มักจะเป็นข้อถกเถียงในบรรดานักเล่นรถหายากว่า Classic Car หายากที่มีมูลค่าสูงมากๆนั้นควรจะนำไปจอดเก็บใน
พิพิธภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนนั้นไม่เห็นด้วยและนำออกมาใช้ในชีวิตประจำวัน
แต่บางคนนั้นกล้าพอที่จะรับความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงและนำรถ Classic มาลงแข่งขันกันเลย
ซึ่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในการแข่งขันรถยนต์ที่ประเทศอังกฤษ

 
Aston-Martin-DBR1-crash

 

อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในงานแข่งขันรถยนต์ Classic ประจำปีชื่อ Castle Combe Autumn Classic Race ซึ่งระหว่าง
การแข่งขันในรอบที่ 10 นั้นมีรถสามคันเสียหลักชนกันกลางโค้งซึ่งประกอบไปด้วย Austin Healey มูลค่า 50,000 ปอนด์,
Jaguar XK120 มูลค่า 120,000 ปอนด์, และพระเอกของงานคือ Aston Martin DBR1 มูลค่า 20 ล้านปอนด์
ซึ่งสื่อในวงการรถยนต์หลายสำนักรายงานว่านี่คืออุบัติเหตุรถยนต์ที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 
Aston-Martin-DBR1-2

 

ยังเคราะห์ดีที่ความเสียหายของ DBR 1 นั้นยังสามารถบูรณะให้กลับมาเหมือนเดิมได้ซึ่งดูแล้วต้องเปลี่ยนฝากระโปรงหน้า-หลัง,
ไฟหน้า, และฝากระโปรงหน้า-หลัง ซึ่งค่าเสียหายน่าจะมีมูลค่าหลายแสนปอนด์ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ DBR1 คันนี้มีราคาสูงนั้น
เพราะว่ามันเคยเป็นรถแข่งที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ในการแข่งขัน Le Mans 24 Hours ในปี 1959 โดยที่คนขับคือ
Stirling Moss

John Moon เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสนามแข่งได้ให้สัมภาษณ์ว่ายังโชคดีที่ความเสียหายยังอยู่ในเกณฑ์ที่
ซ่อมแซมได้และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บอีกด้วย แต่ที่น่าชื่นชมคือ Adrian Beecroft เจ้าของและคนขับ DBR1 นั้นใจกล้าพอ
ที่จะนำรถแข่งที่มีมูลค่าแทบจะประเมินค่าไม่ได้มาเข้าร่วมการแข่งขันซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วเนื่องจาก Aston Martin
คันนี้เกิดมาเป็นรถแข่งไม่ใช่รถโชว์

 
Aston-Martin-DBR1-3

 

Aston Martin DBR1 ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงความจุ 2,992 ซีซี จ่ายน้ำมันด้วยระบบคาร์บูเรเตอร์ 3 ตัวจาก Weber
ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้าที่ 6,250 รอบ/ นาทีส่งกำลังลงล้อคู่หลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ โดยที่น้ำหนักตัวถัง
หนักเพียง 800 กิโลกรัมเท่านั้น

 

ที่มา : gtspirit