หลังจากที่ Nissan Motor ได้รับอนุญาตให้สามารถทำธุรกรรมซื้อหุ้นธุรกิจ Mitsubishi
Motors ในสัดส่วน 34% มูลค่าหุ้น 237,000 ล้านเยน เมื่อปีที่ผ่านมา วันนี้ทั้ง Nissan
และ Mitsubishi ก็พร้อมประกาศถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

Carlos Ghosn ประธานคณะกรรมการบริหารและซีอีโอแห่ง Nissan Motor ได้รับเลือก
เป็นประธานคณะกรรมการบริหารของ Mitsubishi Motors

mitsubishi_nissan_01

Carlos Ghosn เผยว่าการรวมตัวกันทั้ง Nissan, Mitsubishi Motors และ Renault
จะช่วยสร้างพลังแห่งการผลิตรถยนต์ระดับโลก โดยอาศัยความได้เปรียบของจำนวนยอด
ขายทั้งสามแบรนด์รวมกันก่อให้เกิดความคุ้มค่าในทางเศรษฐศาสตร์, การพัฒนาเทคโนโลยี
ทันสมัยและขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์ที่รองรับกับความต้องการในแต่ละตลาด
และในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก

ภารกิจสำคัญของ Carlos Ghosn คือการมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือ Mitsubishi ที่จะกลับ
มาสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าอีกครั้งซึ่งเป็นผลจากการร่วมมือและดึงศักยภาพในการเติบโต
จากความสัมพันธ์ที่ถูกขยายออกไป

Mitsubishi Motors Becomes Thailand’s Largest Vehicle Exporter in Fiscal 2016 (3)

ปัญหาของ Mitsubishi Motors เป็นปัญหาที่สั่งสมมาอย่างยาวนานสิบๆ ปีแล้ว นับ
ตั้งแต่ปัญหาสะสมขั้นเล็กน้อยจนถึงปัญหาระดับองค์กรที่อาจทำให้มูลค่าของแบรนด์
และยอดขายรถยนต์ถดถอยลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง Mitsubishi ประสบวิกฤตศรัทธา
บิดเบือนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรถยนต์ Mitsubishi หลายรุ่นกลายเป็นจุดหักเหที่ทำ
ให้ค่ายรถนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

Carlos Ghosn ที่ได้รับเกียรติให้เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร Mitsubishi Motors
อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา หลังจาก Nissan Motor เข้าครอบ
ครองหุ้นธุรกิจ Mitsubishi Motors ในอัตรา 34% โดยมีภารกิจสำคัญมากคือการผ่าตัด
Mitsubishi Motors ให้กลับมาแข็งแกร่งดั่งเดิมให้ได้

ถึงแม้ Renault-Nissan Alliance ประสบความสำเร็จในการกอบกู้วิกฤตบริษัทรถยนต์ที่
พร้อมจะล้มหายตายจากตั้งแต่ Nissan, Dacia และ AvtoVaz ผู้ผลิตรถยนต์ Lada ให้
กลับมาพลิกฟื้นทั้งยอดขายและกำไรได้ แต่สำหรับ Mitsubishi Motors ดูเหมือนจะ
เป็นภารกิจกอบกู้บริษัท ที่แตกต่างจากบริษัทในเครือพอสมควร

Mitsubishi Motors Becomes Thailand’s Largest Vehicle Exporter in Fiscal 2016 (6)

Carlos Ghosn กล่าวว่า “ผมได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลเพื่อให้แน่ใจว่า Mitsubishi
Motors แผนระยะกลางนั้นเหมาะสมและโปร่งใสอย่างแท้จริง โดยยังคงเอกลักษณ์ของ
บริษัทและสามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง”

Mitsubishi Motors เคยมีคดีพัวพันปัญหาอื้อฉาวมาตั้งแต่ปี 2000 โทษฐานบริษัท
ปกปิดข้อมูลด้านความปลอดภัยของรถยนต์หลายรุ่นที่มีปัญหาระบบเบรกและระบบ
คลัชต์จนส่งผลร้ายต่อความรู้สึกของลูกค้าภายใน 4 ปีนับต่อจากนั้น

กลยุทธ์ของ Ghosn ในวันนี้คือการรับมือกับความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเกิดจากการที่
Mitsubishi บิดเบือนข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรถยนต์ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็ต้องสะสาง
กันที่ต้นตอให้ได้เสียก่อน

