สวัสดีครับท่านผู้อ่าน headlightmag.com ทุกท่าน

วันนี้ เรากลับมาพบกันอีกครั้งตามประเพณีชาวรถ ก่อนจะได้เวลารดน้ำดำหัว (แต่ส่วนมากสาดเลย)
กับเทศกาลสงกรานต์ ก็จะเป็นเวลาของการเหล่รถ เหล่หญิง เหล่ชาย (มีนะ..เอ้า) กับงานมหกรรมรถยนต์
ประจำภาคฤดูร้อน Bangkok International Motorshow อย่างที่ทุกท่านทราบกันดี และในครั้งนี้ยังถือ
เป็นโอกาสอันดี เพราะเป็นจังหวะบรรจบกับวันคล้ายวันเกิดครบ 72 ปีของ ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา
ประธานกรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าบริหารของทางกรังด์ปรีซ์ ผู้จัดงาน เราก็ขอขอบพระคุณ
ที่ท่านได้ริเริ่มการจัดมอเตอร์โชว์มาหลายทศวรรษแล้วจนกลายมาเป็นงานแสดงรถยนต์ที่มีขนาด
ใหญ่โตมีผู้ชมงานเป็นล้านมาถึงทุกวันนี้ครับ

a001_opening_img

ปีนี้ค่อนข้างโชคดีสำหรับผมที่ได้มีโอกาสมางานทั้งในรอบ VIP และรอบสื่อมวลชน ดังนั้นขอบอกไว้ก่อน
ว่ารายละเอียดของภาพที่เห็นอาจจะดูแปลกๆ หากว่าบูธไหนมีการเคลื่อนย้ายรถเปลี่ยนตำแหน่งไป
จากเดิม..อาจจะเป็นเพราะถ่ายภาพคนละวัน แต่บริษัทรถทั้งหลายก็ตั้งใจจะให้ท่านได้ยลโฉมผลงาน
ของพวกเขา (และถ้ายลเสร็จแล้วซื้อเลยอาจจะยิ่งชอบ) ดังนั้นไม่ว่าท่านจะตัดสินใจมาในวันไหนก็ตาม
ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมถึง 5 เมษายน 2558 ท่านก็จะได้เห็นรถจำนวนมากเกินพอแน่นอนครับ

สำหรับท่านที่กำลังรอลุ้นว่ารถใหม่ของท่านบางรุ่นจะมาโชว์โฉมงานนี้หรือไม่นั้น ผมได้รวบรวมมาให้
ในบทความนี้ด้วยเช่นกัน แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่า

1. New Hilux Vigo (ซึ่งจะเปลี่ยนชื่อใหม่ ไม่พึ่งชื่อไอ้โก้แล้ว) ยังไม่มางานนี้ ชัวร์! ที่จอดโชว์ยังเป็นรุ่นเดิมอยู่
2. Ford Focus 1.5 Ecoboost ไม่มา..แหม่งานนี้ Blue Oval เขาเปิดตัวรถใหม่ตั้ง 2 รุ่นนี่ก็เหนื่อยจะตายชัก
แล้วนะพ่อคุณ เก็บเงินเก็บทองไว้ รอต่อไปนะลูกนะ
3. Land Rover Discovery Sport..มาแต่โบรชัวร์แต่ตัวยังไม่เห็น..จะวางเงินจองกันก่อนมั้ยฮิ?
4. Isuzu ยังเป็นเครื่อง 3.0 VGS อยู่นะครับ ตัว 1.9-2.0 เทอร์โบตัวใหม่ยังไม่ถึงเวลาจ้า

แล้วงานนี้จะมีอะไรให้ท่านได้ชมกันบ้าง ไม่ต้องรอแล้วครับ ชมกันเลยดีกว่า

.

.

ASTON MARTIN
– Vanquish Carbon Edition เปิดตัวในงาน

astonmartin_aboot

Grand Tourer, British Style. Power. Beauty. Soul and So out of reach. รถสปอร์ต GT
เมืองผู้ดีที่กำลังเตรียมแผนขยายธุรกิจในเมืองนอกเพื่อให้สามารถทำตลาดครอบคลุมลูกค้า
ได้หลากหลายกลุ่มขึ้น ส่วนสำหรับเมืองไทยนั้น ทางผู้แทนจำหน่าย Heritage Motor Sales & Service
ก็ยังขนฝูง Aston Martin มาเต็มเวทีเช่นเคย..แน่นอนครับกั้นคอกกระจกเช่นเคยอีกเหมือนกัน

aston_vanquishcarboned

รถที่นำมาโชว์ในงานตัวเด่นก็คือเจ้า Vanquish Carbon Edition ซึ่งก็เป็นรุ่นพิเศษที่ตกแต่ง
ด้วย Splitter หน้า ช่องรับลมด้านข้าง ครอบกระจกมองข้าง และหลังคาด้วยคาร์บอนไฟเบอร์
และมีการตกแต่งส่วนอื่นๆด้วยสีดำ เช่นฝากระโปรงหน้า กระจังหน้า ปลายท่อไอเสีย Zircotec
ล้ออัลลอยดำเงาขนาด 20 นิ้ว มีให้เลือก 2 สีคือ Carbon Black และ Carbon White ราคา
25,900,000 บาท (ซึ่งเท่ากับ Vanquish ตัวปกติเด๊ะ! ตาไม่ฝาดนะครับนี่คือดูจากใน Press Kit มาเลย)
นอกจากนี้ ถ้าไม่โหดถึงขั้นอยากเล่น Vanquish ที่จัดว่าเป็นเรือธงของทางค่าย ก็ยังมีรถ DB9
Carbon Edition ที่ตกแต่งด้วยธีมแบบเดียวกัน แต่จะมีเพียงสีเดียวคือสีดำ Carbon Black และ
ตั้งราคาขายไว้ 19,500,000 บาท (เท่ากับ DB9 ธรรมดาเช่นกัน) เพียงแต่ในวันรอบสื่อ ในบูธที่เห็น
รู้สึกว่าจะเป็น DB9 ธรรมดา ไม่ใช่ตัว Carbon นะครับ เครื่องยนต์เป็นแบบ 6.0 ลิตร V12 ทั้ง
Vanquish และ DB9 แต่ในขณะที่ DB9 มี 517แรงม้า (PS) ส่วน Vanquish จะมี 573 แรงม้า

astonmartin_vanquishvolante

นอกจากนี้รถอีกคันที่สวยเด่นเป็นสง่าในบูธก็คือตัวแพงสุดของค่าย ณ เวลานี้ (ไม่นับ One-77)
ซึ่งก็คือเจ้า Vanquish Volante เปิดประทุนที่ใช้เครื่องยนต์ AM11 6.0 ลิตร V12 เหมือนกับรุ่น
หลังคาแข็งนั่นล่ะ แต่ทำเป็นหลังคาผ้าใบ และขยับราคาขึ้นอีกเป็น 26,900,000 บาท

นอกจากนั้น เลียบข้างเวที ยังมีรถ Aston Martin รุ่นอื่นๆมาโชว์ครบ ไม่ว่าจะเป็น V8 Vantage
สีเหลืองสดใล Vantage V12 S ตัวเล็กแต่โหด หรือ Rapide สีแดงที่จอดอยู่มุมทางซ้ายของเวที

อัพเดทเพิ่มเติม
วันรอบคนทั่วไป Aston Martin DB9 Carbon Edition มาแล้วนะครับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

.

BENTLEY/PORSCHE

bentley_aboot

จอดเรียงเด่นเป็นสง่าอยู่ 3 คัน ไล่ตั้งแต่ Continental Flying Spur W12 เครื่อง 6.0 ลิตรเทอร์โบ 616
แรงม้า จอดข้างเคียงกันกับ Continental GT V8S เครื่อง 4.0 ลิตรทวินเทอร์โบ 521แรงม้า แรงบิด 680Nm
และ Flying Spur V8 507 แรงม้าอีกคัน ในระยะหลังๆมานี้ Bentley จะมีการเสนอเครื่องยนต์ V8
4.0 ลิตรซึ่งพัฒนาร่วมกันกับ Audi มาให้เลือกในรุ่นต่างๆมากขึ้น อย่าง Continental GT V8 S นั้น
จะมีราคา 22,600,000 บาท

porsche_aboot

ส่วนบูธของ Porsche นั้น ถ้าใครเป็นแฟนประจำรายการแข่ง Le Mans หรือเคยดาวน์โหลดเกมชื่อ
Real Racing 3 มาเล่นรับรองได้กรี๊ดกันแน่กับรถแข่ง 919 Hybrid ตัวเป็นๆมาอยู่ตรงหน้าบูธเลย
919 Hybrid จัดเป็นรถแข่งคลาส Le Mans Prototype-1 (LMP1) ขนาดตัวถังยาว 4.65 เมตร
กว้าง 1.9 เมตร ความสูง (หรือจะเรียกว่าความเตี้ยดี?) แค่ 1.05 เมตรเท่านั้น ตัวถังเป็นแบบ
คาร์บอนไฟเบอร์กับแกนรังผึ้งอะลูมิเนียม น้ำหนักตัวแค่ 870 ก.ก. ทั้งๆที่เป็นรถไฮบริด ขุมพลังขับเคลื่อน
ใช้เครื่องเบนซินแบบ V4 2.0 ลิตรเทอร์โบให้พละกำลังมากกว่า 500 แรงม้า (Spec จาก Porsche บอกมา
แค่นั้น) ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังขับมากกว่า 250 แรงม้า โดยในโหมดปกติจะขับเคลื่อนล้อหลัง
แต่เมื่อใช้ระบบ KERS จะกลายเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ความจุถังน้ำมัน 68.3 ลิตร

porsche_919rear

สำหรับรถรุ่นอื่นๆของ Porsche ก็จะเป็นรุ่นเดิมที่เคยเห็นกันมาแล้วเช่น Cayenne S E-Hybrid กับฝูง
Porsche Macan หลากสีสันและที่แปลกก็คือในงานนี้ ไม่มี 911 มาโชว์สักคัน!

PROMOTION!
อ้าาาา..ไม่คิดว่ารถหรูจะมีโปรอ่ะดิ ในงานนี้รุ่น Macan มีแคมเปญ ดอกเบี้ย 1.99% ผ่อน 60เดือน
และแถมบัตรน้ำมันปตท. 100,000 บาทกับ Gift Voucher Paragon 100,000 บาทด้วยล่ะครับ

อัพเดทเพิ่มเติม
วันรอบคนทั่วไป มี 911 Carrera GTS4 สีแดงมาเพิ่มครับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

.

