้วลูกค้า ที่ซื้อไปก่อนหน้านี้ ก่อนที่ราคาจะลดลง จะทำอย่างไร?

A : คุณ สเตฟานตอบเองเลยว่า “ในช่วงก่อนที่จะมีการปรับลดราคาลงในวันนี้ ทางเราได้ออกแคมเปญ
ส่งเสริมการขายไปในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่ง แคมเปญดังกล่าว ให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าได้ใกล้เคียงกับ
ราคาใหม่ที่ปรับลดลงมาในวันนี้อยู่แล้ว ดังนั้น ผลประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ จึงไม่ต่างกันเท่าไหร่

Q : พี่เจี๊ยบ สื่อมวลชนอีกท่านหนึ่งถามว่า “กรีที่มีลูกค้าซื้อ CLS 250 CDI ไปแล้ว Mercedes-Benz Thailand
จะมีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

A : คุณสเตฟานตอบเองว่า : “ก่อนอื่น เราคงต้องบอกว่า “ขอแสดงความเสียใจด้วย” ที่อาจซื้อโดยไม่ทราบข้อมูล
ความจริงทางเราได้ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ มาตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว ทางเราไม่สามารถให้การรับประกัน
คุณภาพได้ อย่างไรก็ตาม ใครที่ซื้อไปแล้ว ให้นำรถเข้ามาปรึกษากับทางผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ แต่ไม่รับ
ประกันคุณภาพ

คุณสเตฟานเสริมต่อว่า ” ขอให้อ่านข้อกฎหมายของไทยให้ดีๆ เพราะระบุเอาไว้ชัดเจนว่า ผู้ใดนำสินค้าเข้ามา
จำหน่าย ผู้นั้นจะต้องรับผิดชอบเรื่องการรับประกัน การที่ผู้นำเข้าอิสระสั่งรถเข้ามา ทาง MBTh ไม่จำเป็นต้อง
รับผิดชอบ

(ซึ่งตามหลักความเป็นจริง ก็ถูกของเขาแล้วครับ)

คุคุณอรุณ ยังเสริมต่อ “เรื่องเครื่องยนต์ดีเซลนั้น เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ทุกปั้มน้ำมันมีมาตรฐานเท่ากัน
เพราะถ้าเกิดกรณีน้ำท่วม ความชื้นก็จะเล็ดรอดเข้าไปยังถังใต้ดินได้อีก รถยนต์ดีเซล ที่ MBTh สั่งเข้ามา
ผลิตหรือจำหน่ายในบ้านเราทุกคัน จะต้องมีการติดตั้งตัวดักแยกน้ำ Water Seperator และ Catalytic Converter
ที่ต้องปรับปรุงขึ้นเพื่อตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ การติดตั้งภายนอกโรงงาน ไม่สามารถรับประกันได้ว่า
จะใช้งานได้ผล หรือเกิดความเสียหายกับการทำงานในอนาคตหรือไม่ ถ้าเกิดความเสียหาย ต้องถือเป็น
ความรับผิดชอบของลูกค้าเอง ที่จะต้องไปเรียกร้องกับผู้นำเข้าอิสระรายนั้นๆ”

นอกจากนี้ ในอนาคต ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Mercedes-Benz ก็อาจถึงขั้นมีนโยบายไม่รับ
Trade-in (แลกเปลี่ยนเทิร์นรถเก่าเป็นรถใหม่) กับรถยนต์จากผู้นำเข้าอิสระ หรือถ้ารับเข้ามา ก็จะต้อง
ถูกกดราคาลงไปมากกว่ารถยนต์ที่ออกมาจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ

Q : ในเมื่อ MBTh ยังยอมให้ Warranty กับลูกค้า เกรย์ 2 ปี สำหรับการลงทะเบียน คำถามคือ เพื่อตัดปัยหา
ทำไม จึงไม่ประกาศปฏิเสธกาสรรับรถเข้าศูนย์บริการไปเลย?

