4 เดือน ที่ผ่านมา เราเริ่มต้นออกเดินทางกัน ท่ามกลางความมืดมิด แต่ละวันที่ผ่านไป เราเดินทางผ่านพบเรื่องราวใหม่ๆ มากมายทั้งร้ายดี

จนถึงวันนี้ วันที่ เราเดินทางกันมาไกลพอสมควรจากจุดเดิมที่ยืนอยู่มาจนถึง การมียอดผู้เข้าชม ประมาณ 3,000 – 3,500 คน/วัน และ มียอด Pageview สะสม รวมแล้วเกิน 4 แสนคน มาจนได้

ปกติแล้ว พื้นที่นี้ เป็นพื้นที่ ที่ผมเอาไว้เขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ที่อยากเล่า

แต่ในโอกาสพิเศษนี้ ท่านผู้เกิน Commander CHENG เสนอความคิดมาว่าลองให้น้องๆใน The Coup Team ของเรา มาเล่าถึง ช่วงเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา
สรุปความรู้สึกของตนเอง แต่ละคน บนพื้นที่ คนละ 4 ย่อหน้า

ผมเองก็เห็นดีด้วย เพราะที่ผ่านมา คุณๆได้อ่านแต่สิ่งที่ผมเขียนกันเป็นหลัก ยังไม่ค่อยได้รับรู้ในสิ่งที่น้องๆในทีม The Coup ของเรา คิดอยู่เลย

ผมเลย อยากให้คุณๆได้เห็นหน้าค่าตาของน้องๆในทีมเราบ้างได้รู้ว่าใครเป็นใคร ได้รู้ว่า ใครคิดอ่าน คิดเห็นเช่นใด อาจจะมีบางคน ที่เราไม่อาจเผยให้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของเขาได้ จนกว่าจะถึงวันและเวลาที่เหมาะสม

และต่อไปนี้ คือสิ่งที่อยู่ในใจของ พวกเขา…

“เวลามันผ่านไปเร็วได้เมื่อคุณมีความสุข หรือเมื่อคุณทำงานอย่างหนัก และจะเฉื่อยชาเวลาคุณมีความทุกข์ แต่สำหรับกรณีของผมกับ Headlightmag นั้น มันคือส่วนผสมของทั้งสามสิ่งที่กล่าวมา และนี่ก็ครบ 4 เดือนแล้ว เวลาสำหรับผมกับเว็บไซต์นี้ผ่านไปราวกับเทวดาติดเทอร์โบ

ก่อนหน้าที่เว็บไซต์นี้จะเกิด ผมกำลังฝันถึงที่ว่างบนไซเบอร์สำหรับการละเลงบทความที่ตัวเองเขียน เขียนด้วยความอิจฉาที่ความรู้ในบางประเภท หรือบทความบางแบบที่พวกญี่ปุ่น หรือฝรั่งสามารถค้นหามาอ่านได้โดยง่าย กลับไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนไทย ผมเขียนด้วยความรู้สึกว่า คนไทยมีทุกอย่างเหมือนพวกนั้น และถ้าเราสามารถสร้างจุดเริ่มต้นของความรู้ให้กับชาวไทยด้วยกัน ด้วยภาษาไทยได้ พรมแดนทางด้านภาษาที่เคยปิดกั้นเพื่อนๆเราหลายคนจะถูกทลายลงในสักวันหนึ่ง

Headlightmag เกิดขึ้นมาเพื่อสร้างจุดเริ่มต้นให้กับทุกสิ่ง ที่ผมเคยฝันอยากจะมี อยากจะทำตลอด 5 ปีที่ผ่านมาและมันจะเป็นไปไม่ได้ถ้าเราไม่ได้หัวเรือใหญ่อย่าง J!MMY ที่บันดาลให้สิ่งเหล่านี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นในที่สุดพลังที่ขับเคลื่อนเว็บนี้อยู่ มันคือความอยาก และความปราถนาเท่าที่คนเงินเดือนต่ำๆอย่างผมสามารถทำให้ได้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมก็จะไม่เปลี่ยนใจอยู่ดี เพราะมันไม่ใช่เรื่องของทุนหรือกำไร เราแค่ต้องการความสุขที่ได้นั่งมองสิ่งที่ตัวเองสร้างทุกวัน

ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม..ก็เหนื่อยครับ เพราะงานประจำที่ทำอยู่ก็ไม่ใช่ว่าสบายนัก พอวันศุกร์วันเสาร์ เราก็ต้องอยู่รอกันจนดึกกว่าจะได้ลองขับรถ เสร็จแล้วก็ต้องมานั่งส่งแชร์ความเห็นกันว่า แต่ละคนมีความเห็นอย่างไร นี่ไม่นับเรื่องการค้นหาข้อมูลมาเขียนบทความ (พวกท่านรู้..ว่าผมไม่ชอบเขียนอะไรสามคำจบ) และยังมีงานแปลที่รับทำจากข้างนอกอีก เหนื่อย เพราะทุกวันนี้ไม่ได้นอนเร็วเหมือนแต่ก่อน เวลาเที่ยวเตร่ไปจับกลุ่มกับเพื่อนๆนักเลงรถหายไปเกือบหมด เบื่อบ้างไหม ก็มีบ้างตามธรรมดาของคนขี้เบื่อเป็นนิสัย แต่สิ่งที่แน่นอนเช่นกันคือ ผมมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ และยังอยากที่จะทำมันต่อไปครับ


Commander CHENG!

—————————————————–

 

                                                      ก้าวเล็กๆ ของฝันที่ยิ่งใหญ่

เรื่องราวทั้งหมดระหว่างคุณผู้อ่านกับ Headlightmag.com อาจจะเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 4 เดือนที่แล้ว ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 แต่สำหรับผมมันเริ่มขึ้นก่อนหน้านั้น…สัก 7 ปีได้ มันเป็นเย็นวันหนึ่งที่งานมีทติ้งของคลับรถยนต์ ซึ่งผมพบกับคุณ J!MMY ที่ตอนนั้น เริ่มหันเข้าสู่วงการรถยนต์อย่างจริงจัง และมาพร้อมความฝัน(และความอ้วน) กับแรงใจที่แน่วแน่ในการนำเสนอข้อมูลให้กับผู้อ่านอย่าง “ตรงไปตรงมา”

จนกระทั่งเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ความฝันที่ถึงจะฝันไว้นานแต่ไม่เคยขาดแรงบันดาลใจ ก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา คุณคงจะเข้าใจกันดีว่า การริเริ่มอะไรสักอย่างนั้นยากยิ่งกว่าขับรถซิตี้คาร์ฝ่าป่าอเมซอน แต่นั่นคงใช้ไม่ได้กับที่นี่ เพราะเมื่อคนบ้ารถอ้วนๆ คนหนึ่ง เจอกับคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่บ้า(รถ)เหมือนกัน ทุกอย่างก็รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว แล้ว 2 เดือนต่อมา เวบไซต์ Headlightmag.com ก็ตั้งอยู่ตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่บ้านของคุณให้อ่านกันอย่างจุใจ

จะว่าไป..มันก็แปลก เพราะกว่าที่ Headlightmag.com จะเกิดขึ้นมาได้ มันก็ผ่านศึกรอบด้านมาหนักเอาเรื่อง แต่ถึงแม้มันจะหนักหนายังไงก็ไม่อาจทำให้พวกเราหันหลังให้กับความฝันของตัวเองได้ ถ้าคุณจะบอกว่า Headlightmag.com แสดงตัวตนของมัน ที่ตรงไปตรงมาอย่างน่าหวั่นใจแล้ว ทีมงานของเรานี่แหละที่ตรงไปตรงมาหนักหนากว่า จนฟ้าฝนและคนใกล้ตัวต้องลุ้นเอาใจช่วย เพราะการประชุมแต่ละครั้ง มักจะมีการนำเสนอความคิด คัดค้าน ถกเถียง และให้ความเห็นที่แตกต่างอย่างไม่อ้อมค้อม แต่ทุกอย่างก็จบลงได้อย่างสวยงามทุกครั้ง ผมกล้าพูดแทนทีมงานทุกคนว่า ทุกคนทำเวบไซต์แห่งนี้ด้วยใจรัก และทำตามฝันที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดและถูกต้องที่สุดให้กับคุณผู้อ่านเท่านั้น ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่หันกลับมานั่งคิดถึงเรื่องชื่อเสียง หรือผลประโยชน์ส่วนตัวเลย มันเป็นทีมงานที่ Innovative และสร้างสรรค์มากที่สุดทีมหนึ่ง เท่าที่ผมเคยร่วมงานมาด้วย

