ตอนที่นั่งลงเขียนถึงเพลงนี้ของโมเดิร์นด็อก ภาพแรกที่ผุดขึ้นมากลางหัวสมองอันมึนงง
จากสภาพที่เพิ่งหายป่วยหมาดๆ นั่นก็คือภาพตัวเองตอนช่วงกลางยุค90ตอนโพล้เพล้
เย็นวันหนึ่งออกไปเดินเที่ยวเตร่ละแวกหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ยุคนั้นยังมีแผงเทป
ขนาดใหญ่มหึมาอยู่แผงหนึ่ง กินพื้นที่หน้ากว้างริมทางเท้าน่าจะราวๆ10เมตร ความสูง
ของดิสเพลย์แนวตั้งใหญ่ละลานตาเห็นแต่ไกลจากระยะร้อยเมตร มีเทปคาสเส็ทท์ทุก
แนวเพลงจนน่าตกใจ ตั้งแต่ศิริพร อำไพพงษ์ ยันโจฮานน์ เซบาสเตียน บาค ปลีกย่อยไป
กว่านั้นคือแผงนี้มีทั้งเทปลิขสิทธิ์ราคาม้วนละเกือบร้อยบาทปะปนกับเทปผีสนนราคา
ไม่กี่สิบบาทให้เด็กทุนน้อยแต่ความต้องการมีมากอย่างผมได้มีตัวเลือกตาม
สภาพเงินในกระเป๋า

Before-Dog_1

ด้วยความคาดหวังว่าน่าจะพอหาเทปมือสองเพลง”…ก่อน”ได้บ้างตามรายทาง
ฟุตบาธที่เดินเล่นเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆท่ามกลางความแออัดยัดทะนานของร้านค้าสารพัด
แผงหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เผื่อจะมีคนเอามาปล่อยขายเพราะเกะกะรกบ้าน
แต่แล้วต้องผิดหวังซ้ำซ้อนครั้งแล้วครั้งเล่า จนท้อใจในที่สุดเมื่อเดินมาถึงแผงเทปขนาด
มหึมาดังกล่าว สายตาก็ปะทะกับเทปซิงเกิ้ลเพลง”…ก่อน”เข้าให้เต็มสองลูกตา แต่เมื่อ
เขยิบเข้าใกล้ในระยะประชิดพอจะเห็นหมา(บนปกเทปที่ใส่แว่นกันแดด)แล้วพลิกเทป
กลับไปกลับมาอยู่สี่ห้ารอบอย่างกับกำลังย่างปลา ดวงตาจึงเห็นธรรม “นี่มันเทปผีนี่หว่า”
แต่ทำยังไงได้ ยุคนั้นท่านท่อ(YouTube)ยังไม่กำเนิด เอ็มพีสามยังไม่จุติ ซอฟท์แวร์
ฟังเพลงมีอยู่ไม่กี่ชนิด ตัดสินใจทันทีไม่รีรอ”เอาวะ…ซื้อไปฟังก่อน ยังมีอีก3เวอร์ชั่น
ที่ยังไม่เคยฟัง ไว้วันหน้า ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่ เราคงโชคดีได้เจอเทปมือสองของแท้”
สภาพตอนนั้นเหมือนคุณกำลังนั่งกินชาบูบุฟเฟ่ต์แล้วสั่งปลาหมึกกับบริกร แต่สิ่งที่ได้
กลับเป็นปลาหมึกชิคูวะหรือไอ้เนื้อสัตว์ชนิดหลอด อาหารโปรดของชิชิมารุ หมาในการ์ตูน
นินจาฮาโตริ

หลายปีหลังจากนั้นเหมือนเทวดาจะหยั่งรู้ความต้องการอันแรงกล้า ขณะที่เดินเล่นใน
ตลาดนัดต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ไอ้เทปหน้าหมาม้วนที่คุณผู้อ่านเห็นในคอลัมน์นี้ ก็ปรากฎ
ตรงหน้าอีกครั้งอย่างบังเอิญ คราวนี้เป็นเทปของแท้(แม้จะมีตราประทับPromotion Only
Not For Sale)แสดงว่าคนที่มาปล่อยขายต้องเกี่ยวข้องหรือทำงานเกี่ยวกับสื่อมวลชน
อย่างแน่นอน เพราะเทป ซีดี แผ่นเสียง จากค่ายเพลงที่แจกอภินันทนาการดีเจ สถานีวิทยุ
เขาจะประทับตราคำว่าPromotion Only Not For Sale ป้องกันการนำไปขายหรือให้เช่า
เหมือนร้านวีดีโอ แต่ก็ไม่วายมีดีเจที่เคยจัดรายการวิทยุในจังหวัดระยองเคยทำน่าเกลียด
อย่างว่าจริงๆ แกเปิดร้านให้คนเช่าแผ่นซีดีกลับไปฟังที่บ้านอย่างกับBlock Buster ไม่
เกรงใจค่ายเพลงกันเลยทีเดียว นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนกฎหมายลิขสิทธิ์จะคลอด
ออกมาให้ปัญหาที่มีอยู่เดิมเละตุ้มเป๊ะกว่าเก่าด้วยปัญหาใหม่ๆที่ตามมาอีกล้านแปด