BMW/MINI
– รถพลังไฟฟ้าชูโรง และ 2 ActiveTourer

เป็นค่ายที่ขยันเปิดตัวรถใหม่กันเสียจริง เรามาดู BMW กันก่อนเลยมั้ย?

bmw_aboot

i8 ยังเป็นดาวเด่นที่โดนชายหญิงรุมเซลฟี่ใส่มากที่สุดเช่นเคย แต่มันไม่ใช่ดาวดวงใหม่หรอก เขาถอย
มาขับกันหลายต่อหลายคันจนโดนกระบะเบียดไปแล้ว ดังนั้นรถใหม่สำหรับงานนี้ในตระกูล “i”
ก็ได้แก่ BMW i3 รถคนเมืองพลังไฟฟ้าที่ได้ข่าวว่าราคา 4,500,000 บาท ใช่มั้ยจ๊ะ?

bmw_i3

BMW i3 เป็นรถที่พัฒนาโดยใช้โครงสร้างตัวถังทำมาจาก CFRP หรือเส้นใยพลาสติกเสริมคาร์บอนไฟเบอร์
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่วัสดุแบบนี้ถูกนำมาใช้ทำโครงสร้างรถยนต์ ผลที่ได้จากการใช้ CFRP คือโครงสร้าง
ที่เหนียว ทนทานแข็งแกร่งเทียบเท่าเหล็ก แต่มีน้ำหนักเบากว่ากันถึง 50% ทำให้แม้จะต้องแบกชุด
ขับเคลื่อนไฟฟ้า แต่ก็ยังมีน้ำหนักตัวถังเบาเพียง 1,315 ก.ก. เท่านั้น  ขุมพลังขับเคลื่อนมาจากมอเตอร์
BMW eDrive ให้แรงบิด 250Nm และรับกำลังไฟจากแบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อน 22 kW ซึ่งการชาร์จไฟนั้น
หากใช้การชาร์จผ่านชุด DC Quickcharge กระแสตรงจะประจุแบตได้ 80% ภายในเวลาแค่ 30 นาที
แต่ถ้าหากเป็นการชาร์จผ่านไฟบ้านธรรมดา กลับถึงบ้าน 4 ทุ่มเสียบชาร์จไว้พอ 6 โมงเช้าก็จะได้ 80%
เหมือนกัน และนั่นก็น่าจะพอให้รถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 100 ก.ม. แล้ว (หากชาร์จแบตเตอรี่เต็ม
จะวิ่งได้ 130-160 ก.ม.) แต่ถ้าไม่มีเวลาชาร์จก็ไม่ต้องห่วง เพราะ i3 มีเครื่องยนต์ปั่นไฟแบบ 2 สูบ 650 ซี.ซี.
ซึ่งใช้พลังน้ำมันในการทำงาน นี่คือมาตรการสำรองที่จะช่วยให้ i3 สามารถวิ่งได้ไกล 300 ก.ม. โดยไม่ต้อง
กลัวว่าไฟจะหมดกลางทาง และเมื่อไฟเต็มหม้อ i3 จะเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ได้ภายใน 7.9 วินาที
และทำความเร็วสูงสุดหนีรถทัวร์ตีนผีได้ 150 ก.ม./ช.ม.

ก็ยังยืด Honda Brio ได้ตั้ง 5 ก.ม./ช.ม. เนาะ..

bmw_x5edrive

X5 eDrive เป็น SUV ไฮบริดแบบ Plug-in ซึ่งนำเอาตัวถังของ X5 ที่ใช้งานได้สารพัดประโยชน์มา
รวมเข้ากับเครื่อง TwinPower Turbo 2.0 ลิตร 245 แรงม้า และเสริมกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพลัง 70kW
ซึ่งถ้าเจ้าของรถวิ่งใช้งานแค่ในเมืองก็สามารถเสียบปลั๊กชาร์จค้างคืนไว้ ขับไปช้อปปิ้งแล้วขับกลับบ้าน
เป็นระยะทาง 30 ก.ม. ได้โดยไม่ง้อน้ำมัน นอกจากนี้ผู้ขับยังสามารถเลือกโหมดการขับเคลื่อนได้ 3 แบบ
ได้แก่ 1. AUTO eDrive ซึ่งก็คือการปล่อยให้รถเลือกจัดการพลังเครื่องยนต์/ไฟฟ้าเอง 2. MAX eDrive
ซึ่งก็เหมือนกับ EV Mode ของรถไฮบริดญี่ปุ่นที่จะพยายามพึ่งพามอเตอร์ไฟฟ้าให้มากที่สุดในยามขับและ
3. SAVE Battery เพื่อรักษาระดับประจุแบตเตอรี่เอาไว้เท่าเดิมและให้เครื่องยนต์คอยทำงานเพื่อรักษา
ระดับไฟในแบตเอาไว้ตลอด..คนเท้าหนักออกรบบ่อยๆอาจจะชอบแบบนี้เพราะไม่ต้องมาคอยลุ้นว่า
ไฟแบตต่ำแล้วพลังอัตราเร่งที่ได้จะน้อยลง

bmw_2activetourer

แต่ถ้าเป็นรถในราคาที่พวกเราส่วนใหญ่เอื้อมถึง..ต้องนี่เลยครับ BMW 218i ActiveTourer
ทัวร์แบบเบิกบานใจสไตล์ BMW ยุคใหม่ซึ่งต่างจากรุ่นอื่นๆที่จอดอยู่รอบๆตรงที่มันใช้ระบบขับเคลื่อน
ล้อหน้าครับ! เพราะปรัชญาการออกแบบของรถรุ่นนี้มุ่งไปที่การมอบพื้นที่ใช้สอยที่สะดวกสบาย
โดยที่ไม่ต้องออกแบบตัวรถให้มีขนาดใหญ่ (ปรัชญาเดียวกับรถขับหน้าญี่ปุ่นหลายๆรุ่นแหละครับ)
ส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้นั้น เป็นเครื่อง TwinPower แบบ 3 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ บล็อคสหกรณ์ที่แชร์
กันใช้กับ MINI นั่นเอง โดย 218i จะมีแรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
สำหรับราคานั้น ต้องขออภัยที่ยังไม่ทราบจริงๆเพราะตอนช่วงบ่ายไปถามที่บูธ ยังได้คำตอบว่า
ยังไม่ Finalized…แต่ถ้าให้เดาก็ไม่น่าจะหนีห่าง 116i มากนัก เพราะ 218i มีแนวโน้มจะเป็นรถ
Entry Level ที่ดีสำหรับลูกค้าที่อยากเข้าสู่แบรนด์นี้ แต่พบว่า 116i นั้นเล็กและแคบเกินไปสำหรับ
ครอบครัวของเธอ

bmwmini_aboot

ส่วน MINI นั้นเอาตัว Clubman Concept มาโชว์ รถรุ่นนี้จะเป็นคันต้นแบบของ Clubman ตัวต่อไป
ซึ่งหลังจากที่ Clubman รุ่นที่แล้วเล่นเก๋ๆด้วยการทำรถให้เป็นแบบ 3+1 ประตู MINI ก็เรียนรู้
ในที่สุดว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆก็คือ “เอาประตู 4 บานดีๆมาให้ฉันเถอะ” ดังนั้นงานนี้จึงต้อง
ทำตามความต้องการของลูกค้าพร้อมทั้งขยายความยาวจากรุ่นเดิมออกไปอีก 27 ม.ม. เพื่อให้ได้
ทรวดทรงที่ดูแล้วสามารถแข่งขันกับ Volkswagen Golf หรือรถ C-Segment ยุโรปได้ถนัดขึ้น
เอกลักษณ์ที่ยังคงอยู่คือประตูท้ายแบบเปิดออกเป็น 2 บาน  และเพิ่มบรรยากาศความเป็นพรีเมียม
ด้วยหนังสีฟ้าภายในตัดกับหนังแก้วสีแดงและวัสดุเคลือบเงินและหนังสีดำ

bmwmini_clubmanconcept01

นอกจากนี้สำหรับคนที่จะซื้อ MINI ในงานมอเตอร์โชว์ ยังมี “Siam Package” ซึ่งทำมาเพื่อ
เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 13 ปี MINI ในประเทศไทย (ทำไมแค่ 13..นึกว่านานกว่านั้น..อ้อ เขาหมายถึง
เฉพาะพวก MINI ยุคใหม่ที่เป็นฝีมือ BMW นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม) รถเหล่านี้จะได้ตราเฉพาะรุ่น
และมีไฟ LED ส่องโลโก้ MINI ลงไปที่พื้นข้างรถด้วย แพ็คเกจนี้ราคา 20,000 บาทและจะรับOrder
เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น

PROMOTION!
ออกรถ 116i และ 116i M Sport แถม iPad Air 2 64GB Wifi ส่วนซีรีส์ 5 แถมเหมือนกันแต่เป็น
iPad Air2 Cellular ส่วน X1 รุ่นต่างๆ กับซีรีส์ 3 GT แถมกระเป๋าเดินทาง Rimowa Salsa Deluxe
ซีรีส์ 7 ทุกรุ่น (ยกเว้น 730Ld Business) แถม MacBook pro 13.3” 256 GB

.

