All NEW Mercedes-Benz S-Class ที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2020 ถือเป็นการเปิดตัวที่อยู่ในช่วงจังหวะแห่งความเปลี่ยนแปลงพอดี โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงด้านการควบคุมมลภาวะอากาศและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในยุโรปที่เข้มงวดมากขึ้น และความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปที่กำลังจะถูกลดบทบาทลงในไม่ช้า ทำให้ทางบริษัทต้องวางกลยุทธ์การพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงอันโหดร้ายนี้ได้

All NEW Mercedes-Benz S-Class Generation ที่ 7 จะถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหลัง MRA Platform ที่สามารถติดตั้งเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อล้ำหน้าได้ มีให้เลือกซื้อหาถึง 2 ขนาดระยะฐานล้อ โดยรุ่นฐานล้อยาวจะมีความยาวตัวถังถึง 5,280 มิลลิเมตร

ไฮไลต์สำคัญก็คือ All NEW Mercedes-Benz S-Class จะติดตั้งขุมพลัง Plug-in Hybrid เป็นขุมพลังมาตรฐาน จับคู่เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร, ดีเซล 2.9 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่วนรุ่น AMG จะติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ที่คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ทุกรุ่นจะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดพิเศษ และติดตั้งแบตเตอรี่ฝังไว้ใต้พื้นตัวถังรถ ถ้าหากวิ่งในโหมดรถ EV จะรองรับระยะทางวิ่งสูงสุด 100 กิโลเมตร

ที่พิเศษยิ่งกว่านั้น EQ S หรือ รถยนต์ไฟฟ้า EV ขนาดตัวถังเดียวกับ S-Class ก็จะเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน ตัวรถถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง MEB (Modular Electric Architecture) ถือเป็นรถคันแรกที่ได้ใช้ Modular Platform สำหรับรถยนต์ EV โดยเฉพาะ

จุดขายสำคัญของ EQ S ก็คือการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบตลอดเวลา ให้กำลัง 400 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร สำหรับเวอร์ชัน AMG ให้กำลัง 600 แรงม้า รองรับระยะทางวิ่งสูงสุด 498 กิโลเมตร

ทั้ง All NEW Mercedes-Benz S-Class และ EQ S จะติดตั้งระบบช่วงล่างที่พัฒนาต่อยอดจากระบบ AirMatic+ ติดตั้งกล้องสเตอริโอด้านหน้าสำหรับสแกนพื้นผิวถนนด้าน เพื่อปรับค่าความแข็งสปริงและโช๊คให้เหมาะสม “ในแต่ละล้อ”

การออกแบบตัวถังภายนอกของ S-Class ใหม่จะมีการออกแบบกระจังหน้าทรงคลาสสิคที่ตีความในรูปแบบใหม่ มาพร้อมกับไฟหน้า tri-band LED Multibeam

สำหรับ EQ S จะมีสัดส่วนด้านหน้าที่หดสั้นลง และมีมุมเสา A ที่ลาดเอียงกว่ารุ่นปกติมาก และมีทิศทางการออกแบบที่ล้ำสมัยเฉพาะตัว

ที่มา : Autocar