นางฉันทนา วัฒนารมย์ ประธานบริษัท Volvo Car (Thailand) จำกัด เปิดเผยว่า “แม้ว่าปี 2553
จะเต็มไปด้วยความท้าทายจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ผันผวนมากในช่วงต้นปี รวม
ทั้งผลจากภาวะน้ำท่วมอย่างหนักในหลายพื้นที่ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
โดยรวม แต่ตลาดรถยนต์หรูยังคงเติบโตอย่างดี Volvo สามารถสร้างผลงานปิดปี  2553 ได้ตาม
เป้าหมายด้วยยอดขาย 1,028 คัน หรือมีการเติบโตกว่า 100% จากปี 2552 ซึ่งเป็นความภูมิใจ
ของ Volvo มาก ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์หลัก 2 ด้านที่เราใช้นั้นได้ผลดี พลิกเกม
ให้ Volvo กลายมาเป็นรถยุโรปที่อยู่ในความสนใจของผู้ใช้รถในวงกว้างยิ่งขึ้น อีกครั้งหนึ่ง

กล่าวคือ Volvo ได้นำเสนอยานยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดครบทุกเซ็กเมนต์ แต่ละรุ่นล้วนมีความ
โดดเด่นด้านเทคโนโลยีระดับสูง เป็นรถที่มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก และสมรรถนะ
ดีเยี่ยม สามารถสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้ครบถ้วน  ที่สำคัญการกำหนด
ราคาที่ตรงใจลูกค้าสามารถแข่งขันได้ทั้งกับรถยุโรปด้วยกันและเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้า
ที่เคยใช้รถญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมต้องหันมามอง ทำให้เราสามารถขยายตลาดและทำยอดขายได้
ตามที่คาดการณ์”

“จากภาวะตลาดที่มีแนวโน้มขยายตัวดี รวมทั้งการที่รถยนต์ Volvo มีตำแหน่งทางการตลาดที่
แข็งแกร่งกว่าเดิม มีรถยนต์ให้เลือกครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ทำให้เราเชื่อมั่นว่าสำหรับปี 2554
วอลโว่จะสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 1,500 คัน” นางฉันทนากล่าวเสริม

“นอกจากนี้เรามั่นใจว่า ปี 2554 ตลาดรถยนต์จะขยายตัวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การแข่งขัน
ในตลาดที่เพิ่มมากขึ้น  เพื่อสนองความต้องการของตลาดที่มีแนวโน้มต้องการรถที่รูปลักษณ์
โฉบเฉี่ยวแต่ประหยัดพลังงาน  Volvo พร้อมรับมือความท้าทายเหล่านี้ด้วยการส่งรถยนต์
ลงชิงความสนใจของผู้ใช้รถครบทุกเซ็กเมนต์ที่สนองตอบทุกไลฟ์สไตล์  รวมทั้งกำหนดราคา
ให้น่าสนใจยากที่จะปฎิเสธ เราได้วางแนวทางการโปรโมท   แบรนด์ของเราให้เป็นที่รู้จัก
และลูกค้าภูมิใจที่จะได้เป็นเจ้าของ  สร้างความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำด้านพลังงานทางเลือก
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง Volvo มีผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีพร้อมที่สุดในตลาด โดยเฉพาะ
Volvo S80 ทั้งรุ่น S80 2.5FT Business และ S80 2.5 FT Superior ที่เป็นรถสร้างยอดขายสูงสุด
ให้วอลโว่โดยเฉพาะในกลุ่มนักบริหารหรือลูกค้าองค์กรตลอดปีที่ผ่านมา”

———————————–///——————————–