วันนี้..ผ่านมา 4 เดือน กับ 400,000 ครั้งของการเข้าชม ผมคงต้องกล่าวขอบพระคุณคุณผู้อ่านสักหนึ่งแสนสองหมื่นครั้ง กับการให้โอกาสเวบไซต์เล็กๆ แห่งนี้ ขอบพระคุณมิตรแท้ กูรูและกูรู้ รวมทั้งผู้เขียนบทความทุกท่าน และผู้สนับสนุนโฆษณาทุกท่านที่เอื้อเฟื้อแก่เว็บไซต์ของเราอย่างเป็นที่สุด และสุดท้ายขอขอบคุณแก๊งค์ The Coup ที่ช่วยเพิ่มเติมสีสัน และอยู่ร่วมผจญภัยมาด้วยกัน หวังว่าเราจะร่วมกันสร้างบ้านนี้ให้เติบโตต่อไป สุดท้ายนี้ ผมขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านช่วยเป็นกำลังใจและสนับสนุนพวกเราต่อๆ ไปนะครับ

ฝันไว้แค่ไหน..เราจะไปให้ถึง

 

บอม – พันธิตย์ หมอกพริ้ง

RhinoMango

—————————————————–

โอ้ววว ….. สี่เดือน สี่แสนคนแล้วหรอ

ผมมานั่งนึกถึงน้องเติ้ลบอกในเว็บว่า สี่เดือนแล้วนะ แล้วยอดผู้เข้าชม สี่แสนคนแล้ว ภาพย้อนไปยังวันที่เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผมได้รับการติดต่อจากพี่คนนึงผ่าน Zipboy เพื่อที่จะทำเว็บไซด์เกี่ยวกับรถยนต์ และยิ่งมาได้รู้ทีหลังว่าเป็นพี่ J!MMY ซึ่งเป็นคนที่มีชื่อเสียงด้านการรีวิวรถยนต์ใน พันทิป ดอท คอม ผมเองก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะอะไรหรอ… ก็เพราะว่าจะได้ร่วมงานกับพี่คนนี้ ที่มีความตั้งใจในการทำงาน บทความต่างๆ ร้อยเรียงออกมา ถ่ายทอดให้ผู้ที่สนใจรถยนต์ ได้อ่านกัน เขียนกันตรงๆ วิจารณ์กันตรงๆ โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น!!! ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ พูดกันตรงๆ เลยนะว่า ผมเองไม่ค่อยปลี้มเค้าเท่าไหร่หรอก เป็นเพราะจากเรื่องเก่าๆ ที่เกิดขึ้นในห้องมาบุญครอง พันทิป ดอท คอม แต่ผมกลับมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะคิดไปคิดมา เราไม่สามารถมองแค่คนจากเปลือกภายนอก แล้วจะมาตัดสินคนๆ นั้น แล้วผมก็คิดไม่ผิดที่ได้มาเปิดใจตัวเอง จนได้รู้จักกับพี่จิมมี่แบบถ่องแท้…

ผมกับพี่เค้าได้พูดกันจริงๆ จังๆ กันตอนที่จะมาร่วมงานเว็บไซด์ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งดูผิวเผินแล้วอาจจะดูไม่น่าสนิทอะไรกันมากมาย จบโปรเจคไป อาจจะไม่ได้คุยกันต่อ เพราะผมเองก็อยู่ในแวดวงไอที แต่พี่เค้าอยู่ในแวดวงรถยนต์ ต่างคนต่างชอบคนละแบบ คนละสไตล์ แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน นั้นก็คือ การที่ผมและพี่เค้าได้ออกมาทำเว็บเต็มตัวแบบกะทันหัน ผมว่านะ… คนหัวอกเดียวกัน มักจะเข้าใจความรู้สึกกันและกันได้ง่าย ซึ่งมันก็เป็นจริงละครับ ผมกับพี่จิม, พี่แพน รวมถึงน้องๆ ทีมงาน Headlightmag.com ทุกคน ต่างสนิทกลมเกลียวกัน ผมเองเป็นคนที่มาร่วมงานหลังสุด เลยค่อยๆ ซึมซาบมิตรภาพดีๆ อย่างไม่รู้ตัว

ความรู้สึกนึง… ก่อนเว็บไซด์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทำให้หลายๆ คนในทีมงานตึงเครียดกันพอสมควร ถึงแม้ว่าต่างคนต่างมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง ทะเลาะกันบ้างตามภาษาการทำงานร่วมกัน แต่ทุกครั้งผมเองได้พลันเห็นแววตา ความมุ่งมั่นของพี่จิมในการทำเว็บนี้มาก ถึงจะเป็นอุปสรรคบ้าง และเชื่อว่าอุปสรรคที่เกิดขึ้น ต้องผ่านไปได้ และไปได้ดีเลยทีเดียว