สาเหตุที่ต้องตามหาเทปซิงเกิ้ลเพลง”…ก่อน”(ถ้าจะเขียนให้ถูกต้องตามเจตนาผู้แต่งเพลง
ต้องมีจุดไข่ปลา3จุดหน้าคำว่า”ก่อน”ชื่อเต็มของเพลงนี้คือ”เธอจากไปก่อน”)ม้วนนี้
เพราะสมัยนั้นมันไม่มีพรีออเดอร์เหมือนยุคนี้ ทันทีที่โมเดิร์นด็อกประสบความสำเร็จอย่างสูง
จากงานเพลงอัลบั้มแรก โด่งดังทั่วแคว้นแดนไทยทั้งเพลงบุษบา,กะลา,มานี และแน่นอนว่า
บัลลาดร๊อคกรีดใจชาวร๊อคอย่างเพลง”…ก่อน”เป็นเพลงได้รับความนิยมสูงสุดในอัลบั้ม
ติดชาร์ตเพลงบางสถานีวิทยุติดต่อกันกว่า52สัปดาห์หรือ1ปี !!!!!!!! ทางเบเกอรี่มิวสิค
ต้นสังกัดของโมเดิร์นด็อก จึงเกิดไอเดียว่าน่าจะทำเป็นแผ่นซิงเกิ้ลออกวางขาย กระทั่งสบโอกาส
เมื่อ19 พฤศจิกายน 2537 ในเทศกาลบันเทิงคดี ที่จัดโดยน้าซัน-มาโนช พุฒตาล เทศกาลดนตรีที่
นอกจากจะมีโมเดิร์นด็อกไปแสดงสดแล้ว ยังมีวงเฮฟวี่เมทัลอีกสองวงในเทศกาลดนตรีครั้งนั้น
คือGrowing PainและHeavy Mod จัดขึ้นที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เทปซิงเกิ้ลเพลง
“…ก่อน” วางจำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง5,000ชุดเท่านั้น
Before-Dog_3

แน่นอนว่ามันถูกรุมซื้อหมดลงในเวลาอันรวดเร็ว จนปัจจุบันกลายเป็นของหายาก มีราคาสูง
มหาโหดจนซื้อไม่ลง(หรือไม่มีเครื่องเล่นเทปจึงไม่ซื้อ) คอนเซ็ปท์การออกแบบปกเทปชิ้นนี้
มีโจทย์สั้นตามชื่อวงตรงตัว”หมาทันสมัย”ในเมื่อวงนี้เป็นหมาทันสมัย หากจะนำภาพหมาขึ้นปก
หมาตัวนั้นควรมีสัญลักษณ์อะไรสักอย่างบ่งบอกว่าเป็นหมาไม่ตกยุค หลังจากขบคิดอยู่นาน เ
กาหูอยู่หลายเพลา หมาหูตั้งตัวที่คุณผู้อ่านเห็นในภาพจึงถูกจับสวมแว่นกันแดดซะเลยให้รู้แล้วรู้รอด
แล้วเรื่องที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับเทปซิงเกิ้ลเพลง “…ก่อน”คือ คนออกแบบปกเทป
ชื่อ ธนา โกสิยพงษ์ น้องชายของบอยด์ โกสิยพงษ์ !!!!!!!!!!!!!!!! อุตสาหกรรมในครัวเรือนอีกเช่นเคย
คนเดียวกับที่ออกแบบปกซิงเกิ้ล”Seasons Change”(ฤดูที่แตกต่าง)”

Before-Dog_2

ทั้ง5เวอร์ชั่นที่บรรจุในเทปซิงเกิ้ลเพลง”…ก่อน”ม้วนนี้ประกอบไปด้วย

  1. Album Version เพลงแรก-หน้าA เป็นฉบับที่ปล่อยออกมาให้สาธารณชนได้ยิน
    ได้ฟังเป็นