ณ เวลานี้ Lotus ก็แทบประกาศให้โลกรับทราบว่าพวกเขากำลังจะก้าวเดินทางไปสู่ความเป็นแบรนด์รถสปอร์ตที่ยิ่งใหญ่ตามรอยเดียวกับแบรนด์ Ferrari เพียงแต่อาจจะจำกัดขนาดบริษัท, ขนาดรถไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่เล็กกว่าหน่อย แต่ฝันอันยิ่งใหญ่นั้นพวกเขาจะต้องใช้ “เงิน” ก้อนมหาศาลเลยทีเดียว ไม่เช่นนั้นรถต้นแบบสปอร์ต 5 คันที่อวดโฉมในงาน Paris Motorshow 2010 คงจะโลดแล่นสู่ความจริงทุกคัน

Mr. Dany Bahar ผู้บริหาร Lotus Cars วัย 37 ปี และเคยเป็นถึงอดีตหัวหน้าการตลาดสุดฉมังประจำ Ferrari มาแล้ว เปิดเผยยุทธศาสตร์ความใฝ่ฝันอยากให้แบรนด์ Lotus เป็นผู้นำรถสปอร์ตที่ใช้เทคโนโลยีจากมอเตอร์สปอร์ต แต่ด้วยประสบการณ์และจำนวนเงินอันน้อยนิดก็เป็นอุปสรรคสำคัญ

Mr.Dany Bahar ผู้บริหาร Lotus

Mr.Dany Bahar กำหนดยุทธศาสตร์ให้แบรนด์ Lotus มีตำแหน่งการตลาดเทียบเคียงกับ Porsche หลังจากที่อยู่บนโลกนี้มานาน 39 ปี ตั้งเป้ายอดขาย 6,000-8,000 คันต่อปีภายในปี 2015 และหวังยอดจำหน่ายตลาดสหรัฐอเมริกามากถึง 1 ใน 3 ของเป้าที่ตั้งไว้

วิธีที่ทำให้ Lotus สามารถขยับฐานะตนเองมาสู้กับคู่แข่งได้ก็ต้องร่วมทุนกับค่ายรถขนาดใหญ่อย่างเช่น Toyota รวมทั้งต้องทำให้บริษัทเป็นเอกเทศโดยปราศจากการถือหุ้นของผู้ใด เพื่อให้สามารถขยายแบรนด์ของตนเองให้สามารถพัฒนาสินค้าครอบคลุมกลุ่มลูกค้า (ยกเว้นตลาดเอสยูวี) ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง, มีค่าไอเสียและความปลอดภัยตามมาตรฐานในหลายประเทศได้

ตามแผนการ Lotus จะต้องออกรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 6 รุ่นภายใน 5 ปีข้างหน้า ไล่ตั้งแต่รถซิตี้คาร์จนถึงซีดานใหญ่ระดับหรู หลาย ๆ รุ่นอาจจะต้องใช้ชิ้นส่วนร่วมกันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ยกตัวอย่าง Lotus Elite โฉมใหม่และ Lotus Eterne ซึ่งเป็นรถซีดานคูเป้ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐาน Elite สามารถใช้ชิ้นส่วนร่วมกันถึงร้อยละ 75

นอกจากนี้เทคโนโลยี Lotus ก็ยังล้ำสมัยจนถึงขั้นพัฒนาโครงสร้างตัวถังอลูมิเนียมน้ำหนักเบาแค่ 100 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับโครงสร้างตัวถังของ Lotus Evora 235 กิโลกรัมซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าและเบากว่า Lamborghini เสียอีก

Lotus เองก็รอช้าไม่ได้ก็อาจจะลองขอกู้ยืมเงินลงทุนเพื่อก่อสร้างโรงงานสำหรับผลิตรถขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่น Elite และ Eterne เสียก่อน หากทุกอย่างราบรื่นก็ต้องว่าจ้างพนักงาน 600-1,000 ตำแหน่ง และหากเครื่องยนต์บล๊อกใหม่ V6/V8 ที่พัฒนาขึ้นมาเองประสบความล้มเหลว Lotus ก็ต้องขอยืมเครื่องจาก Toyota เช่นเคย

ส่วนโครงการพัฒนารถเล็ก A-Segment แห่งอนาคตร่วมกับ Proton ยังดำเนินการต่อไป