แป๊ปๆ 4 เดือนแล้ว 4 เดือน กับ 400,000 UIP เป็นตัวเลขที่ผมรู้สึกว่า Headlightmag.com เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างมั่นคง ไม่ง่ายเลยนะครับ ที่ก้าวมาได้ถึงขนาด ผมมองถึงทีมงานหลัก ทั้งพี่จิมมี่ พี่แพน Homy เนย บอมบ์  เติ้ล แบงค์ กล้วย เก๋า และตอย ที่ยังคงเคียงบ่าเคียงไหล่ ที่จะเดินก้าวไปข้างหน้า สร้างสรรค์งานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และที่สำคัญ แสดงให้รู้ว่า ผลงานดีๆ ที่ออกมาอย่างตรงไปตรงมา จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้กับสื่อทุกแขนง และผมเชื่อว่า อีกไม่นาน Headlightmag.com จะเป็นหนึ่งในเว็บไซด์ที่ติดอยู่ในใจของคนรักรถยนต์ทั่วโลกครับ

ยินดีด้วยนะครับ พี่ชาย
กิติชัย ทังนิธิรัตน์
shyboy : Assistant Webmaster MXPhone.com

—————————————————–

เอาจริง ๆ นะครับ ผมไม่มีส่วนร่วมก่อตั้งเว็บแห่งนี้เลย ผมเฝ้ามองและรับฟังข้อมูลจากพวกพี่ จิมมี่ ที่ร่วมมือแรงกายใจกับพี่แพนน้องกล้วย เติ้ล แบงก์และสมาชิกท่านอื่นที่ล้วนเสียสละเพื่อเว็บแห่งนี้จนเติบโตเป็นเว็บคุณภาพที่มิใช่สักแต่รับเงินค่าโฆษณาอย่างเดียว กล้าเผชิญความจริงกล้าย้อนโลกธุรกิจในวงการที่ทำให้ต้องสูญเสียโอกาสบางอย่างไปก็ได้ ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะช่วยเหลือหรือแนะนำกับพวกเขาอย่างไรดี เผอิญผมเป็นคนชอบรับคำปรึกษาเสียด้วยสิ ช่างไม่เคยช่วยแก้ปัญหากับคนอื่นได้เสียเลย กระทั่งผมเอ่ยปากว่าอยากจะช่วยเหลือ พี่จิมมี่ก็ขอให้ผมช่วยอย่างเดียวครับ มิใช่เงิน มิใช่หุ้นส่วนแต่เป็นศักยภาพอันน้อยนิดในวงการรถยนต์ของผมรังสรรค์เป็นบทความอัพเดทประจำแทบทุกวัน แน่นอนว่ามันเสียเวลาสร้างเนื้อหามากมายก่ายกองจนทำให้ผมรู้สึกเห็นคุณค่าบางอย่างของมันบ้าง

4 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่ที่ไม่โกหกคือผมเป็นส่วนหนึ่งของ Headlightmag.com ในชีวิตประจำวันแล้วครับ น้ำเน่าไปเสียหน่อยแต่เราก็รู้ซึ้งสัจธรรมหนึ่งคือกลจักรจะทำงานได้ฟันเฟืองทุกชิ้นส่วนต้องขับเคลื่อนทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยรู้สึกว่าการเป็นแค่ส่วนเล็ก  ๆ น้อย ๆ ของวงจรจะมีคุณค่ามากมายเท่าไรเลยกระทั่งผมผ่านบทเรียนในชีวิตยาวนานถึง 7 ปีก็เพิ่งค้นพบว่าคนที่มีคุณค่าคือการทำตนมีคุณค่า ต้องรับกับมันได้และต้องเปิดใจยอมรับมัน เท่านั้นเอง  แม้ว่าจะไม่ลงทุนเงินเหมือนไม่เยอะมากมายนัก เราลงทุนแรงและใจก็ทำให้เว็บเดินหน้าต่อไปได้จริง ๆ

พูดแต่ตัวเองไปแล้ว ผมพยายามมองมุมกลับของคนอื่นบ้างผมว่าก็พยายามไม่ยิ่งหย่อนไปมากกว่าใคร โดยเฉพาะพี่จิมมี่ที่กล้าออกเผชิญโลกกว้างตั้งเว็บไซต์ตนเองซึ่งเปรียบเสมือนสำนักประลองวิทยายุทธ์ทุกรูปแบบ(ที่ไม่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ แต่เป็นด้านอื่นซะงั้น) ฝึกความแข็งแกร่งต่อสังคมที่เขายืนอยู่ เชื่อว่า 4 เดือนนี้มรสุมคงรุมเร้าพอสมควร แต่เชื่อว่าหากเราตั้งมั่นในสิ่งดี ๆ และไม่มุ่งทำร้ายใคร ผมว่าผ่านพ้นด้วยดีแน่ ๆ ก็เสมือนเราฝึกจิตตั้งมั่นในตัวไงล่ะครับ