CHEVROLET
– โลกะตะ!โลกะตะ!ยังอยู่!ยังอยู่!

chevrolet_aboot

แม้จะเพิ่งประกาศเลิกทำตลาด Sonic ไป แต่เมื่อเดินผ่านบูธ Chevrolet ก็ยังมี Sonic สีสันเจ็บแสบ
จอดอยู่ให้รู้ว่ารุ่นเก๋าเรายังสู้ และยังมีรถรุ่นอื่นมาสมทบครบครันไม่ว่าจะเป็น Cruze แต่งแบบวัยรุ่น
และ Cruze รุ่นทั่วไปกับ Captiva (กุญแจ PEPSI เอ้ย PEPS) ก็ยังมีขายอยู่ อย่าเพิ่งหวังว่าจะได้
เห็น SUV รุ่นใหม่จากค่ายนี้เพราะต้องจัดการปรับทิศทางตัวเองให้ได้ก่อนว่าอนาคตอยากจะมุ่งมั่น
ทำสิ่งไหนแล้วค่อยมาว่ากันอีกที

chevrolet_colohighcountry

รถที่มาโชว์ในงานและเป็นไฮไลท์ น่าจะเป็น Chevrolet Colorado High Country กระบะหล่อ แต่งตัว
สไตล์พรีเมียม ยกสูง เครื่องยนต์ 2.8 ลิตรดีเซลเทอร์โบ 200 แรงม้า แรงบิด 500 Nm ขายในราคา
969,000 บาทสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 1,029,000 บาทสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่นี่ไม่ใช่
รถเพิ่งเปิดตัวงานนี้ เพราะ Chevrolet แถลงข่าวไปก่อนมอเตอร์โชว์สักพักใหญ่ๆแล้ว

ต่อจากนั้น ตามด้วย Trailblazer MY2015 ซึ่งโชว์ตัวมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ อัพเกรดความหรู
ด้วยวัสดุภายในและเบาะหนังสี Brown Stone ที่ดูดีขึ้น พร้อมกล้องมองถอยหลัง และตกแต่ง
คอนโซลด้วยวัสดุ High Gloss สีดำ ส่วนรุ่น LTZ กับ LTZ1 นั้นจะได้ไฟท้าย LED ด้วย

PROMOTION!
Colorado ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 60 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1
Sonic ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 84 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1
Captiva ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 72 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1
Trailblazer ผ่อนชำระเริ่มต้นที่ 9,999 บาท

.

FORD
– Everest เผยโฉมพร้อมขายจริง/ Ranger เผยโฉม แต่ยังไม่ขาย!?!

Ford_aboot

เล่นเกมสปายช็อต แอบถ่าย ตั้งใจถ่าย ตั้งกล้องจัดแสงไฟถ่าย จนไม่รู้จะถ่ายอะไรมาโชว์แล้ว
นี่ถ้างานนี้ยังไม่ยอมเปิดตัวอีกจะขอเชิญนางแบบไปถ่ายกับ Ranger และ Everest ของพวกท่าน
เอามั้ย? จัดทริปกันไปเลยดีมั้ย? แต่แค่เริ่มคิด Ford ก็บอกเลยว่าไม่ต้องจ้ะ งานนี้ได้เห็นของจริง
กันแบบไม่ต้องแอบแล้ว ทั้ง 2 รุ่นนั่นล่ะ

ford_ranger

เริ่มด้วย Global Premier สำหรับ Ford Ranger Minorchange ซึ่งอย่างที่บอกไว้ก็คือ “ยังไม่ขาย
แต่เร็วๆนี้” ประโยคคลาสสิคที่ให้กำลังใจในการรอต่อไป แต่ดูแล้ว Feature ต่างๆที่มีให้ในรถนั้น
ก็มีความโดดเด่นควรค่าจะรอโดยเฉพาะหน้าปัดที่มีจอ TFT ด้านข้างนั้นดูแล้วนับว่าทันสมัย
และดูดีมีราคาที่สุดในบรรดากระบะทั้งหมด สวนทางกับดีไซน์ของล้อในตัว Pre-Production ที่เรา
ได้เห็นมาโดยสิ้นเชิง (มันธรรมดาไปเมื่อเทียบกับรถ) อุปกรณ์เท่าที่ดูน่าจะมีหลายอย่างมาอยู่ในรถไทย
รวมถึงระบบ Trailer Sway Control, ระบบ ESC พร้อม rollover mitigation, Forward Alert พร้อม collision
mitigation ระบบเตือนป้องกันการชนด้านหน้า, Park Assist, Adaptive Cruise Control, Lane Keeping
แต่ยังยืนยันไม่ได้ 100% ว่าจะมีรุ่นไหนได้รับอุปกรณ์เหล่านี้บ้าง เพราะอย่างที่บอก..Final Spec
สำหรับตลาดไทยยังไม่เป็นที่เปิดเผย ส่วนเครื่องยนต์นั้นมี 4 ตัว คือ 2.2 ลิตรดีเซล 130 แรงม้า (แปลง
หน่วยจาก kW เป็น hp ให้แล้ว) 2.2 ลิตรดีเซล 160 แรงม้า 3.2 ลิตรดีเซล 200 แรงม้า ตัวหลังนี้
แรงบิดยังเท่าเดิมคือ 470Nm และตัวเบนซิน 2.5 ลิตร พวงมาลัยเป็นเพาเวอร์แบบไฟฟ้าตามยุค
ตามสมัยแล้ว ดูภาพการเปิดตัวและภายใน คลิกที่นี่

ford_everest01
ตามมาด้วย PPV หล่อล่ำ Ford Everest ซึ่งเปิดราคามาเรียบร้อยแล้ว พร้อมรับจองในงานได้เลย
รุ่นถูกสุด 2.2 ลิตรดีเซลขับสองเกียร์อัตโนมัติราคา 1,269,000 บาท รุ่น 3.2 ดีเซลขับสี่ตัวรองราคา
1,459,000 บาท และ 3.2 ดีเซลตัวท้อปราคา 1,599,000 บาท มีการโหมอัดอุปกรณ์เข้าไปเต็มพิกัด
ตามสไตล์ Ford ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบ Blind Spot
Warning ถุงลมนิรภัย 7 ใบ และระบบ Parking Assist นี่ยังไม่นับ SYNC 2 ซึ่งต้องวานให้มนุษย์ IT
ช่วยอธิบายกันต่อเอาหน่อยเพราะจนป่านนี้ยังไม่ได้มีโอกาสลองใช้เลยครับ

Feature เด่นอีกอย่างของ Everest ใหม่คือระบบ Mode ขับเคลื่อน Terrain Management System-TMS
ซึ่งใช้ลูกบิดหมุนปรับเพื่อเลือกรูปแบบการทำงานของระบบขับสี่โดยเป็นไปตามสภาพถนนที่วิ่ง 4 แบบ
คือ พื้นผิวทั่วไป, หิมะ/กรวด/หญ้า, ทราย และหิน พร้อมระบบกดปุ่มสั่งล็อคเฟืองท้ายและ 4×4 LOW
ฝากระโปรงท้ายก็เป็นแบบกดปุ่มเปิดด้วยไฟฟ้า และหลังคา Panoramic Sunroof ถ้าต้องการดู
รายละเอียดเทียบออพชั่นทั้ง 3 รุ่น เชิญชมที่นี่ครับ น้อง Moo Cnoe จัดทำไว้ให้แล้ว

รุ่นอื่นๆที่โชว์ก็จะเป็นหน้าเดิมอย่างที่บอก Focus Ecoboost ยังไม่เห็นเงา EcoSport ก็ยังเป็นรุ่นเดิม
อยู่นะครับ ส่วน Fiesta ก็มีรุ่น Ecoboost ที่เราเพิ่งทดลองขับไป

Ford Mustang?..ใจเย็นๆหลาน..เย็นไว้..ร้องเพลงคริสต์มาสอีกสักรอบก่อนนะ เดี๋ยวมา..เดี๋ยวมา

PROMOTION!
– All New Everest จัดซื้อผ่าน Ford Leasing ดาวน์ต่ำ 10% ดอกเบี้ยพิเศษ ส่วน 200 ท่านแรกที่จอง
รับ Gift Pack, และลูกค้าเก่า Ford รับส่วนลดพิเศษ 20,000 บาท
– Focus Ambiente ผ่อน 0% 72 เดือน Ranger ที่กำลังจะตกรุ่นผ่อน 0% 60 เดือน
– Fiesta 0.99% 60 เดือน ส่วน EcoSport รุ่น Trend กับ Ambiente 0.99% 48 เดือน
– ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งสำหรับ Ford ทุกรุ่นที่จัดซื้อผ่าน Ford Leasing

.

HONDA

เดินทั่วทั้งบูธ งานนี้ไม่มีรถรุ่นใหม่แต่อย่างใด แต่คิดว่าคงมีไม้ตายซ่อนอยู่ในช่วงปลายปี จังหวะนี้
เลยเอาพลังกายไปทุ่มเทกับการผลิต HR-V ครอสโอเวอร์เมโทรชิคส่งลูกค้าให้ทันเสียก่อน จะได้
เปิดรับจองกันจริงจังต่อเสียที แต่ถ้าใครไม่ได้สนรถใหม่ รถที่มาโชว์ก็มี HR-V มาครบทั้งตัวถูกสุด
ยันตัวแพงสุด Accord ธรรมดา Accord Hybrid, Jazz, City, Mobilio ส่วน Brio ตอนแรกเกือบ
มองหาไม่เจอ ต้องเดินหาจึงพบ Brio น้อยหลบอยู่ข้างหลังบูธคล้ายๆผู้ชายขี้อายแอบมองสาว
โผล่หัวมาเห็นแต่ผมกับตาไม่โผล่ตัวอย่างไรก็อย่างนั้น

honda_aboot

PROMOTION!
– Brio/Brio Amaze ดอกเบี้ย 0%+ ฟรีประกันภัย
– Jazz ดอกเบี้ย 1.59% (หรือเลือกรับฟรีประกันภัย)
– Citiy/City CNG ดอกเบี้ย 0% หรือ ดาวน์ 0 บาท (หรือเลือกรับฟรีประกันภัย)
– Freed ดอกเบี้ย 0% (หรือเลือกรับฟรีประกันภัย)
– Mobilio ดอกเบี้ย 1.99% (หรือเลือกรับฟรีประกันภัย)
– Civic ดอกเบี้ย 0.99% (หรือเลือกรับฟรีประกันภัย)
– Accord 2.4 ดอกเบี้ย 1.39% (หรือเลือกรับฟรีประกันภัย)
– Accord Hybrid ดอกเบี้ย 1.99% (หรือเลือกรับฟรีประกันภัย)
– Odyssey รุ่น E ดอกเบี้ย 0.99% (หรือเลือกรับฟรีประกันภัย)
– ทุกรุ่นยกเว้น City, City CNG, Jazz, Mobilio ขยายเวลารับประกันตัวรถเป็น 5 ปี

.

