Elton John & His Band : All The Hits Tour / Live in Bangkok / 29 Nov.2015
เก็บบรรยากาศมาฝากจากคอนเสิร์ตมนุษย์ป้า

Elton John เป็นใคร ทำไมถึงมีเพลงของเขารวมไว้ในอัลบั้มรวมฮิตเพลงย้อนยุคประเภท The Essential Of….,
The Best Of…, Flashback to The 70’s,  All Time Hits  ชายวัยเกือบ70คนนี้คือ นักร้อง นักแต่งเพลงชาวอังกฤษ
ปัจจุบันได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน เวลาจะเรียกชื่อเขาอย่างเป็นทางการควรขึ้นต้นด้วยคำว่า”เซอร์”
เขามีเปียโนเป็นเครื่องดนตรีประจำตัว หรือจะเรียกว่าแกถนัดเล่นเครื่องเคาะประเภทลิ่มเป็นพิเศษนั่นล่ะ ด้วยความที่
เขาและBilly Joel ต่างมีเครื่องดนตรีถนัดที่เหมือนกัน คือ เปียโน เมื่อทั้งสองต้องทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกัน บิลลี่ โจเอล
มักเรียกตัวเองว่า Mister Piano Man เอลตัน จอห์น ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เรียกตัวเองทันทีว่า Miss Piano Man !!!!!!!!!

เขาคือเจ้าของคอลเลคชั่นแว่นตาทรงพิสดารมากมายจนกลายเป็นเอกลักษณ์ติดตัว หนึ่งในนั้นคือแว่นตารูปหัวใจ
สีขาวที่ต่อมาภายหลัง เจ๊..เอ้ย..เขาบริจาคให้เป็นทรัพย์สมบัติแก่พิพิธภัณฑ์ในเมืองเมมฟิส ต่อมามันได้อันตรธาน
หายไปอย่างไร้ร่องรอย จับมือใครดมไม่ได้   เขาเคยแต่งตัวหรูหราและมีวิกผมขนาดมหึมา จนไม่สามารถเข้าไปนั่ง
ในรถลีมูซีนส่วนตัวได้ ต้องนั่งรถบรรทุกคันใหญ่ที่มีความสูงพอสำหรับหัวกบาลเสริมวิกสูงราวกับวิปครีมฟูฟ่อง

เขาคือซุปเปอร์สตาร์ปากดีที่มักเที่ยววิจารณ์จิกกัดศิลปินคนอื่นไปทั่ว โดนกันมาตั้งแต่รุ่นใหญ่มาดอนน่า ไปจนถึง
แร๊พเปอร์หน้ากวนบาทา”เอมิเน็ม” จนเอมิเน็มถึงกับเคยทำมิวสิควีดีโอล้อเลียนแกจนเรื่องราวบานปลาย กว่าจะเคลียร์กันได้
แทบตบกันตายกันไปข้างหนึ่ง  เรื่องหน้าแตกครั้งหลังสุด คือ โดนดีเจจากรัสเซียอำจนเละเป็นโจ๊ก ด้วยการปลอมเสียง
เป็นประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อสายโทรศัพท์คุยเรื่องสิทธิเสรีภาพของเกย์ในรัสเซีย จนเขาดีใจให้ข่าวกับสื่อมวลชน
อย่างหน้าชื่นตาบาน ก่อนจะหน้างอเป็นปลาทูแม่กลองในภายหลัง หลังจากประธานาธิบดีปูตินออกมาปฎิเสธเรื่องดังกล่าว

ในอดีตยุคที่เขาประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตการเป็นศิลปินช่วงกลางยุค70’s เขาคือเจ๊ใหญ่ใจป้ำผู้อุปถัมป์สโมสร
ฟุตบอลอังกฤษที่ชื่อ”วัตฟอร์ด(Watford)” จนสามารถก้าวขึ้นมาเล่นในดิวิชั่น 1ได้สำเร็จ  และเมื่อปี2014ที่ผ่านมา
เขาเพิ่งจะสมหวังกับการจดทะเบียนสมรสกับเดวิด เฟอร์นิช แฟนชาวอังกฤษแคนาดา เป็นการจดทะเบียนต้อนรับ
กฎหมายใหม่ที่ช่วยให้คนรักร่วมเพศมีสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ได้รับสิทธิประโยชน์เฉกเช่นคู่สมรสที่เป็นชายกับหญิง
เช่น รับบุตรบุญธรรม หรือรับมรดก ถ้าไม่นับเรื่องผลงานเพลง เอาเฉพาะเรื่องราวด้านอื่นของเอลตัน จอห์น เราสามารถ
แยกออกมาเป็นอีกหนึ่งคอลัมน์ได้สบายๆ

