งานนี้อยากจะเขกกะโหลกตัวเองเสียจริง…

นั่งทำงานอยู่บ้านเพลินไปหน่อย พอถึง 4 โมงกว่า ก็ค่อยกระวีกระวาด ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว
คว้ากล้องได้ ก็ปิดประตู ขับรถออกจากบ้าน โดยลืมสำรวจดูว่า ใส่ SD-Card ให้กับกล้องไว้หรือยัง

สุดท้าย วันนี้ ใครที่เจอผมในงาน ต่างก็จะเห็นผม ถือกล้องคู่ใจอย่าง Canon SX10-IS โทรมๆ 1 ตัว
โดยไม่ได้ถ่ายภาพอะไรจากงานกลับออกมาเลย เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ เพราะบรรยากาศงาน
ในค่ำคืนนี้ พิเศษกว่าหลายๆครั้ง ที่ Mercedes-Benz (Thailand) เคยจัดมา

แต่ด้วย ความอนุเคราะห์ ของ พี่ตั้ม จาก www.worldwheelsweb.com ในเครือนิตยสารกรังด์ปรีซ์
ที่กรุณาส่งภาพถ่ายมาให้ ชุดใหญ่ ดังนั้น ผมจึงมีบรรยากาศของงาน มาฝากคุณผู้อ่านกันเท่าที่
อยากจะคัดเลือกภาพที่ดีที่สุด มาให้ได้ชมกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณพี่ตั้ม เป็นอย่างยิ่ง มา ณ โอกาสนี้

งานในวันนี้ เริ่มต้นรอบสื่อมวลชน ช่วงเวลา 17.30 น. – 18.30 น. เป็นการพูดคุย และสัมภาษณ์
ผู้บริหารของ Mercedes-Benz (Thailand) ณ บริเวณ ร้านอาหาร EST 33 อันเป็นร้านเบียร์ แนวหรู
อาหารอร่อย ของ บุญรอดบริวเวอรี หรือ เบียร์สิงห์ นั่นเอง (ชอบมาก กับรากดอกบัวทอด คิดได้ยังไง
เป็นของคบเคี้ยวแบบไทยๆ ที่สามารถทดแทน เฟรนช์ฟราย ได้อย่างสนิทใจเลยทีเดียว!)

ช่วงหัวค่ำ งานปาร์ตี้เริ่มขึ้น เมื่อเวลา 19.30 น.งานนี้ จัดโดย Matching Organizer ส่วนอาหารและ
เครื่องดื่ม จัดโดย บริษัทในเครือ โรงแรม Le Meridian เปิดงานด้วยเสียงแซ็กโซโฟนสุดไพเราะ
อันคุ้นเคยกันดีจากพี่โก้ Mr.Saxman ศิลปินคนโปรดของผม คนหนึ่ง ที่เพิ่งมีคอนเสิร์ตครั้งแรก
ของตนเองไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เสียดายมากที่ไม่ได้ไปดู….เพราะติดงานตามเคย

ตามด้วยเสียงสวยๆ ในเพลงสากล จากพี่ต้งเหน่ง รัดเกล้า อามระดิษฐ์ พร้อมกับวงดนตรีวงกลาง
ขับกล่อมเสียงเพลงให้แขกผู้ร่วมงานได้เพลิดเพลินกันไป คนนี้ ก็เป็นนักร้องคนโปรดของผม
อีกคน ประทับใจ ตั้งแต่ได้ยินเสียงครั้งแรกในเพลง “ลมหายใจ” ของคุณบอยด์ โกสิยพงษ์
เมื่อ ปี 1994 เสียดายที่หลังๆไม่ค่อยมีอัลบั้ม ออกมาเท่าไหร่ แต่เรายังคงพบเห็นพี่ต้งเหน่งได้
ตามงานคอนเสิร์ตระดับประเทศต่างๆอยู่เรื่อยๆ ในฐานะ ศิลปินรับเชิญ

เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม การแสดงบนเวทีได้เริ่มขึ้น เป็นชุดห้อยโหนโจนทะยาน ชวนให้นึกถึง
บรรยากาศในบูธ Mercedes-Benz ในงาน Bangkok International Motor Show ไม่ค่อยผิดเพี้ยน
ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟ์เลอร์ ประธานบริหาร บริษัท Mecrdes-Benz (Thailand) จำกัด ก็ขึ้นมา
เปิดตัว CL500 คันสีน้ำตาลออกเขียว คันนี้ โดยมี คุณตุ้ย ธีรภัทร สัจจกุล รับหน้าที่พิธีกรของงาน