HYUNDAI

ไม่มีอะไรมาก ยังนำ Elantra Sport ออกมาโชว์ไปควบคู่กับ Veloster, Tucson และ H-1 รุ่นต่างๆ
ปีนี้ไม่มีรถต้นแบบมาโชว์ ส่วนที่เด่นเป็นสีสันบนเวทีนั้นคือ Elantra Sport ตัวแต่งเฉยๆ
อย่างไรก็ตามยังมีโปรโมชั่นที่บางคนอาจจะสนใจกันเช่น ตัว Elantra Sport รุ่น 1.8GL ตัวล่าง
และรุ่น 1.8GLE มีแคมเปญผ่อน 48 เดือนดอกเบี้ย 0% และแถม Head Unit เล่น DVD ได้และมี
ระบบนำทางพร้อมกล้องถอยหลัง และยังฟรีประกันภัยชั้น 1 อีกด้วย

hyundai_elantra

ส่วน Tucson 2.0D 4WD นั้นก็มีผ่อน 48 เดือน 0% ในขณะที่ Veloster Sport Turbo และตัว MPI
นั้นจะได้ 0% เหมือนกันแต่ผ่อนได้นานสุดแค่ 36 เดือน (ฟรีประกันภัย)

ต้องยกตัว Promotion มาพูดเพราะปีนี้ยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่หรือรถต้นแบบที่น่าสนใจ

.

ISUZU
– MU-X The Limited

isuzu_aboot

ยังไม่มีแววเครื่องยนต์ตัวใหม่ ดังนั้นในบูธก็จะมี D-Max สีเขียวเสียวสะใจอยู่หน้าบูธที่ยังมองแล้ว
เห็นความซิ่งในแบรนด์นี้อยู่ นอกนั้นไปก็จะเป็นรถหน้าเดิมทั้ง MU-X และบรรดา Highlander
ทั้งหลาย

isuzu_muxthelimited

แต่อย่างน้อยก็ยังมีรุ่นพิเศษอย่าง MU-X The Limited ซึ่งบวกราคาขึ้น 20,000 บาทจากรุ่นปกติ
โดยมอบสิ่งตอบแทนให้เป็นเบาะหนัง(กึ่งหนังแท้) สีดำ เดินด้ายสีเงิน ตกแต่งภายในเพิ่มเติมด้วย
วัสดุ Gloss Piano Black และ Silver Metalic ชุดเครื่องเสียงเป็นแบบ 8 ลำโพง Live Surround
by Kenwood (มี Subwoofer ใต้เบาะด้วย!)

ส่วนภายนอกมีล้ออัลลอยรมสีเทาเข้ม กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ และสติกเกอร์ตกแต่งภายนอก

.

JAGUAR/LAND ROVER (JLR)
– ไร้เงา Discovery Sport

jlr_aboot

ยังไปได้เรื่อยๆกับรถรุ่นเดิมที่ขายอยู่ไม่ว่าจะเป็น F-Type ซึ่งมีตัวคูเป้เข้ามาสักพักแล้ว กับรถ
รุ่น XJ, XF จากฝั่ง Jaguar ส่วนทาง Land Rover นั้นจะมีรุ่น Freelander กับ Defender
ที่มาโชว์ภายในงาน ส่วนจุดเด่นของบูธน่าจะเป็น Range Rover Evoque สีส้ม Phoenix
ที่อยู่ตรงกลาง กับ Range Rover Vogue นั่นเอง

ส่วน Discovery Sport ยังไม่เผยโฉม และจะยังไม่มาในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ ถ้าใครอยากเจอ
ตัวจริง บอกได้ว่าจะเปิดตัวราวเดือนพฤษภาคม พร้อมกับการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ครับ
ส่วนขุมพลังที่ใช้น่าจะเป็นตัว SD4 2.2 ลิตรเทอร์โบดีเซล เพราะตอนนี้มีการแจกโบรชัวร์แล้ว!

.

LAMBORGHINI
– Hooray to Huracan

lamborghini_aboot

จอดเด่นอยู่ 3 คัน โดยงานนี้ เดอะเบบี้บูลตัวใหม่ได้ฤกษ์เผยโฉมสู่สายตามหาชนชาวไทยเสียที
ถึงจะเรียกว่าเป็นเบบี้บูล แต่ที่จริงก็ไม่น่าเรียกอย่างนั้นเท่าไหร่นัก เพราะถ้าขึ้นชื่อว่ามีโลโก้กระทิง
หงุดหงิดอยู่ด้านหน้า บอกได้เลยว่ารถจากครอบครัวนี้ “ดุทุกตัว”

 

ชื่อ Huracan นั้นคือชื่อกระทิงสายพันธุ์จาก Spanish Conte de la Patilla ที่ได้มีการต่อสู้ในเดือน
สิงหาคมปี 1879 ที่ Alicante และมีลักษณะที่น่ากลัวคือเวลาสู้จะสู้แบบถวายชีวิต ทำให้มาธาดอร์
ทั้งหลายต้องคิดหนักว่าจะเอาหรือไม่เอาดี มันคือรถที่ Lamborghini สร้างมาสานต่อความสำเร็จ
ของ Gallardo ซึ่งขายได้กว่า 14,000 คันทั่วโลก (นั่นถือว่าเยอะแล้วสำหรับซูเปอร์คาร์) แต่ในการมา
ครั้งนี้ ถ้าไม่นับเรื่องเครื่อง V10 ที่ยังคงหายใจเองไม่พึ่งเทอร์โบและรอบจัดปรี๊ดจัดปรี๊ดแล้ว สิ่งอื่นๆ
ได้ถูกพัฒนาจาก Gallardo เพิ่มขึ้นมาก ดีไซน์ตัวถังเป็นแบบ One Stroke ซึ่งออกแบบให้แลดูเหมือน
การตวัดพู่กันทีเดียวจากหน้าถึงหลัง Lamborghini ได้ศึกษาและสอบถามความต้องการลูกค้า
ของพวกเขาและตอบสนองด้วยการออกแบบส่วนหลังคาให้สูงขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่เหนือศรีษะสบายขึ้น
(จริงๆตัวนักออกแบบเองไม่ได้อยากทำหรอก แต่ผลจากการวิจัยมันพาไป) โครงสร้างตัวถังเป็นแบบ
ลูกผสมระหว่างอะลูมิเนียมบางส่วน กับโครงสร้างส่วน Tub ที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ขึ้นรูปด้วยวิธีการ
แบบ RTM-Resin Transfer Moulding  น้ำหนักรถเปล่าไม่รวมของเหลวอยู่ที่ 1,422 กิโลกรัม หากเติม
น้ำมัมเต็มถังและของเหลวครบน่าจะอยู่ราวตันห้ากว่าๆ

lamborghini_huracan

หัวใจของ Huracan เป็นเครื่อง V10 5.2 ลิตรหัวฉีดตรง 610 แรงม้าที่ 8,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด
560Nm ที่ 6,500 รอบต่อนาที เห็นปั่นรอบสูงอย่างนี้ แต่มันเป็นเครื่องอันเดอร์สแควร์ ช่วงชักยาวกว่า
ขนาดปากกระบอกสูบนะครับ จากนั้นก็จะส่งพลังผ่านเกียร์คลัตช์คู่ที่เรียกว่า LDF-Lamborghini
Doppia Frizione แบบ 7 จังหวะ ซึ่งเป็นครั้งแรกของค่ายกระทิงเปลี่ยวที่นำเอาเกียร์แบบนี้มาใช้
ก่อนหน้านี้รุ่นที่แล้วมาจะเป็นเกียร์ Automated Manual ที่กลไกคล้ายเกียร์ธรรมดาซึ่งไม่ต้องเหยียบคลัตช์
มากกว่า อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. เคลมไว้ 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 ก.ม./ช.ม.

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของ Lamborghini Huracan คือระบบปรับนิสัยและการตอบสนองของรถโดย
ระบบนี้มีชื่อเรียกว่า ANIMA (แปลว่าจิตวิญญานในภาษาอิตาลีนะ ไม่ต้องใส่ตัว L ต่อท้ายให้..ขอบคุณ)
แต่ที่จริงย่อมาจาก “Adaptive Network Intelligent Management”  ด้วยปุ่มที่อยู่ส่วนล่างของก้านพวงมาลัย
ผู้ขับสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้สามแบบคือ “Strada”, “Sport” และ “Corsa” โดยอย่างหลังคือโหมด
โหดสุด..ฟังดูแล้วคุณอาจจะอยาก Corsa เล่นๆบนถนน แต่กรุณาคิดดีๆก่อน หรือลองจากเกียร์สูงๆ
คันเร่งครึ่งๆกลางๆก่อน..โลโก้กระทิงขวิดน่ะ มันมีความหมายนะครับต่อให้นี่จะเป็นกระทิงที่เป็นมิตร
กับเจ้าของมันมากกว่าสมัย 20-30 ปีก่อนเยอะแล้วก็เถอะ

.

MAZDA
– แดงทั้งแผ่นดิน..ไม่ใช่การเมืองแต่เป็นสีสันในบูธ!!

mazda_aboot

แทบจะอุทิศพื้นที่บูธ 100% ให้กับการเปิดตัวเจ้าตัวแสบ Mazda 2 เบนซิน SkyActiv-G จนไม่แน่ใจว่า
พอถึงวันรอบคนทั่วไปเข้าชมแล้วจะเอารถรุ่นอื่นมาแซมบ้างหรือเปล่า สีสันรถในบูธแดงไปหมด
จนเดินไปเดินมาในบูธแทบจะตกกะใจนึกว่าเลือดออกในลูกตา

แน่นอนว่ามางานนี้ สิ่งเดียวที่ชาวสื่อมวลชนถวิลหาก็คือการมาของ Mazda 2 เบนซินนั่นเองว่าจะ
เป็นอย่างไร รถรุ่นนี้ใช้เครื่อง 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 123Nm ชูโรงจุดขาย
ด้วยความประหยัดน้ำมันและการเป็นรถคันแรกที่ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO5 ในบรรดารถ
ประกอบในประเทศและปล่อย CO2 ไม่ถึง 100 กรัม/ก.ม. รองรับน้ำมันเบนซิน, E10 และ E20 ไม่รองรับ
E85 นะครับ ส่วนระบบส่งกำลังมีเพียงแบบเดียวคือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ดังนั้นใครที่รอหวังจะ
สับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ..เอ้า ดิ้น! ดิ้นสิ! รออะไรอยู่! (ผมจะได้ดิ้นเป็นเพื่อนไง!)

