ถือเป็นค่ายที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อยมาก จากเหตุการณ์สแผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่น เมื่อ 11 มีนาคม 2011
ดังนั้น ขระที่ชาวบ้านชาวช่อง เขาฟุบเป็นแถวง Mitsubishi Motors Thailand กลับเดินเครื่อง ทำยอดขายเพิ่ม
มาได้อย่างมาก จนในเดือนที่แล้ว ทำได้ถึง 6,635 คัน เติบโตมากขึ้นถึง 91 %

มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงยอดขาย
รถยนต์มิตซูบิชิในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 6,635คัน เติบโตขึ้น 91 % เมื่อ
เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายสูงกว่า 6 พันคัน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองนับจาก
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 6,922 คัน  โดยรุ่นที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในเดือนมิถุนายน
คือ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ซึ่งเติบโตถึง 206% ด้วยตัวเลขยอดขาย 437 คัน และถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่
เปิดตัว ในขณะที่มิตซูบิชิ ไทรทัน มียอดขาย 3,976 คัน เติบโต 107% ปาเจโร สปอร์ต 1,796 คัน เติบโต
112%  แลนเซอร์ 1.6 ลิตร มียอดขายอยู่ที่  334 คัน เติบโตลดลง 22% และสเปซ แวกอน มียอดขายอยู่ที่
 91 คัน ลดลง 35%   ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์รวมครึ่งปีแรกของบริษัทฯ อยู่ที่ 34,428 คัน เติบโตขึ้น 107%
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

“ยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิรวมทุกรุ่นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมายังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งรถยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ใหม่ ที่เติบโตขึ้นกว่า 200% ซึ่งเป็นผลจากการปรับโฉมครั้งล่าสุด
ทำให้แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ซึ่งมีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวโดนใจลูกค้าอยู่แล้วมีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นด้วยการ
เสริมอุปกรณ์ตกแต่งและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้ขณะนี้มียอดค้างการส่งมอบจำนวนหนึ่ง ซึ่ง
ในขณะนี้บริษัท ได้เร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าให้เร็วที่สุด หากพิจารณายอดขาย
รถยนต์รวมทุกแบรนด์ จะเห็นว่าในไตรมาสแรกยอดขายเติบโตขึ้นกว่า 40% จาก 166,802 คัน ในปีก่อนหน้า
มาอยู่ที่ 238,619 คัน ในขณะที่ไตรมาส 2 แม้บางค่ายจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสึนามิ
ในประเทศญี่ปุ่นแต่ยอดขายรถยนต์โดยรวมก็ยังคงเติบโตขึ้น เนื่องจากในความเป็นจริง ความต้องการซื้อ
รถยนต์ยังมีอยู่เท่าเดิม ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เพียงแต่ค่ายรถยนต์ต่างๆ ไม่สามารถผลิตและส่งมอบรถได้
ทัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผมมั่นใจว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในครึ่งปีหลังจะกลับมาคึกคัก
อีกครั้งหลังสถานการณ์ต่างๆเริ่มคลี่คลาย และคาดว่ายอดขายรวมของปีนี้น่าจะอยู่ที่ 850,000 – 900,000 คัน”
มร.มูราฮาชิกล่าว

เดือนกรกฎาคมนี้ Mitsubishi motors Thailand ก็เลยส่ง รถกระบะ Mitsubishi Trition PLUS Double Cab เกียร์ธรรมดา
รุ่นตกแต่งพิเศษ สีขาวมุก “ไวท์เพิร์ล” เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าอีกรุ่น โดยรุ่นพิเศษดังกล่าวได้มีการติดตั้งอุปกรณ์
ตกแต่งเพิ่มเติม ทั้ง กรอบไฟหน้าแบบ Chrome bezel พร้อมกรอบไฟตัดหมอกสีเดียวกับตัวรถ และคิ้วข้างตัวรถสไตล์
สปอร์ต  ในขณะที่ภายในห้องโดยสารยังคงความโดดเด่นในแบบฉบับของมิตซูบิชิ จากความกว้างขวาง สะดวกสบาย
อย่างรถยนต์นั่งพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันพร้อมระบบเครื่องเสียงวิทยุ DVD และจอภาพระบบสัมผัส
ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งยังคงติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมการตกแต่งสไตล์ ซิลเวอร์ เดคอร์เรชั่น พวงมาลัย หัวเกียร์หุ้ม
หนัง รวมถึงเบาะหนังสไตล์สปอร์ตและที่พักแขนบริเวณคอนโซลกลางแบบมีช่องเก็บของอเนกประสงค์ แบบ 2 ชั้น  
รวมไปถึงระบบความปลอดภัยครบครัน

Mitsubishi Triton PLUS Double Cab รุ่นพิเศษ มาพร้อมเกียร์ธรรมดา และเครื่องยนต์ 3 สไตล์ให้เลือก ทั้งเครื่องยนต์
ดีเซล 2.5 วีจี เทอร์โบ 178 แรงม้า  เครื่องยนต์เบนซิน  ขนาด 2.4 ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20  และเครื่องยนต์
เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร พร้อมระบบซีเอ็นจีที่โดดเด่นในเรื่องของความประหยัดจากการเลือกใช้งานได้ 2 ระบบ ทั้ง
ซีเอ็นจี (CNG) และน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์อี 20 ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าได้อย่างลงตัว

ราคาจำหน่ายของ Mitsubishi Triton PLUS Double Cab รุ่นพิเศษ

Mitsubishi Triton PLUS Double Cab  รุ่นพิเศษ  ดีเซล  2.5 ลิตร VG Turbo เกียร์ธรรมดา   ราคา    789,000 บาท
Mitsubishi Triton PLUS Double Cab  รุ่นพิเศษ  เบนซิน 2.4 ลิตร              เกียร์ธรรมดา   ราคา    747,000 บาท
Mitsubishi Triton PLUS Double Cab  รุ่นพิเศษ  เบนซิน 2.4 ลิตร CNG       เกียร์ธรรมดา   ราคา    812,000 บาท

ลูกค้าที่สนใจสามารถชมและทดลองขับ “มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส  รุ่นตกแต่งพิเศษ และรุ่นอื่นๆ ได้ที่โชว์รูม
รถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009 หรือที่เว็บไซต์
www. mitsubishi-motors.co.th