อ.อเล็กซ์ กล่าวว่า กล่าวว่า “รถยนต์ CL รุ่นนี้ถือเป็นยานยนต์ได้ผสมผสานเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ของความเป็น Mercedes-Benz เข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความงดงามน่าหลงใหล (Fascination)
ความสมบูรณ์แบบ (Perfection) และความรับผิดชอบ (Responsibility) และสำหรับ Generation ใหม่
ของรถยนต์รุ่นนี้ เรายังได้มีการพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ทั้งในด้านสมรรถนะ ความคุ้มค่า และ
ยังโดดเด่นในด้านของการออกแบบรูปลักษณ์ ความปลอดภัย ตลอดจนขับขี่สะดวกสบาย  ทำให้
CL-Class เป็นยนตรกรรมคุณภาพระดับแถวหน้าอยู่เสมอ”

แน่ละ คราวนี้ถือเป็นการปรับโฉม Minorchange ตามติดตลาดโลก ซึ่งเงเปิดตัว CL ใหม่นี้ไปเมื่อ
ปีที่แล้ว และรายการความเปลี่ยนแปลง รวมทั้ง อุปกรณ์ประจำรถนั้น มีมากมาย เกินกว่าจะจารนับ
ได้หมดจนครบถ้วน…

ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก เปลี่ยนฝากระโปรงและกระจังหน้าเน้นทรง V-shape มากขึ้น
สอดรับกับความโค้งมนของโคมไฟหน้าแบบใหม่ พร้อมเพิ่มลายเส้นด้านข้างและให้ความ
พิถีพิถันในทุกรายละเอียดทำให้หรูหราสง่างามมากขึ้น

กันชนด้านหน้าใหม่พร้อมแถบโครเมียมด้านล่าง กระจังหน้าสองช่องพร้อมโครเมียมสวยงาม
ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (Intelligent Light System) ที่สามารถปรับระดับการส่องสว่างได้ถึง
5 รูปแบบตามสถานการณ์ของสภาพเส้นทาง พรั่งพร้อมด้วยระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
(Adaptive Highbeam Assist) และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน รวมถึง
ชุดไฟเบรกและชุดไฟท้ายแบบ LED

มีระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Main Beam Assist ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ในยามค่ำคืน
เป็นไปอย่างชัดเจนและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยลำแสงที่สาดส่องไปจะปรับระดับลำแสงขึ้นลง
ได้เองโดยอัตโนมัติให้เหมาะสมกับสภาพจราจรขณะนั้นและสถานการณ์การขับขี่อยู่ตลอดเวลา
ที่สำคัญลำแสงจะไม่รบกวนสายตาของผู้ขับขี่รถคันหน้าหรือรถที่วิ่งอยู่ในเลนตรงข้าม นอกจากนี้
ยังมีระบบช่วยการมองเห็นามค่ำคืน Night View Assist PLUS เป็นอุปกรณ์มาตรฐานด้วย ที่เพิ่ม
ขีดความสามารถในการมองเห็นและลดอุปสรรคสำหรับการขับขี่ในเวลากลางคืน หัวใจของระบบฯ
อยู่ที่แสงอินฟาเรดซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และกล้องขนาดเล็ก ที่ติดตั้งอยู่ในโคมไฟหน้า จะ
ถ่ายทอดความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นรวมถึงผู้คนที่สัญจรอยู่ริมถนนให้ปรากฎเป็นภาพขาว-ดำ
บนจอแสดงผลที่แผงหน้าปัด ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่มีเวลามากขึ้นในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า
หากเผชิญกับเหตุคับขัน

รวมทั้งยังมีระบบเตือนผู้ขับขี่ที่กำลังเหนื่อยล้า: ATTENTION ASSIST เพื่อช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่
สามารถระมัดระวังการขับขี่มากขึ้นก่อนเริ่มเกิดอาการหลับใน โดยเซ็นเซอร์ภายในรถจะทำหน้าที่
ตรวจสอบและวิเคราะห์การขับขี่ต่างๆ ที่บ่งชี้ถึงอาการเหนื่อยล้า รวมถึงส่งสัญญาณเสียงและภาพ
เตือนทันที โดยมีสัญลักษณ์และข้อความปรากฏที่จอแสดงผลบนแผงหน้าปัด ซึ่งในขณะที่รถวิ่ง
ระบบนี้จะประเมินตัวแปรต่างๆถึงกว่า 70 ตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อประมวลผลว่าผู้ขับขี่อยู่ในสภาวะ
ง่วงหรือไม่และส่งสัญญาณเตือนก่อนที่ผู้ขับขี่จะเริ่มหลับใน โดยเซ็นเซอร์ความไวสูงพิเศษจะ
ตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่วัดมุมการควบคุมพวงมาลัย (special steering angle sensor)
ระบบรักษาสมดุลตัวถัง (Active Body Control) ช่วยลดผลกระทบจากกระแสลมด้านข้าง