สุดท้ายผ่าน Milestone 4 แสนคนถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะนี่คือกำลังใจสำคัญของเว็บนี้ครับ ผมเองก็ไม่ได้มีส่วนมากในการสร้างรากฐานเว็บนี้นักคงพยายามพัฒนาตนเองเยอะ ๆ ครับเพื่อตัวเองและเพื่อคนอื่น

HOMY DEMIO

—————————————————–

สมัยเด็กๆ ความสุขของผมเกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อพบเห็นรถสปอร์ตทั้งหลายวิ่งผ่านหน้าไป เรียกว่าแทบจะเอี้ยวคอกันให้หักไปข้างเพื่อมองมันจนลับสายตาไป มันจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมชอบและติดตามเองรถยนต์มา พอผมโตขึ้นในช่วงมัธยมปลาย ผมติดบรรดาสารพัดของเล่นไฮเทค มือถือ แต่ก็ยังไม่ลืมเรื่องรถอยู่เช่นเดิม

ผมรู้จักพี่จิมมี่ครั้งแรกผ่านเพื่อนผมคนนึงที่เล่น Pantip.com ห้องรัชดา ก่อนเจอพี่จิมมี่ ผมไล่ตามอ่านผลงานพี่เค้าย้อนหลังทั้งหลายที่อยู่ในคลังกระทู้เก่า ผมนับถือในความสามารถของพี่จิมมี่ กับการนำเสนอความจริงของรถรุ่นนั้นๆ บางครั้งตัวผมเองเหมือนติดกับดักการตลาดของค่ายรถ ที่ต่างยกยอว่ารถตัวเองดีแบบนั้นดีแบบนี้ บทความพี่จิมมี่เหมือนคำเตือนในการบอกกับทุกคนว่า “อย่าเชื่อถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง” การได้รับรู้ปัญหาที่ผ่านมาของตัวพี่จิมมี่ และการมีส่วนร่วมในการเปิดบ้าน Headlightmag ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ถือเป็นงานอีกชิ้นที่ผมเอง ก็มีความภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างมาเช่นกัน

สี่เดือนที่ผ่านมากับการสร้างสถานที่นี้ เราทุกคนต่างมีความเหนื่อยไปคนล่ะแบบ ทีมงานทุกคนต่างก็มีภาระของตัวเอง มีโลกแห่งความจริงที่ต้องทำ นอกเหนือจากการดูแลเว็ป ในบางครั้ง ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น พวกเราทีมงานเอง ก็ผ่านมันมาอย่างทุลักทุเล ถูกบ้างผิดบ้างตามประสบการณ์ที่พอจะทำได้ สำหรับผม สถานที่แห่งนี้ ผมจะไม่รอวันที่มันดีที่สุด เพราะมันจะต้องดีขึ้นทุกๆวัน ทุกๆขั้นในการพัฒนา มันจะดีขึ้นเรื่อยๆเสมอๆ

ผมดีใจเสมอที่เห็นจำนวนคลิ๊กที่มีอย่างต่อเนื่อง ดีใจที่เห็นการตอบรับจากคนอ่าน ดีใจที่มีคำติชมส่งมาให้ทีมงานรับทราบ ดีใจที่ผู้เข้าร่วมวงสนทนา ต่างหาสาระ พูดคุย สร้างสรรค์หลายๆอย่าง ผมขอโค้งคำนับให้กับทุกคลิ๊กที่ตอบรับ น้อมรับทุกเสียงติเตียน แก้ไขในสิ่งที่ถูกติเตียน ผมสัญญาว่า เราจะไม่หยุดนิ่งกับการไปข้างหน้า คงอุดมการณ์ความถูกต้องอย่างที่เราตั้งใจมา ผมเชื่อเสมอว่า การนำเสนออย่างบริสุทธ์ใจต่อทุกฝ่าย ถือเป็นเกียรติยศที่ยั่งยืนต่อการเป็นนักเขียน ทั้งหมดนี้ ผมคงหาคำไหนที่จะแสดงความรู้สึกที่มีต่อสถานที่นี้ ผู้เข้าชม ผู้ร่วมสถานที่แห่งนี้ ได้ดีไปกว่าคำว่า “ขอบคุณครับ”