mazda_2skyactiveG

Mazda 2 เบนซิน มีทั้งตัวถัง 4 และ 5 ประตู แบ่งการตกแต่งออกเป็น 3 ระดับได้แก่ Standard, High
และ High Plus โดยรุ่น Standard ภายในจะมีแอร์แบบลูกบิด ไม่มีจอกลางอันใหญ่ และล้อเหล็กทับ
ด้วยฝาครอบ ถ้าใครต้องการจอกลางใหญ่ 7 นิ้วและจอ HUD ต้องเล่นตัว High Plus เท่านั้น ความต่าง
อีกอย่างของรุ่นเบนซินเมื่อเทียบกับดีเซล 1.5 ก็คือถังน้ำมันลดขนาดจาก 44 เหลือ 35 ลิตร เบรกหลัง
ทุกรุ่นจะเป็นดรัมเบรกทั้งหมด และรุ่นท้อปของเบนซินจะใช้ล้ออัลลอย 15 นิ้ว (ไม่มีล้อ 16 นิ้วแบบ
ตัวดีเซล) แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัย สบายใจได้เพราะถุงลมคู่หน้า, ABS, DSC
และแทร็คชั่นคอนโทรล มีมาให้ “ทุกรุ่น” เช่นเคย

สำหรับราคาของ Mazda 2 SkyActiv-G 1.3 มีดังนี้ครับ
รุ่น Standard ราคา 550,000 บาท
รุ่น High ราคา 610,000 บาท
และรุ่น High Plus ราคา 665,000 บาท โดยจะเท่ากันสำหรับทั้งรุ่น 4-5 ประตูครับ

ส่วนรถรุ่นอื่นที่นำมาจัดแสดงก็มี  Mazda 3 Racing Series จิตวิญญาณสปอร์ต..สปอร์ตแค่จิตวิญญาณ
เป็นลิมิเต็ดเอดิชั่นแอโร่พาร์ทแท้จากญี่ปุ่น สปอยเลอร์ สเกิร์ตดำ มีแต่สีขาวราคา 968,000 บาทและสีแดง
ราคา 973,000 บาท ส่วนโปรโมชั่นต่างๆรบกวนสอบถามที่บูธเลยแล้วกันครับเพราะไม่ได้แจ้งมา

อัพเดตเพิ่มเติม
– วันรอบบุคคลทั่วไป..มีรุ่น CX-5 กับ BT50 มาเสริมทัพครบ และลดจำนวน Mazda 2 เบนซินในบูธลงครับ

.

MERCEDES-BENZ
– 5 รุ่นใหม่ทั้งที่เปิดตัวไปก่อนหน้าและของใหม่ซิงๆ

mercedes_benz_aaboot

ปีนี้มีการจัดรถแบบค่อนข้างแบบแยกโซน คนที่อยากเห็น CLS AMG กับ E-Class AMG คงต้อง
เดินอ้อมมาหลังบูธหน่อย ในขณะที่รถรุ่นอื่นๆที่เปิดตัวไปนานแล้วมักจะอยู่ทางปีกขวาถัดไป
จากทางเวทีหลัก แต่อย่าลืมไปแถวเวที..เพราะของดีทั้งหมดอยู่แถวนี้ครับ

mercedes_amg_GT
Mercedes-AMG GT S รถสปอร์ต Front-Midship ขับหลังรุ่นที่ 2 จากฝีมือ AMG มาถึงแล้วในที่สุด
ด้วยราคาที่เปิดมา 14.9 ล้านบาท แรงด้วยพลังเครื่อง V8 3,982 ซี.ซี. เทอร์โบคู่ ซึ่งใช้วิธีการติดตั้ง
เทอร์โบแบบเอาไว้ตรงกลางระหว่างแบงก์ฝาสูบแต่ละฝั่ง (เหมือน V8 เทอร์โบของ BMW M5 นั่นล่ะ)
ให้แรงม้าสูงสุด 510 แรงม้าที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 650Nm (แพ้ V8 เทอร์โบของ Bentley
อยู่ 30Nm) ส่งกำลังผ่านเกียร์ AMG SPEEDSHIFT DCT 7 จังหวะ และสามารถทำความเร็วสูงสุด
ได้ถึง 310 ก.ม./ช.ม. อ่างน้ำมันเครื่องเป็นแบบ Dry-sump (ไม่มีอ่าง แต่ใช้ปั๊มดูดหมุนวนแทน)
โครงสร้างตัวถังเป็นแบบอะลูมิเนียมสเปซเฟรม+แม็กนีเซียม น้ำหนักตัวรถรวมทั้งคัน 1,890 ก.ก.
(เห็นแล้วยังแปลกใจเหมือนกันทำไมดูหนักๆ และสื่อเมืองนอกบางที่บอกว่าหนักแค่ไม่เกิน 1.6 ตัน)
อัตราส่วนการกระจายน้ำหนัก หน้า 47% หลัง 53% ..และจะบอกว่า 14.9 ล้านบาทคือราคาเริ่มต้น
นะครับ ส่วนคันสีเหลืองที่โชว์ในงานนั้นสั่งสี Custom พิเศษ และตกแต่งอุปกรณ์อื่นๆจนราคาจะเพิ่ม
จากนั้นไปอีกหลายแสนทีเดียว

mercedes_benz_GLE450

GLE-Class Coupe นี่ก็คือคันที่จะเอามันทุกทรงทุกแบบมารวมไว้ในคันเดียวทั้งคูเป้ ซีดาน แฮทช์แบ็ค
และ SUV แต่ผลลัพธ์ออกมาก็เรียกคนเข้าบูธได้ไม่น้อยแล้วกัน โดยในช่วงแรกนี้ จะมีให้เลือกแค่
เพียงรุ่นเดียวคือ GLE450AMG 4 MATIC เครื่องยนต์ V6 สูบ ทวินเทอร์โบ 2,996 ซี.ซี. ให้แรงม้าสูงสุด
367 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 520Nm ตั้งแต่ 1,800-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติใหม่
9G-TRONIC สู่ล้อทั้งสี่ด้วย 4MATIC แบบ Permanent all-wheel drive ทำอัตราเร่งจาก 0-100 ก.ม./ช.ม.
ได้ใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 ก.ม./ช.ม. รถรุ่นที่ Mercedes-Benz Thailand เอาเข้ามานี้จะมี
ชุดแต่ง AMG รอบคัน ไฟหน้า LED หลังคาพานอรามิกซันรูฟ และล้อ AMG 5 ก้านคู่ขนาด 22 นิ้ว
หากใครต้องการเป็นเจ้าของ ก็ไม่ยาก เตรียมเงินมาสู่ขอได้เลย 7,990,000 บาทครับ

THE NEW V-CLASS มาดใหม่ของรถ MPV 6 ที่นั่ง ซึ่งมีที่นั่งตอนหลัง 2 แถวเป็นแบบ Captain Seat
พร้อมระบบความปลอดภัยครบครันรวมถึง PRE-SAFE  และถุงลมนิรภัย 6 ใบ เครื่องเสียงที่ให้มา
เป็นของ Burmester สั่งการโดยระบบควบคุมแบบ Touchpad โดยในปัจจุบันจะมีให้เลือกเพียง
รุ่นเดียวคือ V250 BlueTEC AVANTGARDE เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2,143 ซี.ซี. แรงม้าสูงสุด
190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440Nm (น้อยกว่าเครื่อง 250CDI ตัวที่ผ่านๆมาแฮะ) ส่งกำลังผ่านเกียร์
7G-TRONIC PLUS ราคารถอยู่ที่ 5,490,000 บาท

C-Class ประกอบในประเทศ เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้เพื่อทดแทนรถรุ่นเดิมที่สั่งนำเข้าจากนอก
คราวนี้คอเครื่องเบนซินคงเหงา เพราะรุ่น C250 เบนซินจากไปแล้วอย่างสงบ แต่อย่างน้อย รุ่นที่
ราคาประหยัดที่สุด ก็เปลี่ยนจาก C180 เป็น C200 Avantgarde เครื่องอัพปอดจาก 1.6 เป็น 2.0 ลิตร
ให้แรงม้า 184 แรงม้า ตั้งราคาไว้ 2,590,000 บาท ส่วน C300 BlueTEC Hybrid ดีเซล 2.1 ลิตร
204 แรงม้า จะมีการตกแต่งแบบ Exclusive เน้นหรูแบบผู้ใหญ่ใจดีแต่เท้าหนัก ราคา 2,840,000 บาท
และรุ่น AMG Dynamic  ตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG รอบคัน ล้อ 18 นิ้วและเครื่องเสียง Burmester
มาในราคา 3,090,000 บาท ส่วนใครที่ถามหาตัว Estate ก็ยังมีขายอยู่นะครับ ดูใน Price List ได้
สำหรับรายละเอียดและการเทียบออพชั่น C-Class CKD รุ่นต่างๆนั้น คลิกอ่านได้ที่นี่เลยครับ
CLA Shootingbrake อีกสายพันธุ์จากตระกูล A, CLA-Class ที่ต่อท้ายเพื่อขยายความสุข…ในการ
บรรทุกของนะ ส่วนบรรทุกคนก็อย่าคาดหวังมาก (เบาะหลัง) เปิดตัวทั้งทีแน่นอนว่าต้องเอาตัวท้อป
สุด CLA250AMG มากันเลยทีเดียว นอกจากเครื่องเทอร์โบ 2.0 ลิตร 211 แรงม้าตัวเก่งตัวเดียวกับ
ที่อยู่ใน A250 แล้ว สิ่งที่โดดเด่นเหนือกว่าคืออุปกรณ์มาตรฐานอย่าง EASY-PACK tailgate ซึ่งเป็น
ระบบเปิดฝาท้ายแบบกลไกกึ่งไฟฟ้าที่สามารถเปิดได้จากปุ่มที่เบาะนั่งผู้ขับก็ได้ กดเปิดจากฝาท้าย
แบบรถทั่วไปก็ได้ หรือกดจากรีโมทเอาก็ได้ รวมทั้งของเล่นติดรถอย่างอื่นเช่นชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG
(กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง), กันชนท้ายแบบสปอร์ต พร้อมตกแต่งชายล่างของกันชนสีเดียว
กับตัวรถ,  ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตลาย Multi-spoke จาก AMG
ขนาด 18 นิ้ว และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (Electric panoramic sliding glass sunroof)

PROMOTION!
– แถมประกันภัยชั้น 1 หมดเขต 30 เมษายนนี้ ส่วน E-Class ทั้งซาลูนและเอสเตทถ้าจัดไฟแนนซ์
กับ Mercedes-Benz Leasing ได้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%
– ลูกค้าที่สมัครบัตรเครดิต MercedesCard ลุ้นรับ A180 AMG Sport

.

