ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่บริษัทรถยนต์จากยุโรปได้ติดตั้งตัวกรองอนุภาคจากควันไอเสีย particle filter ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลที่จำหน่ายในยุโรป ก็ทำให้ลูกค้าชาวยุโรปเคยเชื่อใจว่า เครื่องยนต์ดีเซลเนี่ยแหล่ะคือสุดยอดขุมพลังของทศวรรษนี้ ทั้งช่วยลดมลภาวะ และยังสามารถรีดสมรรถนะและประสิทธิภาพอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่เหนือชั้นกว่าเครื่องยนต์เบนซิน

จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ Dieselgate วิกฤตการณ์โกงค่าไอเสียซ่อนเร้นขณะทดสอบอันอื้อฉาวโดยมี Volkswagen Group เป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ก็ทำให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของเครื่องยนต์ดีเซลหายไปจนเกือบจะหมดสิ้น

ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์เกิดขึ้น นั่นคือ รถยนต์ไฟฟ้ากลับมามีกระแสพลิกกลับอีกด้านชั่วข้ามคืน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่ปี รถยนต์ไฟฟ้าไม่เคยเป็นที่สนใจของใครหลายคน

ล่าสุด เมื่อสำรวจยอดจดทะเบียนรถยนต์รุ่นใหม่ในยุโรปช่วงครึ่งปีแรก 2017 ก็พบว่ามียอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินเหนือกว่าเครื่องดีเซลเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี

โดยยอดจดทะเบียนเครื่องยนต์ดีเซลในครึ่งปีแรก 2016 เคยมีสัดส่วน 50.2% ลดลงเหลือ 46.3% ในช่วงครึ่งปีแรก 2017 หรือมียอดขายลดลง 152,323 คัน ขณะที่เครื่องยนต์เบนซินมีสัดส่วน 48.5% ในช่วงครึ่งปีแรก 2017 ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2016 ที่มีสัดส่วน 45.8%

สำหรับรถยนต์พลังงทางเลือกก็มียอดจดทะเบียน 5.2% ประกอบไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้า, LPG/NGV/E85 และ Hybrid ก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังมีสัดส่วนโดยรวมที่น้อยอยู่ดี

น่าจับตาว่าตลาดรถยนต์เครื่องดีเซลจะมีลดลงในอนาคตหรือไม่?

ที่มา : ACEA