Zipboy
————————

ก่อนหน้าจะมีเว็บไซต์แห่งนี้ ชีวิตในโลกอินเตอร์เน็ตของผม ไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง ไม่มีที่พึงพาหาข้อมูล ไม่มีที่สนทนาแบบสังคมดีๆ กับเค้าเสียที เหตุผลที่บอกว่าไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง เพราะ เวลาเข้ามาเว็บไซต์ จะเข้าไปอ่านหรือข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ ก็ไม่รู้จะไปที่ไหนดี มีแต่ที่เดิมๆ ที่เคยเข้าไปใช้บริการอยู่ประจำ แต่ที่เข้าไปใช้ก็เพราะ “ทน” เนื่องจากไม่มีที่ไหน และนับวันๆมันก็เริ่มจะแย่ลงๆเรื่อยๆ เหมือนน้ำที่เน่าแล้วขาดการปรับสภาพ มันนานเกินจะแก้ไขได้แล้ว

หลังเปิดเว็บไซต์แห่งนี้ ก็มีความรู้สึกว่าชีวิต….. “ ง่ายขึ้น ” ที่บอกว่าง่ายขึ้น เพราะ ไม่ต้องไปเผชิญกับความวุ่นวายกับเรื่องรถยนต์ผสมกับการที่ต้องมีคนมาแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน หรือ แขวะกันตามเว็บไซต์ต่างๆ มีที่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่งสามารถนำเอาข้อมูลมาเผยแพร่ให้กับคนที่มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์อย่างแท้จริง และก็ได้รับผลตอบรับมาอย่างน่าพึงพอใจอย่างที่สุด อีกอย่างได้สาระข่าวสารใหม่ๆ  แบบที่มีที่มาที่ไปอย่างแท่จริงพร้อมอ้างอิงได้

แรกเริ่มเดิมที ที่ทางพี่จิมมี่เราเองจะออกมาทำเว็บ ก็รู้สึกดีใจเหมือนกัน ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของเว็บแห่งนี้ แต่ก็ยังกลัวๆเหมือกับว่าจะเจอกับอุปสรรคอะไรมากมายหรือเปล่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าเว็บใหม่ อะไรๆ ก็ย่อมใหม่ไปด้วย เช่น ความแปลกใหม่ ความสดใหม่ ความท้าทายใหม่ๆ ที่จะทำให้เป็นที่รู้จักและยอมรับ แรกๆก็รู้สึกกลัวๆเหมือนกันว่าจะเจอกับอุปสรรค์มากมาย แต่แล้วเราก็สามารถผ่านมันมาได้ด้วยดี เพราะเรามีเสาหลักที่แข็งแรกและหนักแน่น แต่อย่างไรก็ดีก็อยากให้ทุกๆคนในทีมงานตั้งตนอยู่ในความที่ไม่ประมาท รู้จักพอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดี ซึ่งจะทำให้ผ่านพ้นปัญหาอุปสรรค์ต่างๆไปได้อย่างไม่ยากนัก

ทิ้งทายไว้ซักนิดว่า สุดท้ายนี้ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ก็จะคอยเป็นแรง เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่เว็บแห่งนี้ เพราะสถานที่แห่งนี้เกิดมาพร้อมกับความรักที่เรามอบให้มันเป็นรูปเป็นร่างขึ้น เป็นแหล่งข้อมูลความรู้ให้กับผู้รักรถอย่างแท้จริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะมองไปข้างหน้าพร้อมกับความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้คนในแวดวงรถยนต์ครับ

ณัฐพล ลิ่มมรกต
(เติ้ล ……… Dr.slum)

————————

ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี…เวลานี้  Headlightmag.com อาจเป็นที่รู้จักของใครหลายคน ถึงมีคนมาทักว่าเห็นผมจากในเว็บนี้หลายๆคน อาจเป็นเพราะเปิดตัวมาได้ก็เข้าสี่เดือนแล้ว และมียอดเข้าชมกว่า 400000 view

เว็บนี้นั้นสร้างได้รวดเร็วตามความคิดเลยแหละ ประมาณว่าคิดปุ๊บสร้างปั๊บขึ้นมา ดูเหมือนเร่งรีบ แต่เป็นข้อดีที่จะได้มีการเปิดตัวก่อนที่จะมีคู่แข่งออกมาในลักษณะเดียวกันนี้ เว็บนี้สามารถพัฒนาได้เร็วพอสมควรจากการระดมความคิดจากพวกพี่ๆและทีม coup  ช่วยกันวิเคราะห์วางแผนงานจนสำเร็จ และมีการแก้ไขอย่างต่อเนื่องเนื่อง เพื่อให้เว็บมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน

นี่ก็ย่างเข้าเดือนที่สี่แล้ว feedback ที่ได้ก็ถือว่าดีแล้วนะครับสำหรับเว็บที่เปิดใหม่ อย่าได้คิดมากไป อาจจะมากน้อยในบางวัน พี่จิมมี่ เป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว พอออกมาเปิดเว็บนี้ก็สามารถเรียกความสนใจได้พอสมควร ก็นี่ก็เหมือนจะมีเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ เพิ่งขึ้นมีอีกแห่งหนึ่ง ที่จะเข้ามาเยี่ยมชมได้ทุกวัน บางทีอาจมีการช่วยดูแลในเรื่องสิ่งที่ผิดปกติต่างๆเพื่อให้แก้ไขกัน

เว็บไซต์นี้คงอยู่ได้อีกนานถ้าเราช่วยกันดูแล ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมนิดนึง 55 สู้ๆต่อไป….

Tanat Boriboonwong
(Bank Pike)

————————

แรกเริ่มที่เคยได้คุยกับพี่จิมเมื่อครั้งก่อนที่ยังไม่มี headlightmag.com เกิดขึ้น ก็เคยคุยกันอยู่เหมือนกันว่าตัวพี่จิมเองนั้นก็อยากทำเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ซึ่งตัวของกล้วยเองก็ตอนแรกยังคิดว่าแบบ เอาจริงหรอ เพราะคิดว่า เออ… ที่เก่าก็โอเคอยู่แล้วนะ แต่ว่าพอลองมาคิดๆดูว่า คนเรามันต้องถึงเวลาในจุดๆหนึ่ง ที่เราจะต้องเติบโตขึ้นไปด้วยตัวเอง และแน่นอน การเป็นนายตัวเองนี่แหละ ที่ใครๆก็อยากเป็น ก็เลย โอเค ถ้าอยากทำ ก็เอาเลย

แล้วเว็บนี้ก็เกิดขึ้นมาในที่สุด เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างที่พวกเราในทีมหวังเอาไว้ ถ้าจะให้กล้วยให้คำจำกัดความของเว็บ คงต้องขอยืมคำขวัญท้ายรถสิบล้อมาแล้วล่ะ ก็คือ “วัยรุ่นสร้างตัว” ไง เพราะว่าเว็บเราเว็บนี้ยังถือว่าเป็นเว็บที่เด็กมากกก เพิ่งจะเกิดมาได้สี่เดือน แต่นั่นแหละ สี่เดือนที่ผ่านมาก็มีเรื่องนั่นเรื่องนี่สารพัดเยอะแยะ แต่ก็สามารถผ่านพ้นมาได้ด้วยดี พร้อมกับผลตอบรับจากแฟนๆบทความของพี่จิมที่เคยติดตามผลงานอยู่ก่อนหน้านั่นเองครับ ตรงนี้ผมยกเครดิตให้พี่จิมเต็มๆ และสี่เดือนที่ผ่านมานี่ก็ถือว่าเร็วมากๆ แป๊ปเดียวก็จะครึ่งปีแล้ว

ส่วนตัวของกล้วยเองนั้น เมื่อได้มีโอกาสมาร่วมงานกับทีมเว็บคนอื่นๆ และการที่กล้วยได้มาร่วมงานนี่ล่ะ ที่สอนให้กล้วยโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก จากก่อนหน้าที่ยังเป็นเด็กที่ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรมากนัก ก็กลายมาเป็นคนที่ต้องรู้จักการทำงานร่วมกับคนอื่นอย่างเป็นระบบ รู้จักการทำงานในคนหมู่มาก รู้จักการเข้าสังคม และอื่นๆอีกสารพัด สิ่งเหล่านั้นนั่นเอง ที่ทำให้กล้วยโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งแล้ว และกล้วยเองก็คิดว่า จะมีคนอายุน้อยขนาดกล้วยซักกี่คนที่จะได้มีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้ ซึ่งกล้วยคิดว่าเป็นอะไรที่โชคดีมากจริงๆที่ได้มาทำสิ่งเหล่านี้

และสิ่งเหล่านี้นั่นเอง ที่ทำให้กล้วยได้มี “อะไรๆ” ให้ได้ทำอยู่เรื่อยๆ รู้สึกว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆจริงๆครับ

ชยากร บุญมา
(กล้วย…BnN)