CL-Class ใหม่ยังให้การขับขี่เป็นไปแบบเร้าใจสนุกสนานด้วยเทคโนโลยี Direct-Steer และ
ระบบรักษาสมดุลตัวถัง (Active Body Control with crosswind stabilization)  ที่จะช่วยเพิ่มให้
รถคงความเสถียรภาพความสมดุลแม้จากแรงลมปะทะด้านข้าง โดยระบบรักษาสมดุลตัวถังรุ่นนี้
ได้รับการพัฒนาอีกขั้นโดยจะทำการกระจายแรงปะทะผ่าน spring struts ไปที่ล้อทั้งสี่อย่างรวดเร็ว
ในเสี้ยววินาที      

นอกจากนี้ CL รุ่นนี้ยังเพิ่มระดับความปลอดภัยขณะขับเข้าโค้งด้วย Torque Vectoring Brake
ที่จะทำงานร่วมกันกับโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติไม่ให้เสียความสมดุลหรือโคลงตัว
เมื่อเกิดอาการอันเดอร์สเตียร์  หากแต่จะควบคุมการเข้าโค้งให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
มากขึ้น ทำให้การขับขี่ช่วงเข้าโค้งเป็นไปด้วยความคล่องตัวปราดเปรียว

ระบบ Info-tainment ภายในห้องโดยสาร:มีการติดตั้งจอแสดงผลแบบ SPLITVIEW ซึ่งเป็น
เทคโนโลยีชั้นสูงด้วยคุณสมบัติพิเศษของการฉายภาพ 2 มุมมองภายในจอแสดงผลเดียวกัน
ในขณะที่ผู้ขับขี่อ่านแผนที่จากระบบนำทาง ผู้โดยสารด้านหน้าสามารถรับชมภาพยนตร์จาก
เครื่องเล่น DVD ไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการทำงาน COMAND APS พร้อม
COMAND Controller ที่ใช้งานง่ายและสามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นการทำงานอุปกรณ์ต่างๆได้
รวดเร็วอาทิ บลูทูธ ยูเอสบีพอร์ต หรือเอสดีการ์ด ที่ช่วยสร้างความเป็นไปได้ให้กับความบันเทิง
ในทุกรูปแบบ ภายในลิ้นชักเก็บของตรงหน้าผู้โดยสารด้านหน้ายังมีช่องเสียบสำหรับ Media
Interface ที่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ ไอพ็อด หรือเครื่องมือสื่อสารอิเล็คทรอนิคส์อื่นๆ
ได้อีกด้วย

ระบบ COMAND APS สามารถฟังวิทยุ เล่นแผ่น CD / DVD / MP3 รวมถึง Music Register
ความจุฮาร์ดดิสก์ขนาด 7.2 กิกะไบต์ที่สามารถบรรจุไฟล์เพลงได้มากถึง 2,500 เพลงทั้งในแบบ
MP3, AAC หรือ WMA ด้วยซอฟแวร์ Gracenote database ใน MUSIC REGISTER คุณจะ
สามารถอ่านข้อมูลเพลงทั้งชื่อเพลง อัลบั้มและศิลปินได้อย่างสะดวกง่ายดาย นอกจากนี้ยัง
สามารถค้นหาเพลงได้จากโปรแกรม Music Search ที่มีอยู่ในระบบอีกด้วย ทั้งหมดนี้
สามารถควบคุมผ่านระบบสั่งการด้วยเสียง  (LINGUATRONIC) ที่สามารถเชื่อมและเลือก
สั่งการทำงานได้ทั้งระบบเนวิกเกชั่น โทรศัพท์หรือสถานีวิทยุได้ด้วย เพียงพูดชื่อสถานีวิทยุ
หรือชื่อในสมุดโทรศัพท์เท่านั้น

 

แถมยังมีระบบเสียงแบบรอบทิศทาง (surround sound system) จาก Harman Kardon® Logic7®
ที่จะช่วยเติมเต็มสุนทรียภาพแห่งการเดินทาง ด้วยคุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์ของระบบเสียง
ในแบบ 3 มิติ  และ 360 องศาไม่ว่าจะนั่งอยู่ในตำแหน่งใดภายในห้องโดยสาร