ก่อนจะพาคุณผู้อ่านเข้าสู่คอนเสิร์ตครั้งล่าสุดจากป้าแอ๊ว-Elton John ขออนุญาตเอ่ยถึงกฎกติกามารยาทบางอย่างที่
ควรตระหนักในการเข้าชมคอนเสิร์ต นอกเหนือจากที่เจ้าภาพประกาศไว้อย่างเป็นทางการ เช่น ห้ามถ่ายวีดีโอ ห้ามเปิด
แฟลชในขณะใช้กล้องถ่ายภาพ ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าร่วมชมดนตรี ห้ามขว้างปาสิ่งของใส่เวที ห้ามโห่ฮาล้อเลียนผู้แสดง
ด้วยวาจาหยาบคาย ห้ามพกพาอาวุธ อีกเรื่องที่เจ้าภาพควรใส่เพิ่มไว้ในข้อห้ามที่ประกาศบนจอแอลอีดี คือ

ห้ามพาดตีนบนพนักพิงด้านหน้า แม้เก้าอี้ตัวนั้นจะไม่มีคนนั่งก็ตาม  !!!!!!!

นั่นคือภาพมารยาทแย่ๆที่เผอิญผมหันขวามองเห็นจากเก้าอี้ถัดไปประมาณ 2 ที่นั่งของผู้หญิงสูงวัยร่างเล็กออกแนวท้วม
เธอพาดขาสั้นๆที่สวมรองเท้ากีฬาบนพนักพิงเก้าอี้ตัวหน้าที่ไม่มีคนนั่ง อีกเรื่องที่ขอบอกทุกท่านคือ คอนเสิร์ตส่วนใหญ่
เดี๋ยวนี้เล่นตรงเวลาเป๊ะมาก ทั้งศิลปินไทยหรือศิลปินต่างชาติ อย่ามัวแต่เอ้อระเหยลอยชายด้านนอก มิฉะนั้นคุณอาจ
พลาดบางช่วงเวลาของโชว์ที่บางครั้งมันอาจเป็นเพลงที่คุณตั้งใจเข้ามาชมเป็นพิเศษก็เป็นได้ สู้อุตส่าห์ฝึกร้อง
มาจากบ้าน ที่ไหนได้เพลงนั้นศิลปินโชว์จบไปแล้ว

คอนเสิร์ตครั้งล่าสุดในประเทศไทยก่อน All The Hits Tourครั้งนี้ของเอลตัน จอห์น หากย้อนเวลากลับไปก็ราวๆ 3ปีที่แล้ว
ครั้งนั้นมีวงดนตรี ชื่อ  2 Cellos เป็นวงเปิด แต่ถ้าใครจำได้เมื่อเกือบ10ปีที่แล้ว คุณพี่เขาเคยแวะมาเมืองไทยเปิดการแสดง
หนึ่งรอบ เป็นรอบที่โดนด่ากันเปิดเปิงสนั่นเมือง เพราะนอกจากราคาจะบัตรแพงมหาโหด ใบละ 8,000บาทแล้ว สื่อโฆษณา
โปรโมทครั้งนั้นทำให้ผู้คนคิดว่าเขาต้องมาพร้อมวงดนตรีเต็มรูปแบบ โชว์อลังการ แต่ความเป็นจริงคือ พี่แกมาเดี่ยวเปียโน
บนเวทีเท่านั้น !!!!!! ผู้สันทัดกรณีเล่าว่าโชว์ตอนนั้น เอลตัน จอห์น ลงจากเครื่องบินด้วยเครื่องแต่งกายชุดกีฬา กระเป๋าที่
ถือเข้ามาในห้องจัดคอนเสิร์ตก็ได้รับค่าโฆษณาจากแบรนด์กีฬาชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง ราวกับว่าเป็นการขายโชว์ที่ซื้อการแวะ
ลงเมืองไทยชั่วคราว เพื่อให้มาเดี่ยวเปียโนเท่านั้น แต่โปรโมทราวกับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบ อันที่จริงศิลปินต่างประเทศที่
แวะมาโชว์ที่ประเทศไทยในรูปแบบปาร์ตี้ส่วนตัวมีไม่น้อย เช่น Kenny G เคยรับค่าโชว์เป่าแซกโซโฟนเพียง 2 เพลง
ราคา 40,000เหรียญสหรัฐฯ จากงานเลี้ยงฉลองวันเกิดเจ้าของห้างสรรพสินค้าแถวซอยรางน้ำ  , Jamie Cullum
มาเล่นดนตรีในงานเลี้ยงบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งที่โรงแรมหกดาวย่านราชดำริ , Sadao Watanabe กับ Laura Fygi
ก็ยังเคยถูกจ้างมาในงานเลี้ยงภายในของโตโยต้า มอเตอร์ส ประเทศไทย

