Daimler AG เคบใช้ความพยายามอย่างหนักในการเจาะตลาดรถยนต์ระดับหรู Super High-End Luxury อย่างหนัก ถึงขั้นพยายามปัดฝุ่นชื่อ Maybach ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อตีตลาดรถหรูมหาเศรษฐีระดับเดียวกับ Rolls-Royce แต่ก็ต้องยุติบทบาทตัวเองลงภายในปี 2013 ด้วยยอดขายที่ไม่ประสบความสำเร็จเอาเสียเลย

ความพยายามในครั้งนั้นก็ไม่ถือว่าสูญเปล่ามากนักเพราะ Daimler AG ได้ใช้เวลาในการศึกษาตลาดรถยนต์ระดับหรูที่มีราคาแพงกว่า Mercedes-Benz S-Class ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง จน Rebrand ตัวเองใหม่เป็น Mercedes-Maybach ที่จะเป็นการนำรถยนต์ Mercedes-Benz ที่มีอยู่ในท้องตลาดมาอัพเกรดความหรูหราเพิ่มขึ้นอีกระดับ หวังวางตำแหน่งแทรกกลางระหว่าง Mercedes-Benz และ Rolls-Royce ซึ่งถือเป็นการวางตำแหน่งที่น่าสนใจไม่น้อย

รถยนต์ Mercedes-Maybach คันแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2015 ด้วยการนำ Mercedes-Benz S-Class มาพัฒนาความหรูหราให้น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

และเมื่อผ่านพ้นข้ามปี 2018 เพียงแค่ไม่สัปดาห์ Daimler AG ก็เผยโฉม Mercedes-Maybach S-Class Facelift ที่มีการปรับปรุงใหม่ให้แตกต่างจาก S-Class รุ่นปกติยิ่งกว่าเดิม

Mercedes-Maybach S-Class Facelift มีการปรับปรุงกระจังหน้าใหม่ ลายซี่กระจังเป็นแบบแนวตั้ง คล้ายกับรถต้นแบบ Vision Mercedes-Maybach 6 พร้อมการออกแบบกระจังหน้าที่ดูแหวกไปจากรถยนต์ราคาสูง ๆ , เพิ่มความงดงามด้วยการสาดสีตัวถังแบบทูโทน ที่สามารถจับคู่สีสูงสุดถึง 9 โทนสี เพิ่มเทคนิคเคลือบสีสองชั้นสำหรับสีเข้มทั้งหมด ช่วยให้พื้นผิวของสีดูสะท้อนเงางามดุจเปียโนที่เคลือบแลกเกอร์ และลายล้อใหม่ขนาด 20 นิ้ว

Mercedes-Maybach S-Class Facelift มีความยาวตัวถัง 5,461 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 3,365 มิลลิเมตร ขนาดโดยรวมถือว่ายาวกว่า S-Class LWB 254 มิลลิเมตร นั่นจึงทำให้ S-Class รุ่นพิเศษคันนี้มีความกว้างสบายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา

ที่มา : Motor1