Chevrolet Spin เปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2012 เป็นรถยนต์ที่พัฒนาโดย GM Brazil เอาใจกลุ่มลูกค้าชาวละตินอเมริกาเป็นหลัก รองลงมาคือลูกค้าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่า GM คงคาดหวังกับความสำเร็จของรถรุ่นนี้ จนถึงขั้นเดินสายการผลิตที่โรงงาน Bekasi ประเทศอินโดนีเซียกันเลยทีเดียว

Chevrolet Spin เริ่มจำหน่ายในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมกันในปี 2013 แต่ผลตอบรับกลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจะเป็น ทำให้ GM ต้องวิเคราะห์สภาวะของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใหม่ทั้งหมด จนเป็นเหตุให้ GM ถึงกับต้องสั่งปิดโรงงาน Bekasi เพราะยอดขาย Chevrolet Spin ไม่เข้าเป้า

เมื่อมองย้อนกลับไปยังตลาดอเมริกาใต้ก็พบว่าแบรนด์ Chevrolet มีความแข็งแกร่งและโดนใจลูกค้าในแถบนี้ไม่น้อย จึงทำให้ GM ยังจำเป็นต้องเดินหน้าผลิต Chevrolet Spin สำหรับตลาดภูมิภาคนี้ต่อไป

ปัจจุบัน Chevrolet Spin มีอายุตลาดยาวนานถึง 6 ปีแล้ว หากเปรียบเทียบกับรถยนต์นั่งที่จำหน่ายทั่วโลกก็ถือว่าเป็นรถรุ่นเก่ามากแล้ว แต่ถ้ามองในมุมของการลงทุน จะพบว่า Chevrolet Spin ไม่ได้เป็นรถยนต์ที่จำหน่ายในทุกประเทศทั่วโลก ดังนั้น จึงมีแนวโน้มว่าเราจะได้เห็น Spin ลากขายกันครบ 10 ปีจนกว่าจะเปลี่ยนโฉม

ล่าสุด GM ละตินอเมริกาก็เปิดตัว Chevrolet Spin Minorchange ที่มาพร้อมกับดีไซน์ด้านหน้าออกแบบใหม่ทั้งหมด (ยกเว้นแก้มชิ้นส่วนด้านหน้า) และรวมถึงอื่น ๆ ได้แก่

  • ฝากระโปรงหน้าขึ้นรูปใหม่ ดูทันสมัย
  • ไฟหน้าทรงเรียวยาว
  • กระจังหน้า Dual Port แบบใหม่
  • กันชนหน้าใหม่ ที่มีช่องดักลมดูคล้าย Chevrolet Prisma ผสมกับ Opel Crossland X
  • ดีไซน์ไฟท้ายทรงเรียวยาวใหม่
  • ลายล้ออัลลอยใหม่
  • ดีไซน์สปอยเลอร์ด้านท้ายใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
  • เปลี่ยนฝากระโปรงท้ายใหม่ ย้ายตำแหน่งที่ติดตั้งป้ายทะเบียน

พิเศษ GM Brazil ได้เพิ่มรุ่น Activ ซึ่งเป็นรุ่น Top of The Line จับ Spin รุ่นมาตรฐานมายกตัวถังให้สูงขึ้นเล็กน้อย พร้อม เพิ่มแถบกันกระแทกสีดำ, กาบข้างสีดำ, คิ้วประตูสีดำ, เพิ่มวัสดุสีโครเมี่ยมบริเวณกันชนท้าย, ติดตั้งชายบันไดประตูสีเงิน , ติดตั้งแร๊คหลังคาใหญ่พิเศษ และมีการเปลี่ยนวัสดุหุ้มเบาะที่มีสีสันมากขึ้น สำหรับครอบครัวที่ต้องการทั้งความอเนกประสงค์และความเท่ห์ในสไตล์รถ Crossover

GM Brazil ได้พยายามปรับปรุงดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ให้ดูสากลมากยิ่งขึ้น ได้แก่

  • เปลี่ยนพวงมาลัยทรงใหม่
  • เปลี่ยนมาตรวัดแสดงผลแบบเข็ม
  • เปลี่ยนชิ้นส่วนพลาสติครอบมาตรวัดทรงใหม่
  • เปลี่ยนช่องแอร์ซ้าย – ขวา พร้อมกรุขอบโครเมี่ยม
  • เปลี่ยนดีไซน์คอนโซลบริเวณถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเป็นทรงเหลี่ยมสัน
  • เปลี่ยนหน้าจอสัมผัส MyLink ขนาดใหญ่ขึ้น รองรับ Apple Carplay/Android Auto พร้อมบริการ OnStar
  • เปลี่ยนรายละเอียดปุ่มกด เซ็นทรัลล็อคและไฟฉุกเฉิน
  • เปลี่ยนรายละเอียดปุ่มปรับอากาศ
  • เปลี่ยนวัสดุครอบฐานเกียร์ด้วยวัสดุสะท้อนเงา

ถึงเป็นรถยนต์อเนกประสงค์แต่ GM ก็ต้องพัฒนาความอเนกประสงค์ให้ถึงที่สุด ด้วยการออกแบบให้เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถเลื่อนไปด้านหน้าได้ 50 มิลลิเมตร และร่นไปด้านหลังได้ 60 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

เครื่องยนต์

1.8 ลิตร SPE/4 Eco บล็อก 4 สูบ SOHC 8 วาล์ว หัวฉีก MPFI กำลังอัดสูงสุด 12.3 : 1 ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 165 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบ/นาที เมื่อเติมน้ำมันเบนซินมาตรฐาน และจะให้กำลังสูงสุด 111 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตรที่ 2,600 รอบ/นาที เมื่อเติมน้ำมันเอธานอล จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงภายใน 11.3 วินาที อัตราเร่ง 80-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง 9.7 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมือง 10.3 กิโลเมตร/ลิตร นอกเมือง 12 กิโลเมตร/ลิตร เมื่อเติมน้ำมันเบนซินมาตรฐาน และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมือง 7 กิโลเมตร/ลิตร นอกเมือง 8.3 กิโลเมตร/ลิตร เมื่อเติมน้ำมันเอธานอล

ระบบความปลอดภัยมีการปรับปรุงให้ตรงกับมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น ได้แก่

  • เพิ่มพนักพิงศีรษะเบาะนั่งแถวที่ 2 ให้ครบทุก 3 ที่นั่ง
  • เพิ่มจุดยึด ISOFIX
  • กล้องมองถอยหลังพร้อมเส้นประนำทาง
  • ระบบเปิด-ปิด ใบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ

นอกจากนี้ GM ยังเคลมว่า Chevrolet Spin Minorchange จะมีการปรับปรุงช่วงล่างให้นุ่มนวลขึ้น ให้ความรู้สึกน่าพึงพอใจ สามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดี แม้บนถนนที่ไม่ราบเรียบนัก

Chevrolet Spin Minorchange พร้อมส่งขึ้นโชว์ในตลาดละตินอเมริกาภายในต้นเดือนกรกฏาคมนี้ แน่นอนลูกค้าชาวไทยหมดสิทธิ์สัมผัส

ที่มา : noticiasautomotivas.com.br