การกลับมาเปิดคอนเสิร์ตในประเทศไทยครั้งนี้ของท่านเซอร์เอลตัน จอห์น คงไม่ใช่แค่เพราะอาหารไทยรสชาติอร่อยเลิศ
เท่านั้น ตามที่แกพูดบนเวทีในคืนวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แต่พ่วงมาด้วยแผนโปรโมทอัลบั้ม
ชุดใหม่ลำดับที่ 33 “Wonderful Crazy Night” ซึ่งมีกำหนดจะออกขายช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2016 แต่เพลงที่ปล่อยออกมา
เป็นซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้ม คือ Looking Up กลับไม่มีในโชว์ หรือแม้แต่เพลงอื่นก็ตาม จากอัลบั้มเดียวกัน  All The Hits Tour
ครั้งนี้มีเพลงใดบ้างที่แกนำมาโชว์ ดูได้จากเพลย์ลิสต์ที่ผมถ่ายภาพมาประกอบคอลัมน์ครั้งนี้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า ชื่อเพลง
ส่วนใหญ่ถูกย่อมาซะถ้าคนที่ไม่ใช่แฟนเพลง ไม่เคยรู้จักเพลงของแกมาก่อน รับรองมีงงเป็นไก่ตาแตก เช่น Bennie ย่อมาจาก
Bennie & The Jet ,Sorry ย่อมาจาก Sorry Seems to be the hardest word, Philly ย่อมาจาก Philadelphia Freedom

เพลย์ลิสต์แผ่นนี้ว่ากันว่าทีมพีอาร์ของไลฟ์ เนชั่น ผู้จัดงาน ถอดมาจากลายมือของท่านเซอร์ฯ แล้วนำมาพิมพ์ก่อนจะแจกให้
สื่อมวลชนเพื่อเขียนข่าว  น่าสังเกตว่าเพลย์ลิสต์ของโชว์ครั้งนี้นอกจากเพลงที่ใช้โชว์ทั่วโลกจะเป็นชุดเดียวกัน เพียงแค่การ
จัดวางลำดับก่อนหลังแต่ละเพลงจะต่างกันเล็กน้อยแล้ว โชว์ครั้งนี้ที่ประเทศไทย ท่านเซอร์เอลตัน จอห์น ยังใจดีสมนาคุณ
เพิ่มมาอีก 2 เพลงให้คนไทยได้จุใจคุ้มค่าราคาค่าบัตร ก็คือ The One งานจากอัลบั้มชื่อเดียวกันในปี1992 ที่พี่แกและวงดนตรี
บรรเลงดนตรีล้วนๆจับใจกันไปในลีลาซอฟท์ร็อค และ Funeral For A Friend / Love Lies Bleeding จากอัลบั้มที่ประสบ
ความสำเร็จที่สุดชุดหนึ่งในชีวิตของแก คือ อัลบั้มGoodbye Yellow Brick Road เรียกว่าเพลงนี้โซโล่กันยับรับเสียงกรี๊ด
ต้อนรับจากแฟนเพลงชาวไทยตั้งแต่เปิดฉากโชว์ เพราะเป็นเพลงแรกที่นำมาเปิดฉากการแสดงในคืนนั้น