MG
– MG3, MG3 Xross หลากหลายสีสัน เดินจาก Mazda มาบูธนี้ปรับตัวแทบไม่ทัน

mg_aboot
เปิดตัวมาตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคมแล้วสำหรับรถประเภท Sub-compact หน้าใหม่แห่งวงการ
MG ประเทศไทยจึงขน MG3 มาจนเต็มเวที เล่นเอา MG6 ตัวพี่กลายเป็นตัวประกอบพี่เลี้ยงคอยให้น้ำ
อยู่ข้างเวทีไป เท่าที่เห็นมา รถเวอร์ชั่นจริงมีสีสันค่อนข้างดึงดูดสายตาผู้คนเพราะนับเป็นเจ้าแรกใน
บรรดา B-Segment ที่ลงทุนแต่งสไตล์รถด้วยการสาดสีตัวถังทูโทนและ Customize เพื่อสร้างความ
แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวถังสีเหลืองหลังคาสีดำ (Tudor Yellow – Black Top) ตัวถังสีแดงหลังคาสี
ขาว (Regal Red – White Top) แต่ Combination ที่ดูแล้วคนขับ MINI Cooper มองแล้วเกิดอาการ
คันคันก็คงเป็นสีฟ้าหลังคาขาวคาดลายธงชาติอังกฤษ..คงไม่ได้มีเรื่องลิขสิทธิ์อะไรกันหรอกนะ

mg_mg3

MG3 ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 135Nm ส่งกำลังผ่าน
เกียร์ SeleMatic 5 จังหวะ..ดูเหมือนจุดขายของ MG คือ “ออโต้แบบดั้งเดิมไม่ใช่คำตอบ” แน่ๆเลย
นอกจากนี้ยังประเคนออพชั่นมาให้เพียบ เด่นที่สุดเหนือใครในรุ่นก็คงเป็นหลังคาซันรูฟไฟฟ้า..
ครั้งแรกสำหรับรถเล็กประกอบในประเทศราคาครึ่งล้านที่มีอุปกรณ์แบบนี้มาให้ แถมยังเสริม
ความปลอดภัยด้วยระบบ CBC- Curve Brake Control และ HAS- Hill Start Assist ซึ่งคู่แข่ง
ระดับเดียวกันอย่างมากก็จะมีแทร็คชั่นคอนโทรล ระบบรักษาการทรงตัว เบรก ABS ราคาเริ่มต้น
อยู่ที่ 479,000 บาทในรุ่น C ขยับเป็น 509,000 บาทในรุ่น D และรุ่น X ราคา 559,000 บาท แต่ถ้า
ใครชอบรถที่ตกแต่งสไตล์ Crossover มาดบึกบึนขึ้น ได้ล้ออัลลอยห้าก้านสวยๆและแร็คหลังคา
ก็คงต้องมองรุ่น Xross (อ่านว่าครอสน่ะ ไม่ต้องมาอ่านเอ็กซ์รอสแบบที่ผมพลาด) ราคา 595,000 บาท
ถ้าอยากรู้ว่า MG3 เป็นอย่างไร หรืออยากหาข้อมูลใส่ตัวไว้สักนิดก่อนลองของจริง เชิญอ่าน
First Impression ของ MG3 โดย J!MMY ได้เลยครับ

.

MITSUBISHI MOTORS

mitsubishi_aboot

จุ๊จุ๊

ปีเนี้ยนะ..
Mitsubishi เขามีรถใหม่ด้วยแหละ..ไม่ได้มีแต่รถเดิมหุ้มลายคิตตี้แล้ว!

mitsubishi_delica

Delica SPACE WAGON คือชื่อของ Monobox MPV คันใหม่จาก Mitsubishi ซึ่งมาเจาะตลาด
กลุ่มเดียวกับที่ Space Wagon (รุ่นเก่าที่เลิกขายไปนานแล้วและทรงล้ำยุคกว่านี้) เคยเล่นอยู่
ภายในมีทั้งหมด 7 ที่นั่ง หน้า 2 กลาง 2 และหลัง 3 แก่งรอบคันด้วยโครงสร้างนิรภัยชื่อน่ากินว่า
Rib Bone Frame มีจอภาพ LED ขนาด 10.2 นิ้วติดตั้งบนหลังคาพร้อมระบบฟอกอากาศ
และแน่นอนว่ารถระดับนี้ จะให้เอื้อมเลื่อนประตูเองก็กระไรอยู่ ทาง Mitsubishi จึงให้ประตูเลื่อน
บานข้างเป็นแบบไฟฟ้า กดทีเดียวอยู่ พร้อมระบบป้องกันการหนีบมาให้เสร็จสรรพ เครื่องยนต์ที่ใช้
มีรหัสว่า 4J11 ซึ่งเป็นขนาด 2.0 ลิตร เหมือน 4B ของ Lancer EX แต่ปรับปรุงระบบ MIVEC ใหม่
นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจถ้าคุณกำลังมองหารถ MPV คันขนาดกำลังดี แต่จะแอบกระซิบว่า
เจ้า Delica D:5 ตัวนี้อ่ะนะ..มันขายในญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนมกราคม 2007 แล้วนะเธอ..สนนราคาก็
อยู่ที่ 1,780,000 บาท ถ้าอยากได้สีขาวให้บวกอีก 15,000 บาท
ไม่รู้จะบอกยังไงก็..ขอต้อนรับสู่แซยิดแฟมิลี่อีกคันแล้วกันเด้อค่ะเด้อ

mitsubishi_attrage2015d

ส่วนอีกคันที่มีการอัพเดทแบบเงียบๆ (เดินผ่านแล้วไม่รู้ กลับมาบ้านแล้วถึงรู้) คือ Attrage MY2015
ซึ่งโดยสาระสำคัญนั้น ก็มีการเพิ่มไฟ Daytime Running Lights มาให้ ส่วนรุ่น GLS Ltd. จะเพิ่ม
กระจังหน้ารมดำ คิ้วกระโปรงหลังรมดำ ล้ออัลลอยรมดำ (ไม่อยากจะเรียกว่ารมดำ แต่ถ้าเรียกว่า
รมเทา หรือรมเทาค่อนข้างอ่อน กลัวเราจะบาดหมางกัน) แน่นอนว่าและมีเบาะหนังสีดำเดินตะเข็บสีแดง
มาให้ในรุ่นท้อป พิเศษพร้อมสีเทาใหม่ Titanium Grey

.

NISSAN
– Juke Minorchange/X-Trail

nissan_xtrailandjuke

ไม่ต้องบอกอะไรมากเพราะยังไม่มีรถใหม่เปิดตัวซิงๆในงาน มีแค่ Juke Minorchange นั่นเองที่
ใหม่สดที่สุด เพราะเพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน ใช้เครื่อง HR16DE 1.6 ลิตรหัวฉีดคู่ 116 แรงม้าเหมือนเดิม
ปรับเพิ่มทางเลือกรุ่นย่อยออกเป็น 3 รุ่น รุ่นที่ถูกที่สุดคือ 1.6S ราคา 799,000 บาท เหมาะสำหรับ
คนที่อยากได้ทรงภายนอกแบบจู๊ค จู๊ค แต่ไม่ต้องการของเล่นอื่นๆเช่นจอ Tablet ถอดได้  ไฟหน้าซีนอน
และไฟตัดหมอก พูดง่ายๆก็คือเปลี่ยนชุดเครื่องเสียงเป็น CD ธรรมดาและถอดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออก
ก็ได้ราคาต่ำกว่า 800,000 บาทแล้ว (หันไปเจอ Ford EcoSport ยืนยิงฟันยิ้มรออยู่เลย) ส่วนรุ่นท้อป
อย่าง 1.6 V ราคา 884,000 บาท ก็มีการเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้าง และใส่อุปกรณ์ชนิดลูกเล่นมาเต็ม
พร้อมระบบ Juke คุยกับ Juke หรือ EZ-Talk ไว้แชร์ข้อมูลข่าวสารและโลเกชั่นต่างๆระหว่าง
คนใช้ Juke ด้วยกันได้อีกด้วย (น่าจะพัฒนาให้คุยกันได้ทุกโมเดลภายใต้แบรนด์นิสสันไปเลย
น่าจะมีประโยชน์มากขึ้น) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่นี่

nissan_aboot

PROMOTION!
– Teana ดาวน์เริ่มต้น 5% และผ่อนนานสูงสุด 84 เดือน หรือดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน ดอก 0%
– March, Almera และ Sylphy ดาวน์เริ่มต้น 9.99% ผ่อนนาน 48 เดือน ดอกเบี้ย 2.09% หรือ
ดาวน์ 20% ผ่อน 48 เดือน ดอกเบี้ย 0%

.

ROLLS-ROYCE

rollsroyce_aaboot

สุดๆกับ Phantom Drophead Coupe Waterspeed Collection สีฟ้า Maggiore (มัจจอเร่)
ซึ่งในปัจจุบันในโลกนี้มีรถรุ่นนี้อยู่แค่ 35 คัน และคันที่มาโชว์ในบูธงานมอเตอร์โชว์นั้น
เป็นรถเพียงคันเดียวที่มีอยู่ในบริเวณเอเชียแปซิฟิก และแน่นอนว่านี่เป็นการเผยโฉมรถ
อย่างเป็นทางการครั้งแรกในภูมิภาคนี้ด้วยเช่นกัน

rollsroyce_aboot

รถรุ่นนี้สร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจ ที่ย้อนไปเมื่อปี 1937 Sir Campbell ใช้เรือเร็วซึ่งติดเครื่องยนต์
R-Type ของ Rolls-Royce ในการทำลายสถิติความเร็วทางน้ำ และสามารถทำความเร็วได้สูงถึง
208.41 ก.ม./ช.ม. ล้มเจ้าสถิติเดิมอย่างอเมริกาที่ครองแชมป์มาถึง 5 ปีได้สำเร็จ จากชัยชนะ
ครั้งนั้น ทำให้จิตวิญญาณที่โลดแล่นไปบนผืนน้ำมาอยู่บนบอดี้ของ Rolls-Royce Drophead
Coupe Waterspeed Collection ขนาดมิติมโหฬารด้วยความยาว 5,612 ม.ม.  กว้าง 1,987 ม.ม.
ใช้เครื่องยนต์ V12 สูบ 460PS แรงบิด 720Nm พาตัวถังหนัก 2.6 ตัน เร่งจาก 0-100 ก.ม./ช.ม.
ได้ภายในเวลา 5.8 วินาที แต่จะล็อคความเร็วสูงสุดเอาไว้ที่ 240 ก.ม./ช.ม.