A; พี่อรุณ ตอบไว้ว่า “ในแง่ของการเป็นเจ้าของสินค้าและแบรนด์ เราไม่ได้มองว่าลูกค้าเป็นฝ่ายผิด
เราไม่อาจไปลงโทษลูกค้า ที่จงรักภักดีกับแบรนด์ของเรา แต่ซื้อรถผิดแหล่งไปได้  แต่ถ้าลูกค้ายัง
ตัดสินใจซื้อกับผู้นำเข้าอิสระกันมากอยู่อย่างนี้ ก็ไม่เป็นธรรมกับทางเรา และบรรดาผู้จำหน่าย
อย่างเป็นทางการ ที่เขาลงทุนลงแรงไปเยอะมาก เพื่อการบริการหลังการขายที่ดี

การประกาศของเราวันนี้ อยู่บนพื้นฐาน โจทย์ที่ว่า ทำอย่างไรจึงจะ..
1. ไม่ทำร้ายลูกค้า
2. ทำอย่างไร จึงจะอยู่ร่วมกันได้

—————————————-

Q : จากสื่อมวลชนอีกท่านหนึ่ง ถามว่า “ในเมื่อช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจค้าปลีกยังมีการฟ้องร้องกัน โดยอาศัย
พรบ กีดกันทางการค้า mercedes-Bernz Thailand มีการเตรียมตัวในเรื่องนี้ไว้หรือไม่

A : Alex ตอบทันที และกึกก้องไปเลยว่า “NO! we’re not afraid, we’re triple check with our law firm,
all of them are possitive response, If we do something, we do it very cafully, and we also talk with
the Office of Consumer Protection (สคบ)

(จุดนี้ มีการเสริมมาในภายหลังว่า งานนี้ คุณ Alex ถึงขั้น เดินทางไปพูดคุยสอบถามจากทาง สคบ
ด้วยตัวเองกันเลยทีเดียวว่า MBTh มีสิทธิ์จะทำในทุกสิ่งที่ประกาศออกไปวันนี้หรือไม่ และคำตอบ
ก็คือ มีสิทธิ์อยู่แล้ว เต็มที่)  

คุณสเตฟานเสริมว่า  ” ถ้ามองในแง่กฤหมายแล้ว MBTh กับ ผู้นำเข้าอิสระ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน
ดังนั้นมาตการอะไรก็ตามที่เราทำออกมา ต้องไม่ขัดกับข้อกฎหมาย ผมยังสงสัยเลยว่า จริงๆแล้ว
เรา และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของเรา ควรจะเป็นฝ่ายฟ้องร้องพวกเขาเสียมากกว่าด้วยซ้ำ
เพราะหน้าที่ของเราคือ ต้องปกป้องธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งก็คือ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของเรา”

(ตรงและแรงดีไหมครับ คุณสเตฟาน ปกติ  มาแบบสบายๆ วันนี้ จัดเต็มกันเลยทีเดียว)

Q : คำถามจากพี่หมู สัณฐาน Bangkok Post : ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา Mercedes-Bernz Thailand
เสียยอดขายให้กับผู้นำเข้าอิสระเท่าไหร่ แล้วในเมื่อ BMW เขาประกาศไม่รับรถจาก Grey แล้ว
ทำไมเราไม่ประกาศไปเลยบ้างละ?

A : ปี 2008 นั้น ยอดขายจากผู้นำเข้าอิสระ อยุ่ที่ระดับ 13 เปอร์เซนต์ ของยอดขาย Mercedes-Benz
ในไทยทั้งหมด แต่มาวันนี้ 7 เดือนแรกของปีนี้ สัดส่วนที่ว่า มันเพิ่มขึ้นถึง 51 เปอร์เซนต์ เลยทีเดียว
นั่นหมายความว่า แม้ปีนี้ เราจะขายรถ..สมตติว่า ได้ 3,000 คัน แต่ก็มีผู้นำเข้าทุกราย ขายได้ร่วมกัน
ก็อยู่ที่ระดับ 3,000 คันพอกันกับเรา ถ้าจะปล่อยไว้ ไม่ทำอะไรเลย ก็ย่อมได้ แต่อนาคตละ? ลูกค้าที่
ซื้อรถจากผู้นำเข้าอิสระเหล่านี้ไป ถ้ารถมีปัญหา จะทำอย่างไร?