All The Hits Tour ของ Elton John มีนักดนตรีที่เรียกว่าเป็นสมาชิกถาวรของวงทั้งสิ้น สองในห้าคนที่ยืนอยู่บนเวทีคืนนั้น
ทัวร์กับเอลตัน จอห์น มาตั้งแต่ยุค70’s  คือ Davey Johnstone-มือกีตาร์ Nigel Olsson-มือกลอง ส่วนอีกสามคน คือ
Matt Bissonette-เล่นเบส ,John Mahon-เพอร์คัสชั่น และ Kim Bullard-คีย์บอร์ด และเป็นธรรมเนียมของทุกคอนเสิร์ต
ใดใดในโลก หากไม่จำกัดเวลาโชว์กันเกินไปนัก จะมีช่วงแนะนำนักดนตรีแต่ละคนบนเวที เป็นการให้เกียรติรวมทั้งเปิดโอกาส
ให้เครื่องดนตรีแต่ละได้ทำหน้าที่พระเอกเปล่งเสียงออกมาเรียกเสียงปรบมือ เสียงกรีดร้องชื่นชมจากผู้ชม ส่วนเอลตัน จอห์น
ในคืนนั้นนางปรากฎตัวบนเวทีด้วยเสื้อสูทสีฟ้าอมน้ำเงิน โรยกากเพชรหรือไม่ก็ปักเลื่อมสะท้อนแสง สปอตไลท์ที่ระดม
สาดส่องบนเวที ตกกระทบเสื้อสูทป้าให้เจิดจรัส นั่งเล่นเปียโนเองทุกเพลงตลอดโชว์ และลุกขึ้นมาหลังจากจบลง
ในแต่ละเพลง ในอิริยาบถต่างๆ โบกไม้โบกมือ กำมือสะใจ(น่าจะประมาณ…เริ่ดค่ะ..เพลงนี้เล่นจบ ไม่ผิดคีย์ หรือไม่ก็…
ดีใจจัง…จำเนื้อร้อง ได้ไม่ตกหล่น) หันหน้ามาพูดกับผู้ชมบ้าง เช่น อาหารไทยอร่อยนะจ๊ะ…อิชั้นสั่งแหนมเนืองเทคโฮม
หลายชุดเชียวค่ะ….

18 ใน 24 เพลงของโชว์ เป็นผลงานจากยุค70’s ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองสุดขีดของเอลตัน จอห์น นอกนั้นลดหลั่นกันไปตาม
สัดส่วน คือ ผลงานจากยุค 80’s, 90’s และ หลังปี2000เป็นต้นมา  ใครที่คาดหวังว่าจะได้ยินเพลง Can’t You Feel
The Look Tonight  เพลงดังหนังการ์ตูน The Lion King ที่เคยฉายช่วงยุค90’s ไม่อยู่ในลิสต์เซ็ทเพลงที่ป้าและชาวคณะ
ตระเตรียมไว้ ก็เป็นอันผิดหวังกันไป แต่เอ๊ะ…ทำไมคุ้นๆว่าเหมือนได้ยินเพลงนี้ในสปอตโฆษณาที่กระหน่ำโปรโมท
เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกนะครับ แม้จะลดความคาดหวังลงไปสามขีดแล้วก็ตาม แต่ลึกๆในใจก็คาดหวัง
อยู่บ้างล่ะว่าจะได้ยินได้เห็นได้ร้องเพลงที่ชื่นชอบ อันนี้ก็ใช้ไม้บรรทัดความรู้สึกส่วนตัวมาวัดครับ เพราะผมเองยังเดา
กับแอบหวังว่าเพลง I Want Love จากอัลบั้ม Songs From The West Coast   อาจจะมีให้ได้เสพจากมหรสพของป้าครานี้
แต่แล้วความหวังก็พังทลาย อย่างไรก็ตามมองในแง่ดี เราจะได้เสพเพลงอื่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ถือเป็นกำไรชีวิต

ก็ตามชื่อทัวร์คอนเสิร์ตหนนี้นะครับ All The Hits Tour จะเล่นเพลงยาก เพลงต่ำกว่าTop40 เพลงหน้าบี-ที่ไม่ใคร่มีคนรู้จัก
สักเท่าไหร่ คงไม่ตรงคอนเซ็ปท์ แต่มีอยู่เพลงหนึ่งในโชว์นี้ที่ในอดีตเคยเป็นซิงเกิ้ลหน้าบีมาก่อน แต่พี่ดีเจในช่วงต้นยุค70’s
แกกลับพลิกอีกด้านของแผ่นเพลง Take Me to The Pilot วางบนจานแผ่นเสียงเล่นออกอากาศ ผลลัพท์ คือ เพลงที่ตั้งใจ
โปรโมทก็เป็นที่รู้จักประมาณหนึ่ง แต่เพลงที่เป็นซิงเกิ้ลหน้าบีกลับแจ้งเกิดอย่างเต็มสง่าภาคภูมิ ติดชาร์ตอันดับสูงๆทั้งใน
อังกฤษและอเมริกา เพลงนั้นคือ Your Song  เพลงที่ป้ากับ Bernie Taupin(เบอนี่ ทอปิน) แต่งร่วมกัน เป็นเพลงที่ป้าแก
โดนเจ้าของร้านขายเครื่องดนตรีหลอกให้เล่นเเละร้องไว้ แล้วเจ้าของร้านแอบอัด ตั้งแต่สมัยที่ป้ายังต๊อกต๋อยวัยรุ่นทำงาน
ในบริษัทแผ่นเสียง ตอนเที่ยงออกไปกินข้าวแล้วเเวะไปหยิบจับเปียโน จนโดนดีเข้าให้ เพราะภายหลังพอเพลงนี้ดัง
กว่าป้าจะตามเอากลับมาเปนเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ก็อีกหลายปีทีเดียว ก็เอาเงินฟาดหัวอีเจ้าของร้านขายเครื่องดนตรีนั่นแหล่ะ