ส่วนรุ่นอื่นๆที่นำมาโชว์ อย่าลืมทางปีกซ้าย จะมีรุ่น Wraith คูเป้สีขาวมาดอลังการจอดอยู่ด้วย
รวมถึง Phantom Saloon และ Ghost II

 

SSANGYONG
– Actyon Sport กระบะครอสSUVครอสบ้านหลังน้อย

ssangyong_aboot
งานนี้มีรถเด่นคือ Actyon Sports Camping ซึ่งออกแบบมาด้วยแนวคิด “ท่องเที่ยวธรรมชาติ
ค่ำไหน นอนนั่น” โดยรถรุ่นนี้มีสไตล์ผสานระหว่างรถ SUV, Crossover กับ Pickup ยกสูง
แต่ช่วงล่างนั้นด้านหน้าจะเป็นแบบดับเบิลวิชโบน และด้านหลังแบบ Five Links ใช้เครื่องยนต์
ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 155 แรงม้า แรงบิด 360Nm มีระบบส่งกำลังให้เลือกทั้งอัตโนมัติ
และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ

ssangyong_actyonsportsa2005

หน้าตารถอย่างที่เห็นนี้ พร้อมชุดห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น เปิดราคาภายในงานมา
2,300,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรถรุ่นอื่นที่มาโชว์ ไม่ว่าจะเป็น New Korando, New Rexton
และ Kyron กับ MPV ตำนาน 11 ที่นั่งอย่าง Stavic

PROMOTION!
รับประกันอะไหล่ทุกชิ้น 4 ปี
ดอกเบี้ย 0% 3 ปี และรับ Samsung Note Edge เมื่อจองรถภายในงาน

.

SUBARU
– Outback เปิดรับจอง

ยังไม่มีรถอะไรใหม่ๆมาในปีนี้ รวมถึง Legacy Saloon ที่คาดว่าจะได้เห็น ก็ยังไม่มาให้เห็น
ดังนั้นในบูธจึงยังมีแต่ฝูง XV มากับ Forester Turbo และ WRX มาคู่กับ WRX STi สีน้ำเงิน
และ BRZ

subaru_aboot

ด้านท้ายของบูธ จะมี Outback อยู่สองคัน รถรุ่นนี้ที่จริงมาโชว์ตัวตั้งแต่งาน MotorExpo
ตอนปลายปีแล้ว แต่ในงานนี้จะเปิดรับจองจริงๆ และทาง Motor Image ก็แจ้งว่ารถทดสอบ
จะมีให้ขับภายในไม่ช้า หากใครที่ชอบรถมาดนี้ แต่อยากได้รถที่ดูคมคายขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว
อาจจะชอบ ถ้าโอเคกับราคา 2.59 ล้านบาท เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ไม่มีเทอร์โบ 175 แรงม้า

ส่วนโปรโมชั่นต่างๆคงไม่ต้องพูดถึงเพราะแชร์กันจนลูกค้าเก่า Subaru บ่นกันเต็มหน้า Wall
ช้ำอกช้ำใจไปแล้ว (แต่ก็ได้ข่าวว่ามีการเยียวยาโทรคุยปลอบใจและ offer ต่างๆกับลูกค้าเก่า
ซึ่งก็ยังดีกว่าการลดแล้วลดเลยไม่มีอะไรชดเชยความรู้สึกระหว่างสองเราอย่างที่ค่ายอื่นๆ
เคยทำมาก่อน) แต่อย่างไรก็ตาม คนที่อยากได้ XV รุ่นราคา 998,000 บาทที่เป็นสีส้ม
ผมได้รับแจ้งมาว่างดรับจองแล้วนะครับ (เฉพาะสีส้ม) ถ้าอยากได้สีนี้ต้องเล่นตัวที่แพงกว่าขึ้นไป

.

SUZUKI
– Ciaz พาคนเข้าบูธเป็นตัวหลัก แต่ยังไม่ขายนะ อีกแป๊บบบบ..

suzuki_aboot

คงไม่ต้องพูดถึงรถรุ่นอื่นๆที่มาโชว์ ไม่ว่าจะเป็น Swift RX ที่เอามาจอดตั้ง 3 คันแล้วก็ยังไม่เด่น
ไม่ต้องพูดถึง Celerio ได้อีก ได้อีก ได้อีก และ Ertiga รถ 7 ที่นั่งเล็กซึ่งเคยมีชีวิตที่ดีก่อนการมา
ของ Honda Mobilio และไม่ต้องพูดถึงรถช็อคโกแล็ตหรือรถเก๋เท่ห์ที่เอามาโชว์แล้วก็จากไป

เพราะวันนี้ ในงานมอเตอร์โชว์ ทุกคนพูดถึงแต่ Ciaz! Ciaz! และ Ciaz! ซึ่งตอนแรกเห็นก็
ดีใจแทบลดความอ้วนเลยทีเดียว แต่พอถามแบบซีเรียส ก็พบว่ารถรุ่นนี้ เอาเข้ามาโชว์ตัวก่อน
ยังไม่ได้ขายจริงในงานนี้ แต่มิถุนายนนี้เจอกัน! (สรุป ดี คนเขียนยังไม่ต้องลดน้ำหนัก)

suzuki_ciaz01

ชื่อของรถรุ่นนี้ เห็นเรียกกันหลายต่อหลายแบบ บางคนเรียกว่า ซิ-อ๊าส ในขณะที่ผมเรียกว่า
See-Ass (ออกเสียงแบบนี้เลยครับ) แต่ดูเหมือนว่า Suzuki จะรู้ว่าโลกนี้มีคนบ้าๆลามกแบบผม
ที่ต้องคิดชื่อออกเสียงแปลกๆให้ เขาเลยเขียนกำกับมาใน Press Kit เลยว่าชื่อรุ่น “เซียส” ครับ!
แม้จะมีพิกัดและกลไกหลายอย่างดูแล้วนึกถึง Swift แต่ขนาดตัวจริงๆของ Ciaz นั้น “ไม่เล็กนะครับ”
ความยาว 4,490 ม.ม. ความกว้าง 1,730 ม.ม.  ฐานล้อยาว 2,650 ม.ม. การออกแบบภายในเน้น
ให้มีพื้นที่การใช้งานกว้างขวางและสะดวกสบาย มีพื้นที่ห้องโดยสารใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์
ในระดับเดียวกัน ซึ่งเท่าที่ผมลองนั่งดู รู้สึกว่าสูสีกับ Almera แต่เฮดรูมจะสูงกว่ากันนิดๆครับ
เครื่องยนต์ที่ใช้ ผมเถียงกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ผมบอกว่าเครื่อง 1.2 ลิตร เขาบอกว่า 1.4 (คือ.ไม่ได้
เถียงแบบเอาดราม่านะครับ แค่แย้งกันไปกันมาเฉยๆ) สรุป เดินไปดูเลขเครื่องเลย มันคือบล็อค
K12B 1.2 ลิตร 91 แรงม้าจาก Swift นั่นล่ะครับ ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT และมีรุ่นเกียร์ธรรมดา
5 จังหวะมาด้วย!

เมื่อเปิดตัวจะมีสีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ สีขาว Snow White Pearl, สีเงิน Star Silver Metallic,
สีเทา Mineral Grey Metallic, สีดา Super Black Pearl และสีพิเศษโดยเฉพาะสาหรับรถรุ่นนี้
ซึ่งก็คือสีน้าตาล Dignity Brown Pearl Metallic ส่วนเรื่องที่หลายคนอาจจะอยากรู้ ผมถามมาให้ครับ
Ciaz จะใช้คาลิเปอร์หน้าที่มีตัวล็อคห่วยแตกเปลี่ยนแล้วก็ดังเปลี่ยนแล้วก็ดังกับแร็คเจ้าปัญหา
แบบ Swift หรือไม่ ผมได้คำตอบว่า “คนละชุดกัน” ขอให้จริงนะครับ ถ้าข้อมูลผิดคน Suzuki รีบบอกผมด้วย

.

TOYOTA/LEXUS
– รถ Fuel-cell  Mirai ตัวจริง และ MPV แฝดขวัญใจเสี่ยและนักบริหาร

toyota_aboot

Toyota ในปีนี้จัดว่ามีของมาให้ตื่นตาตื่นใจไม่น้อย โดยเฉพาะรถ Toyota Mirai ซึ่งขับเคลื่อนด้วย
พลังงาน Hydrogen Fuel Cell และได้ชื่อว่าเป็นรถ Hydrogen Fuel Cell คันแรกที่ทำขายอย่าง
จริงจังบนโลกใบนี้ เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 ที่ Los Angeles รถคันที่นำมาโชว์ในงานนั้น
เอกสาร Press Kit แจ้งว่าเป็น Prototype Model แต่ดูจากช่องดักอากาศซ้ายขวาแล้ว มันก็ไม่ใช่เจ้า
รถต้นแบบ FCV อยู่ดี อย่างไรก็ตาม รถเหล่านี้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อน แรงม้าไม่เท่าไหร่คือ
152 แรงม้า แต่แรงบิด 335Nm นี่สิ..รถ 2.0 ลิตรเทอร์โบดีๆนี่เอง ตัวมอเตอร์รับพลังมาจากแบตเตอรี่
1.6kWh แบบนิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ ความยาวตัวถัง 4,890 ม.ม. กว้าง 1,815 ม.ม. น้ำหนักตัวรถ
1,850 ก.ก. ทำอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ได้ภายในเวลา 9.0 วินาที (ข้อมูลจากเมืองนอก)

toyota_alphard02

Alphard/Vellfire เพิ่งเปิดตัวในช่วงสายที่โรงแรม Okura วันที่ 23 มกราคม แล้วก็มาเจอกันที่งาน
มอเตอร์โชว์ในช่วงบ่ายทันที รถรุ่นนี้ Toyota ให้นิยามว่าเป็น GRANDELUXE ซึ่งมุ่งเน้นความหรูหรา
สมรรถณะในการขับขี่ มีภายนอกที่หรูหรามีเอกลักษณ์ มีภายในที่เน้นการมอบความสะดวกสบาย
ให้กับผู้โดยสารภายในรถ…แต่ถ้าถามความเห็นผู้เขียน งานนี้ Toyota ไทยแลนด์เน้นอะไร..ก็คงเน้น
การพยายามท้ารบกับเกรย์มาร์เก็ตนั่นล่ะครับ แต่จะพิชิตได้หรือไม่..หรือจะขายได้ 700 คันต่อปี
ตามที่หวังไว้หรือไม่นั้น ต้องลุ้นกันต่อไป

