ความพยายามของ Honda ที่ยังไม่สามารถทำสำเร็จได้เลยในวันนี้ ก็คือการพัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ที่เป็นโมเดลเฉพาะ (ที่เรียกกันว่า Dedicated Model หรือเรียกให้เข้าใจง่ายกว่านั้นคือ Standalone Model) ให้มียอดขายพุ่งทะยานตลอดอายุโมเดลรถ หรืออย่างน้อย ๆ รถรุ่นเหล่านั้นก็ต้องมาช่วยสร้างชื่อเสียงให้แก่ Honda ในระยะยาวได้บ้าง ผิดแผกจาก Toyota ที่ประสบความสำเร็จอย่างยาวนานทั้งยอดขายและชื่อเสียงกับรถตระกูล Prius Hybrid หรือ Nissan ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงจากการสร้าง Leaf EV จนสามารถเปิดตัวรถรุ่นถัดไปได้แล้ว

แต่ Honda ก็คือ Honda คือไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาและปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ พวกเขาจึงมีความพยายามที่จะพัฒนารถยนต์ขุมพลัง Hybrid แบบ Standalone Model ที่ไม่ได้เป็นการนำรถรุ่นปัจจุบันมาใส่ขุมพลัง Hybrid แต่อย่างใด พร้อมเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2018

การกลับมาของ Honda Hybrid ในครั้งนี้จะต้องไม่ธรรมดา เพราะมันมาพร้อมกับขุมพลัง Hybrid ที่จับคู่กับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ลูก และงานนี้ Honda ถึงขั้นลงทุนพัฒนาเกียร์ CVT แบบใหม่ ส่งกำลังยังล้อคู่หน้า

Honda Standalone Hybrid Model ใหม่นี้ จะไม่ใช้ชื่อ Insight อีกต่อไป อาจเป็นเพราะว่า Honda ได้พยายามใช้ชื่อ Insight ถึง 2 ครั้งแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จดั่งหวังเสียที อีกทั้งขนาดตัวรถของรถรุ่นใหม่จะใหญ่โตกว่า Insight รุ่นล่าสุดเป็นอย่างมาก ด้วยความกว้างตัวถังอยู่ในระดับ 1,750 มิลลิเมตร เพราะมันจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถังเดียวกับ Honda Civic รุ่นปัจจุบัน

(Honda Standalone Hybrid Model น่าจะมีนำเทคโนโลยีการปรับปรุงช่วงล่างและการขับขี่ใหม่จาก Ino-Mama Prototype มาประยุกต์ )

ความล้ำหน้าของ Honda Standalone Hybrid Model ที่จะแตกต่างจาก Honda Civic คือการใช้วัสดุใหม่ที่น้ำหนักเบาและมีส่วนประกอบของช่วงล่างใหม่ ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากที่ Honda แนะนำ Standalone Hybrid Model ไปสักพักหนึ่ง Honda ก็จะเตรียมแนะนำรถยนต์ขุมพลัง Plug-in Hybrid และขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า EV โดยใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกับ Hybrid Standalone Model ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกับ Honda Clarity ที่พยายามแนะนำขุมพลังทางเลือกใหม่ถึง 3 แบบได้แก่ Fuel Cell, PHEV และ EV
นับว่าเป็นการดำเนินกลยุทธ์รถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ที่ชัดเจนขึ้นซึ่งจะคล้าย ๆ กับกลยุทธ์ของ Hyundai Ioniq

ที่มา : Indianautosblog