————————————————————

ด้วยความที่รู้จักพี่จิมมี่มานานพอสมควร ได้แลกเปลี่ยนความคิด มุมมองต่อชีวิตของพวกเราก็หลายครั้ง ได้รับทราบเรื่องราว และปัญญาต่างๆก็พอสมควรเหมือนกัน ผมยังจำได้ถึงบทสนทนาระหว่างเราสองคน(ทำไมมันดูสวีทกันจังฟะ …ไม่ใช่นะ) ย้อนกลับไปเมื่อสักประมาณปี 2007 ที่ถกกันถึงวิธีการนำรีวิวรถยนต์ของพี่จิมซึ่งก็รู้ๆกันอยู่ว่า พี่จิมทั้งเหนื่อยและมันแสนจะมีอุปสรรคล้านแปดเหลือเกิน

ผมก็เลยพูดโต้งๆขึ้นมาเลยว่า “ก็เปิดเว็บไซต์ของตัวเองเลยสิ”ตอนนั้นพี่จิมยังคงไม่แน่ใจนัก แต่ผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพและพลังแสนยานุภาพ ของพี่จิม การเปิดเว็บไซต์ของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงแน่นอน

เกือบสองปีให้หลัง เราก็ยังคงแลกเปลี่ยนมุมมองชีวิตกันเหมือนเดิม ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของหัวใจ ที่สงสัยคงแลกเปลี่ยนกันไปมาอยู่นั่น ต่างฝ่ายก้ยังไม่เจอใครสักที เศร้าจริง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะการได้พบปะโดยบังเอิญที่สยามพารากอน ณ ธันวาคม 2008 ทำให้ได้รู้จักกล้วยและพี่บอม เจอพี่เติ้ลอยู่แวบๆ พร้อมกับการแพลม Spy Shot หรือจะเรียกว่า Teaser ชุดแรกดี ด้วยการที่พี่จิมมี่บอกว่า “..พี่กำลังจะเปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเองละนะ” และเอ่ยปากชวนผมเข้าร่วมโครงการนี้

มกราคม..กุมภาพันธ์..มีนาคม..เมษายน..พฤษภาคม..มิถุนายน หกเดือนที่ได้รู้จัก ได้ทำงานกับ The Coup Team อีกสี่เดือนที่ผู้อ่านทั้ง 400,000 คนได้เข้ามาแบ่งปัน/รับทราบข่าวคราวและความรู้รถยนต์ต่างๆ มันเหมือนปรากฏการณ์อะไรบางอย่าง สำหรับผมมันน่าตื้นตันมาก เพราะที่นี่คือที่แห่งมิตรภาพ ที่ที่ผมได้รู้จักพี่ๆเพื่อนๆอีกหลายคน ที่ที่ผมได้รู้ว่ายังมีพวกเดียวกับเราอีกมาก(หมายถึงที่ชอบรถยนต์เหมือนกันนะ)

เอาจริงๆแล้วการได้ทำงานร่วมกับ The Coup Team ทำให้ผมได้รู้จักมิตรภาพในรูปแบบใหม่ๆ การที่เราได้พบปะเจอกันทุกสัปดาห์มันเป็นกิจวัตรประจำตัวไปแล้ว ได้รู้จักการทำงาน การออกความเห็น ที่บางทีก็ตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง สี่เดือนที่ผ่านมาผมเชื่อว่าไฮดไลท์แม๊ก ได้ทำการส่องทางให้ผมเจอะเจอ The Coup และผมเชื่อว่าเฮดไลท์แม๊ก จะยังคงเป็นแสงไฟ ส่องทางให้พวกเราทั้งหมดได้เจอมิตรภาพใหม่ๆ และมอบสิ่งดีๆให้กับผู้อ่านมากขึ้นๆตลอดไปครับ

พฤฒ์พัชร เทพกาญจนา
ตอย – Toyd Cube

————————————————————

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียง สมาชิกหลักๆ ของ The Coup Team ที่ผมตั้งใจให้พวกเขาเขียนเล่าความคิด และความรู้สึกยังมีอีกหลายๆคน ที่มีส่วนร่วม ทำให้เว็บไซต์แห่งนี้ เกิดขึ้นเป็นรูปร่าง และสำเร็จ ใช้งานได้ดีจนถึงปัจจุบันอยากจะขอบคุณน้องๆ และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน สำหรับความช่วยเหลือ อันประเมินค่าไม่ได้เหล่านี้

เราเดินทางกันมาเพียงแค่ 4 เดือน และเรายังไม่รู้ว่า เราจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่เราก็จะยังคงขับรถของเรา พาคุณๆ เดินทางไปด้วยกันต่อไป บนเส้นทางแห่งนี้ …

เส้นทางที่ เรา เลือก เอง

———————————————————///——————————————————–

๋J!MMY

สงวนลิขสิทธิ์

เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com

1 กรกฎาคม 2009