พักนี้ระบบการจัดการ index name ของเบนซ์เริ่มเปลี่ยนไปเพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อ CLK จะถูกแทนที่ด้วย E-class Coupe
ที่พัฒนาจากพื้นฐานทั้งดีไซน์และวิศวกรรมร่วมกับ E-class Sedan
ถึงกระนั้นบุคลิคที่เปี่ยมล้นด้วยความสปอร์ตและความเป็นตัวของตนเองครึ่งคันหน้าของ E-class Coupe
ไม่สามารถใช้ชิ้นส่วนตัวถังร่วมกันกับเวอร์ชันซีดานได้เลย
ไม่เป็นเพียงแค่รถสปอร์ตเท่านั้นแต่ยังเป็นรถที่มีสมรรถนะควบคู่กับสิ่งแวดล้อม

เบนซ์ยังรักษาเอกลักษณ์ของรถคูเป้ในหลายๆตระกูลคือโครงสร้างตัวถังไร้เสากลาง (เสา B)
กรอบกระจกไร้ขอบ E-class Coupe ก็ไม่พ้นกับเอกลักษณ์เช่นนี้แต่นำดีไซน์ทรงคุณค่าจากเวอร์ชันซีดานดัดแปลงในสไตล์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว
ไฟหน้าสี่ดวงคมและเฉี่ยวขืนเพื่อให้รับกับกระจังหน้าสองชั้น
เส้นตัวถังด้านข้างมองจรดด้านท้ายที่เลียนแบบเอกลักษณ์ปีกทรงเสน่ห์จาก Ponton Coupe ที่กำเนิดในปี ค.ศ. 1955

เบนซ์เคลมว่า E-class coupe เป็นรถคูเป้มีค่าแรงเสียดทานสัมปสิทธิ์น้อยที่สุดในโลกคือ 0.24 เท่านั้นเอง

ทั้งแรงและประหยัดขึ้นด้วยเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งดีเซล 2 บล๊อกและเครื่องเบนซิน 3 บลีอกได้แก่

เครื่องดีเซล 2,500 ซีซี 4 สูบ คอมมอนเรล 2-stage turbocharger ให้กำลัง 150 กิโลวัตต์หรือ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรแค่รอบที่ 1,600 รอบ/นาที เท่านั้น เมื่อเทียบกับเครื่องเดิมเครื่องใหม่จะแรงกว่าประมาณ 36% ประหยัดขึ้น 17% ทำอัตราได้ที่ต่ำกว่า 5.3 ลิตร/100 กิโลเมตร

เครื่องยนต์ดีเซล V6 3,500 ซีซี ให้กำลัง 170 กิโลวัตต์หรือ 231 แรงม้า (รุ่นเก่า 165 กิโลวัตต์หรือ 224 แรงม้า) อัตราสิ้นเปลือง 6.8 ลิตร/100 กิโลเมตร

เครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้องเพลิงตรงขนาด 2,500 ซีซี ให้กำลัง 150 กิโลวัตต์หรือ 204 แรงม้าจับคู่ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดเป็นมาตรฐาน อัตราสิ้นเปลือง 7.4 ลิตร/100 กิโลเมตร

เครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้องเพลิงตรง V6 ขนาด 3,500 ซีซี ให้กำลัง 215 กิโลวัตต์หรือ 292 แรงม้า อัตราสิ้นเปลือง 8.5 ลิตร/100 กิโลเมตร

เครื่องยนต์ใหญ่สุดเบนซิน V8 5,000 ซีซี 285 กิโลวัตต์หรือ 388 แรงม้า 530 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง 10.9/100 กิโลเมตร
ที่เยอรมันเริ่มเปิดตับจองได้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์แล้วครับ

 

๊UPDATE!

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มีกำหนดจะเปิดตัว อี-คลาส คูเป้ พวงมาลัยขวา เป็นประเทศแรกในโลก ในงาน บางกอกอินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์

24 มีนาคมนี้ เรียกได้ว่า ตามเกาะติด เจนีวามอเตอร์โชว์ กันเลยทีเดียว โดยในช่วงแรก เป็นรุ่นเครื่องยนต์ V6 หลังจากนั้นจะมีการนำรุ่นเครื่องยนต์อื่นๆ

เข้ามาทำตลาดในไทย ในฐานะ รถยนต์นำเข้าทั้งคัน CBU 

 

ส่วน อี-คลาส ซาลูน นั้น ได้รับการยืนยันว่า ขณะนี้ ยังไม่มีรถพวงมาลัยขวาปล่อยออกสู่ตลาดแห่งในโลกแม้แต่คันเดียว

และ จะมีการเปิดตัวในไทย ภายในช่วง ครึ่งหลังของปีนี้ อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ C220 CDI ใหม่

 

——————————————–///———————————————