Let the past is the past, let’s talking about new horizon…..นั่นเป็นวลีของคุณสเตฟานในวันนั้น
(ซึ่งอันที่จริง ผมมองว่า น่าจะใช้จังหวะนี้ตอบให้สวยกว่านี้ได้อีกสักหน่อย)

Q : พี่หมู ยังถามต่อไปว่า “แล้วทำไมตัวเลขถึงก้าวกระโดดขนาดนี้
A : อ. Alex ตอบเองเลยครับว่า ” I thonk you know more than me! เอาอย่างนี้แล้วกัน ทุกวันนี้
ลองเปิดไปดูเว็บไซต์ของ ercedes-Benz Ferrari หรือแม้แต่ MINI ในอังกฤษ บรรดา เว็บ.co.uk
ทั้งหลาย ในนั้นจะมีราคาคำนวนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ลองเอาราคาเหล่านั้น หักภาษีที่เกี่ยวข้อง
ในอังกฤษ ทั้งหลายออก เพื่อการส่งออก แล้วคูนด้วยภาษีนำเข้า 220 เปอร์เซนต์ จากราคารถ
เข้าไป คุณจะเห็นราคาที่แท้จริงเลยว่า รถคันนั้น ถ้าเข้ามาขายในเมืองไทย ราคารมันควรจะ
เป็นเท่าไหร่กันแน่”

Q : การออกมาตรการต่างๆมานี้ คิดว่าจะทำให้สถานการณืดีขึ้นไหม?
A : คุณสเตฟานตอบว่า “I think you know! Mercedes-Benz ของเราไม่ได้ตกอยุ่ในภาวะลำบาก
แต่อย่างใด เพราะทั้งที่เราเจอเรื่องแบบนี้ แต่ยอดรวมก็เติบโต 5 เปอร์เซนต์ ในแทบทุกกลุ่มตลาด
ระดับ Premium ตอนนี้ ทิศทางของประเทศน่าจะดีขึ้น ประชาชน เริ่มมีอารมณ์ในการจับจ่าย
ซื้อของมากขึ้น ถ้าเราไม่เสียตลาดให้ผู้นำเข้าอิสระ เราคงเติบโตได้มากกว่านี้ เราไม่ชอบที่จะเห็น
คนสั่งรถเข้ามามากมาย แล้วผลักภาระในการดูแลลูกค้าให้กับเรา

Q : ราคารถ ณ วันนี้ ถูกกว่า ผู้นำเข้าอิสระ แค่ไหน
A : คุณสเตฟาน มาเป็นชุดเลยครับ “ การจะเปรียบเทียบกัน ต้องเปรียบกันแบบ Apple to Apple
ถ้าจะเอารถ ราคา 3.5 – 3.6 ล้านบาท จากผู้นำเข้าอิสระ มาเทียบกับ รถราคา 4.2 ล้านบาท แต่
ติดตั้งอุปกรณ์ที่ครบถ้วนกว่า ก็ไม่แฟร์เท่าไหร่ สิ่งสำคัญที่อยากให้มองคือ ราคาที่ถูกกว่ากันนั้น
ถือเป็นความเสี่ยง เพราะว่ากันตามจริงแล้ว ความเสี่ยง ก็มีมูลค่าในตัวของมันอยู่

Q : ปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีว่าจะได้กี่คัน? (เป็นคำถามที่บางคนรู้อยู่แล้วละว่า ค่ายนี้จะไม่ตอบครับ)
A : อ. Alex ตอบว่า “เราคงขอไม่บอกก็แล้วกัน แต่เอาเป็นว่า ตัวเลข บอกได้เลยว่าเกินเป้า เรารู้ว่าทุกคน
อยากได้ตัวเลขไปเขียนข่าวพาดหัวหน้าหนึ่งกัน แต่ยอดขายเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะอีก
สิ่งที่ผมอยากให้มองในอีกมุมหนึ่งก็คือ สิ่งที่สามารถโชว์ศักยภาพของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการได้
อย่างแท้จริง อยู่ที่ ค่า CSI Index ( Customer Satisfaction Index) ที่เราให้ทาง J.D Power มาประเมิน
พบว่า ครึ่งปีแรก เราทำคะแนนได้ 97 จาก 100 คะแนน ซึ่งถือว่าสูงมาก และนั่นคือสิ่งที่เราตั้งใจจะ
มุ่งไปให้ได้ 100 คะแนนเต็ม เพื่อให้ดเราได้ดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่”

——————————————

การแถลงข่าวจบสิ้นลงไป หลายคนน่าจะยังคงสงสัยกันอยุ่ว่า สิ่งที่ Mercedes-Benz Thailand ประกาศ
ออกไปนั้น จะช่วยให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นได้หรือไม่ ยอดขายจะดีขึ้นหรือไม่ การบริการหลังการขาย
จะปรับปรุงดีขึ้นได้อีกมากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญที่สุึดคือ ปริมาณลูกค้าที่จะตัดสินใจซื้อรถจากบรรดา
ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน

เราคงต้องมาดูกันต่อในระยะยาวครับ

———————————-///———————————–