Ghosn อธิบายว่าต้นเหตุของปัญหา Mitsubishi Motors ทั้งหมดเกิดจากกระบวน
การทำงาน, ความคิดขององค์กรและวัฒนธรรมองค์กรซึ่งปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการ
แก้ไขอย่างรวดเร็ว ปัญหาของ Mitsubishi Motors มีหลายประการเฉกเช่นในอดีต
ที่ไม่มีการแก้ไขถึงต้นตอที่แท้จริงและไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นจนมันกลายเป็นนิสัย
ที่ก่อให้เกิดทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก

“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราขอยืนยันว่าต้องเข้าถึงรากแห่งปัญหาที่แท้จริงให้ได้และ
นำพาไปสู่การแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายในอนาคต” Ghosn กล่าว

mitsubishi_nissan_05

นับต่อจากนี้ไปรถยนต์รุ่นใหม่ของ Nissan และ Mitsubishi จะร่วมแชร์งานวิศวกรรม
พื้นฐานกันมากขึ้น เพื่อช่วยควบคุมต้นทุนการพัฒนาและการจัดซื้อ ถ้าเป็นพวก SUV
หรือ รถยนต์นั่งน่าจะต้องใช้พื้นฐานจาก Renault-Nissan มาต่อยอดในตลาดโลก
ส่วนในไทย โรงงาน Nissan ในปัจจุบัน คาดว่าจะปรับเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่ง
Passenger Cars รวมถึง SUV ของ Nissan ส่วนการผลิตกระบะของ Nissan Navara
รุ่นใหม่ น่าจะย้ายไปที่โรงงานของ Mitsubishi แทน

เนื่องจาก Trevor Mann : CEO Mitsubishi Motors ได้เผยว่า กลุ่มพันธมิตร
Renault-Nissan Alliance ได้วิเคราะห์ว่าอาจจะนำงานสถาปัตยกรรมรถกระบะ
Mitsubishi เป็นพื้นฐานหลักสำหรับการพัฒนารถกระบะในกลุ่ม

Mann แถลงไขว่าเหตุผลสำคัญที่ทาง Renault-Nissan Alliance เลือกพื้นฐานงาน
วิศวกรรมรถกระบะจาก Mitsubishi เนื่องจาก Mitsubishi มีศักยภาพในการควบคุม
ต้นทุนที่ดีกว่า Nissan แถมยังมีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในแบบฉบับ
Mitsubishi อีกด้วย

banner_mitsubishi_nissan_pickup

นี่เองทำให้ Carlos Ghosn ประธาน Mitsubishi Motors บินมาไทย เพื่อเยี่ยมชม
โรงงาน Mitsubishi ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังเมื่อ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดย
โรงงานที่แหลมฉบังนี้เป็นฐานการผลิตนอกประเทศญี่ปุ่น ที่ใหญ่ที่สุดของ Mitsubishi
Motors Corporation ผลิตรถยนต์ส่งออกไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก กว่า 120 ประเทศ

หลังจากนี้เป็นต้นไป คาดว่า Nissan ประเทศไทย และ Mitsubishi ประเทศไทย
น่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ทั้งด้านการบริหาร การผลิต และ การจัดการ
ทรัพยากรภายใน รวมถึงรถยนต์รุ่นใหม่ๆ Next Generation ที่จะเกิดการแชร์พื้นฐาน
Platform ร่วมกัน

Mitsubishi Motors Becomes Thailand’s Largest Vehicle Exporter in Fiscal 2016 (4)

นอกจากนี้ Carlos Ghosn ยังได้ทิ้งข้อความเอาไว้ในการสัมภาษณ์กับนักข่าวถึง
Nissan ประเทศไทยว่า ” Our market share is short because Nissan Thailand
didn’t do a good job, “In other markets, Nissan is on the same level as other
brands but here our position is lower. หรือ Nissan ประเทศไทย ยังทำผลงานได้
ไม่เป็นที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับ Nissan ทั่วโลก ดูละม้ายคล้ายกับเหตุการณ์เมื่อสมัย
สยามกลการเมื่อหลายสิบปีก่อน อ้างอิงบทสัมภาษณ์จาก The NATION via KINGSLEY
WIJAYASINHA

เราต้องติดตามดูกันว่า Nissan ประเทศไทย และ Mitsubishi ประเทศไทย จะมีความ
เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลังจากนี้ เป็นอย่างไร…โปรดติดตามอย่างใกล้ชิด