Alphard จะเป็นรถที่ออกแบบมาสำหรับคนที่เน้นความหรูหรา เป็นแฝดผู้พี่ที่มีมาด
อบอุ่นไฮโซโอโมเทนาชิ หน้าตาจะ Conservative กว่ากันนิดหน่อย มีภายในที่เล่นโทนสีครีมอ่อน
ตัดกับลายไม้สีน้ำตาลในขณะที่ Vellfire นั้นแต่ไหนแต่ไรมาคนออกแบบตั้งใจให้จับตลาดลูกค้าที่
วัยรุ่นกว่า ชอบความท้าทาย สีสันไนท์ไลฟ์+beautiful wife และต้องการแพ็คทุกอย่างลงในรถ
MPV ขนาดใหญ่ 1 คัน ดังนั้นหน้าตาจึงออกจะท้าโลกมากกว่า และภายในก็ตกแต่งด้วยโทนสีดำ
ตัดกับลายไม้สีเทา

toyota_vellfire

Alphard จะมีให้เลือก 2 รุ่น คือรุ่น Hybrid 2.5 ราคา 3,549,000 บาท และแรงสะใจกับรุ่น V6
3.5 ลิตร แต่ราคาก็โดดไป 4,649,000 บาท ส่วน Vellfire นั้นจะมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียวคือเครื่อง
2.5 ลิตรเบนซิน ราคา 3,399,000 บาท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถ 2 รุ่นนี้ คลิกที่นี่

Camry Minorchange เพิ่งจะเปิดตัวกันไปไม่กี่สัปดาห์สำหรับรถ D-Segment ที่เป็นขวัญใจ
ชาวประชาไทยไปจนถึง Uber และ GrabCar โดยตัวเด่นที่น่าจับตามองอยู่ที่รุ่น 2.0G และ
2.0G Extremo ซึ่งในพิกัด 2.0 ลิตรนี้ จะเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เป็น D-4S พร้อมระบบแปรผัน
แคมชาฟท์ VVT-iW ให้กำลัง 167 แรงม้า และเปลี่ยนเกียร์จากอัตโนมัติ 4 สปีดที่ไม่มีใครในรุ่น
เขาใช้กันแล้ว มาเป็นอัตโนมัติ 6 จังหวะแทน ราคารุ่น 2.0G อยู่ที่ 1,319,000 บาท ส่วน Extremo
ที่ได้ชุดแต่งภายนอก ล้อลายเฉพาะรุ่น และภายในสีดำ ราคา 1,429,000 บาท สำหรับรายละเอียด
เพิ่มเติมนั้น สามารถอ่านได้ที่นี่

Altis Nurburgring Edition เพิ่งเปิดตัวไปหลัง Camry แต่ไม่มีอะไรมาก เครื่องยนต์กลไกเดิม
ตัวเดียวกับ Altis ESport แต่เพิ่มกันชนหน้าเฉพาะรุ่น ไฟตัดหมอ กระจังหน้ารมดำ สปอยเลอร์ท้าย
เปลี่ยนใหม่ ไฟท้ายรมดำตรงขอบ ภายในมีเพิ่มคาดแถบสีแดง และจอ DVD/ระบบนำทาง ราคาขาย
อยู่ที่ 949,000 บาทสำหรับรถสีดำ และ 959,000 บาทสำหรับรถสีขาว..อย่าถามว่าทำไมสีขาว
แพงกว่า..มันแทบจะกลายเป็นขนบธรรมเนียมรถไทยยุคนี้ไปเสียแล้ว

ส่วนรถรุ่นอื่นก็มีมาโชว์ครบ ไม่ว่าจะเป็น Vios, Yaris ที่ดูเหมือนโดนพวกรุ่นพี่ของตัวเองแย่ง
ความสนใจไปพอสมควร และ Vigo ตัวปัจจุบันก็ยังตั้งตระหง่านอยู่ในบูธ แต่รู้ตัวว่าเตรียม
เก็บของออกจากออฟฟิซในเร็ววันนี้แหละมั้ง อิอิ

PROMOTION!
– ชวนเพื่อนจองและรับ Toyota ภายใน 30 เมษายน ลุ้นโชค 100,000 บาท (อาจจะโชคมายากหน่อย
แต่ไม่ต้องดื่มชาหลายๆขวดแล้วกัน) ส่วนคนที่จะซื้อผ่อน ให้สอบถามที่บูธเพราะอัตราดอกเบี้ย
ขึ้นอยู่กับว่าผ่อนกับสถาบันการเงินไหน

toyota_lexus_aboot

สำหรับ Lexus แบรนด์หรูแขนงหนึ่งของ Toyota นั้น ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ไม่มีของใหม่มาขาย
นะครับ ใครกำเงินรอจอง RC-Series ก็รอต่อไปก่อน จะมีโปรโมทก็แค่โปรโมชั่นดอกเบี้ย 0%
สำหรับการซื้อแบบผ่อนชำระกับ Toyota Leasing โดยวางเงินดาวน์ 25% และผ่อน 48 เดือน
ซึ่งรถที่ได้โปรโมชั่นนี้ก็คือ CT200h ทุกรุ่น, IS ทุกรุ่น, ES300h ทุกรุ่น และ RX270 ทุกรุ่นครับ

แต่!!!..มีแต่..พอดีมีเพื่อนๆสมาชิกบอกว่าบางรุ่นราคาขึ้น ก็เลยตะกุยเอาราคามาดู รู้สึกว่า NX300h
ตัว F-Sport AWD ราคาใหม่อยู่ที่ 4,090,000 บาท..เอแพงขึ้นเยอะเหมือนกันนะเนี่ย รุ่น F-Sport
ขับหน้าราคา 3,890,000 บาท ส่วนตัวถูกสุดตอนนี้อยู่ที่ 2,890,000 บาทครับ

.

VOLVO
– V60 T5 Special Edition ผลิตจำกัด 32 คัน

volvo_aboot

ในงานนี้ Volvo ขนรถมานำเสนอครบครันตั้งแต่ V40 Cross Country, S60, V60, XC60
และ S80 โดย ชูจุดขาย Drive-E Powertrain T5 เบนซิน ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ซึ่งแม้จะเป็น T5 แต่จริงๆแล้วเป็นเครื่อง 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection เทอร์โบ
ให้พลังสูงสุด 220 แรงม้า และแรงบิด 350Nm ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้ จะมีให้เลือกใช้กับบอดี้ S60, V60 และ XC60 ส่วน S80 T4 นั้นจะยังเป็นเครื่อง
ตัวเดิม 203 แรงม้า แรงบิด 300 Nm อยู่

volvo_v60T5

ในงานนี้ รถรุ่นพิเศษที่เปิดตัวคือ Volvo V60 T5 Special Edition ซึ่งใช้เครื่อง 220 แรงม้าที่กล่าวไป
ข้างต้น เคลมอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ภายใน 6.8 วินาที โดยปล่อย CO2 เพียง 144 กรัม/ก.ม.
โดยสิ่งที่พิเศษสำหรับรุ่นนี้ก็คือชุดเพิ่มสมรรถนะ Polestar Performance Optimisation,
ระบบสั่นพวงมาลัยเตือนเวลาวิ่งเป๋ออกนอกเลน, ช่วงล่างแบบ Dynamic, ชุดปลายท่อคู่แบบเหลี่ยม
ระบบ Sensus Connect ที่เชื่อมต่อโลกดิจิตอพร้อม Application Wikipedia, Glympse, Find Fuel
มีระบบนำทาง เบาะหนังสปอร์ตสี Beachwoord Brown/Offblack และล้ออัลลอยลาย Titania
ขอบ 18 นิ้ว สนนราคาของรุ่นพิเศษนี้อยู่ที่ 2,549,000 บาท (S60 T5 จะถูกกว่านี้ 100,000 บาท)

.

VOLKSWAGEN

ในปีนี้ก็ยังไม่มี Golf MK.7 มาเผยโฉมในไทยแต่อย่างใด แต่สำหรับคนที่มองหารถตู้ระดับผู้บริหารก็คง
ต้องมาดูที่บูทนี้บ้าง เพราะงานนี้ Volkswagen ขนกันมาถึง 3 รุ่นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Caravelle Touring,
Caravelle Businessline และ The New Multivan สนนราคาอยู่ที่ 3.09, 3.45 และ 3.98 ล้านบาท
ตามลำดับ ส่วน Amarok รถปิคอัพทางเลือกสำหรับคนที่เลือกแล้วว่าปิคอัพทั่วไปราคาล้านกว่า
ยังไม่แปลกพอ อันนั้นตั้งราคาไว้ 1.98 ล้านบาทครับ

vw_amarok

PROMOTION!
เฉพาะในงานมอเตอร์โชว์ 2015
ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง 5 ปี หรือ 105,000 กิโลเมตร
สามารถเลือกเพิ่่มได้ 2 รายการระหว่างฟิล์มกันรอยสะเก็ดหิน Autozkin มูลค่า 74,000 บาท
กับ ฟิล์ม 3M Crystalline + แร็ค Thule ที่หลังคา หรือ ประกันภัยชั้น 1

——————————————————————-

สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความ โดยผู้เขียน
ลิขสิทธิ์ภาพถ่าย รถยนต์ในประเทศไทย ทั้งหมด เป็นผลงานของผู้เขียน
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
24 มีนาคม 2015

Copyright (c) 2015 Text and Pictures
Use of such content either in part or in whole without permission is prohibited.
First publish in www.Headlightmag.com
March 24, 2015