ห้องโดยสารภายใน ตกแต่งด้วยวัสดุที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถันและฝีมือการเก็บรายละเอียดอัน
ประณีตโดยใช้ไม้เนื้อดีเกรดเยี่ยม 3 ชนิดในการตกแต่งพร้อมวัสดุคุณภาพสูงและสีที่แสดงถึง
รสนิยมส่วนตัวของผู้ขับขี่ ส่วนของการตกแต่งที่ใช้ไม้ส่วนใหญ่เป็นงานทำมือ (Hand-made)
จึงให้ความหรูหราและประสบการณ์แบบงานฝีมืออันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

วัสดุที่ใช้หุ้มเบาะรถยนต์เป็นหนังคุณภาพสูงแบบทูโทนที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ให้ความสบาย
และอ่อนนุ่มตั้งแต่ได้สัมผัสในครั้งแรก โดยมีการเล่นสีให้ตัดกันอย่างโดดเด่นภายในห้องโดยสาร
ด้วยสีโทน ดำตัดดำ (black/black) , ซาวานน่าห์เบจตัดแคชเมียร์เบจ (savannah beige/cashmere
beige), ซาฮาร่าเบจตัดดำ (sahara beige/black), เทาอัลพาค่าตัดเทาแบซอลท์  (alpaca grey/basalt
grey) และม่วงโอเบอร์จีนตัดดำ (aubergine/black).นอกจากนี้ยังมีไฟเรืองแสง Ambient lighting
ที่สามารถปรับสีให้อารมณ์ที่แตกต่างใน 3 สไตล์ คือสี Solar (ไฟสีอำพัน), neutral (ไฟสีขาว)
และ polar (ไฟสีฟ้าเย็น) 

ไฮไลต์สำคัญของการปรับโฉมในครั้งนี้ อยู่ที่ การเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ในตระกูล BlueDIRECT
เป็นเครื่องยนต์รหัส M278 บล็อก V8 DOHC 32 วาล์ว 4,663 ซีซี แถมมีเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน
แบบ BlueDIRECT ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ล่าสุด โดยเป็นเครื่องยนต์ที่รวมระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง
Direct Injection 3rd Generation ด้วยวาล์วหัวฉีดแบบ piezo ที่มีการจุดระเบิดแบบ multi-spark ถึง
4 ครั้งภายในเสี้ยววินาที พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระหว่างหัวฉีดและการจุดระเบิดให้
ทำงานสัมพันธ์กันมากขึ้นกว่าเดิมด้วย และระบบ Twin Turbo เข้าไว้ด้วยกัน

กำลังสูงสุดถึง 435 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที (จากเดิม 388 แรงม้า) ส่วนแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นถึง 32%
จากเดิม 530 ขึ้นเป็น 700 นิวตันเมตร ที่ 1,800-3,500 รอบ/นาที  โดยลดอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยถึง 23%
เพียง 9.5 ลิตร / 100 กิโลเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยเวลาเพียง 4.9 วินาที (รุ่นเดิม
5.4 วินาที) และความเร็วสูงสุด จำกัดเอาไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง เชื่อมต่อกับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ 7GTronic PLUS

CL 500 BlueEFFICIENCY Coupé มีให้เลือก 3 เฉดสีใหม่เพิ่มเติมจากเดิม
– Peridot brown
– Magnetite black
– Cornetite blue

นอกจากนี้ยังมีรุ่นตกแต่งพิเศษเพิ่มความสปอร์ตติดหรู โฉบเฉี่ยว ด้วยชุดแต่ง AMG Sports package อาทิ
– ชุด AMG bodystyling (กันชนด้านหน้า-หลังและสเกิร์ตด้านข้าง)
– ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG 5 ก้าน ล้อหน้า 8.5Jx20 ล้อหลัง 9.5Jx20
– Brake calipers พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz
– พวงมาลัยหุ้มหนังสลับลายไม้
– ลายไม้แบบ black ash
– ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต
– พรมรองพื้นพร้อมสัญลักษณ์ AMG เป็นต้น

ราคาจำหน่าย The New Generation CL-Class มี 2 รุ่น
– CL 500 BlueEFFICIENCY Coupé                              15,490,000  บาท
– CL 500 BlueEFFICIENCY Coupé Sports AMG           16,290,000  บาท

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

—————————–///—————————-