ย้อนกลับปี 2002 Suzuki ส่งรถต้นแบบ Concept S ทุกคนในวงการแตกตื่นและแปลกใจว่าค่ายรถที่เคยพัฒนารถขนาดเล็กมีเทคโนโลยีแค่พอเพียงจะทำรถออกมาได้ดึงดูดขนาดนี้ ทั้งดูสปอร์ตเร้าใจ มีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ดูดีไม่แพ้ใคร แต่ก็คงมีบางคนโจษจันว่าเป็นแค่รถต้นแบบไม่น่าจะพัฒนาต่อเป็นคันจริง

 

ปีถัดมาเปิดตัว Concept S2 ด้วยรูปลักษณ์เปิดประทุนที่สวยสะดุดตา แต่สะดุดใจไม่น้อยหากจะผลิตเป็นคันจริง ลายเส้นรอบคันราวกับว่าอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนพัฒนาก่อนผลิตขายจริงอีก 1 ปีเท่านั้น ลางสังหรก็เป็นจริง

ปลายปี 2004 Suzuki เปิดตัว Swift โฉมใหม่ที่ไม่แตกต่างจากรถต้นแบบทั้งสองคันเลย นี่คือการพลิกโฉมครั้งสำคัญของพวกเขาที่มิใช่แค่ทำรถออกมาเรียบง่ายอีกต่อไปแต่ยังเพิ่มคุณค่าของงานดีไซน์ค้นหาเอกลักษณ์ใหม่ คุณภาพการขับขี่แนวสปอร์ต และตอบสนองตลาดยุโรปโดยเฉพาะจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม SWIFT ถึงประสบความสำเร็จสร้างยอดขาย 1 ล้านคันทั่วโลกภายในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง

จุดที่สร้างความฮือฮามากที่สุดหนีไม่พ้นดีไซน์ภายนอกที่ดูมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแม้ทีมออกแบบยอมรับว่าได้แรงบันดาลโครงเส้นจาก MINI ก็ตาม

สูตรสำเร็จการสร้างรถเล็กของซูซูกิที่พยายามออกแบบให้ดูสปอร์ตและมีเนื้อที่ใช้สอยให้ได้มากที่สุดคือพยายามลดความยาวตัวถังให้มากที่สุด บริเวณโครงด้านหน้าไม่ลาดเฉียงต่ำจนเกินไป คงความสูงของตัวรถราว 1.51 เมตรเพื่อความปลอดโปร่งห้องโดยสาร  ดูภาพรวมเป็นรถที่ไม่ดูกะปุ๊กลุ๊กจนเกินไปนัก

 

 

กาลเวลาผ่านไปก็ต้องหมุนเวียนไปตามสัจธรรมมีเก่าย่อมต้องมีใหม่
ภาพที่ทุกท่านเห็นนี้คือโฉมหน้าของ SWIFT รุ่นปี 2011 แล่นทดสอบบนถนนจริงแห่งหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อเก็บข้อมูลจากการใช้งานจริงในยุโรปอันเป็นมาตรฐานการพัฒนารถใหม่ของ Suzuki ที่จะตอบสนองความต้องของชาวยุโรปเต็มที่

แม้ยังปกคลุมไปด้วยผ้าดำเต็มคันแต่เราก็ยังพอทราบได้ว่า Swift โฉมใหม่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิมหลีกหนีขนาดให้ไกลกว่ารุ่น Splash มากยิ่งขึ้น ดีไซน์รอบคันคงเอกลักษณ์รุ่นเดิมไว้แต่เพิ่มความโค้งมนตามสมัยมากยิ่งขึ้น สังเกตไฟหน้าที่ดูกลมมนขึ้น และไฟท้ายจะเว้าเข้าหาตัวรถมากขึ้น (ผู้เขียนคิดว่าไฟท้ายดูละม้าย Renault Megane 5 ประตูที่เพิ่งตกรุ่นไป)

กำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานปารีสมอเตอร์โชว์ประจำปี 2010
วางจำหน่ายจริงในปี 2011 ส่วนประเทศไทยต้องรอลุ้นว่าจะมี SWIFT โฉมใหม่มาประกอบในโรงงานใหม่ที่ปลวกแดงหรือไม่