Daniel เพลงที่พูดถึงความรู้สึกโหยหาอยากกลับบ้านอันอบอุ่นของทหาร (ในเพลงสมมุติขึ้นมาว่าชื่อเดเนี่ยล) ซึ่งถูกส่งไป
รบในสงครามเวียดนาม ,Bennie & The Jet มุมมองของเขาที่มีต่ออุตสาหกรรมดนตรีในยุคเปลี่ยนจาก60’sมาสู่70’s ,
Candle in the wind เพลงที่แต่งขึ้นมาไว้อาลัยการจากไปของมาริลีน มอนโร ต่อมาในปลายยุค90’s นำมาแก้ไขเนื้อร้อง
เพื่อแสดงความเศร้าต่อการสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของเจ้าหญิงไดอาน่า , Sorry Seems to be the hardest word
เพลงฮิตจากปลายยุค70 ที่ครั้งหนึ่งในช่วงต้นยุค 2000 วงBlueเคยนำมาคัฟเวอร์แล้วชวนป้าแอ๊วมาร่วมร้องไว้  แต่ฉบับที่
ผมคิดว่าคัฟเวอร์ได้ดีที่สุดฉบับหนึ่ง เป็นฝีมือของ Mary J.Bridge และอีกหลายเพลงตามรายชื่อที่ปรากฎในรูปภาพที่ผม
ตั้งใจถ่ายมาให้ดู เผื่อหลายคนที่ยังไม่รู้จักหรือไม่เคยฟังอีกหลายเพลงของป้าแอ๊ว จะได้ทำความรู้จักไปพร้อมกันได้ในโอกาสนี้

ภาพรวมของโชว์ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบลงถึงโน้ตตัวสุดท้ายที่ช่วงอังกอร์ของเพลง Crocodile Rock ที่ผู้ชมขยับร่างกาย
จากที่นั่งเดินออกมากรูกันที่หน้าเวทีเพื่อโยกย้ายส่ายสะโพกไปกับชาละวันร๊อค พูดได้ว่าซาวนด์แน่น ซาวนด์เนี๊ยบ
เฉียบขาด ไม่มีช่วงไมค์เสียงหาย ดนตรีเสียงดร๊อป ถึงผมจะนั่งอยู่ที่แถวที่ค่อนไปทางเกือบหลังสุดของอิมแพ็ค อารีน่า
แต่ทุกอณูของเสียงที่พุ่งมาหาให้เราโอบรับ ไม่เกิดความรู้สึกว่าเสียงมาไม่เต็ม  ส่วนโชว์ที่ต่อเนื่องแทบไม่เปิดโอกาส
ให้ผู้ฟังหยุดหายใจ เหมือนตั้งใจรันให้จบตามเวลาที่กำหนดไว้ ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นรูปแบบนี้เดียวกันทั่วโลก ไม่เสียเวลา
เอนเตอร์เทนผู้ชมควบคู่กับเล่นดนตรีในสัดส่วนที่พอๆกัน โชว์ดนตรี-ร้องเพลงตามที่ซ้อมมา จบ

เวลาผมดูคอนเสิร์ตของศิลปินสูงวัยทีไร ผมมักแอบหวั่นในใจเสมอว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายรึเปล่าที่เขาหรือเธอจะมา
เปิดการแสดงในประเทศไทย ของอย่างนี้ไม่ได้วางโปรแกรมกันได้ง่ายๆกว่าจะมีแพลนแต่ละทัวร์คอนเสิร์ต ฉะนั้นถ้าคุณ
เป็นแฟนเพลงของศิลปินคนใดแล้วเขามาโชว์ในบ้านเรา จงรีบซื้อตั๋วเพื่อเสพความสุขจากบรรยากาศแสดงสดครั้งหนึ่ง
ในชีวิต โดยเฉพาะถ้าศิลปินรายนั้นเข้าสู่ช่วงวัยที่ประกันอาวุโสไม่โอเค

//ขอขอบคุณ//
-คุณประเสริฐ ธีระมโน สำหรับบัตรอภินันทนาการเข้าชมคอนเสิร์ต
-LIVE NATION ภาพสวยๆในระยะประชิดป้า จนเห็นทุกรูขุมขนบนใบหน้าอย่างละเอียด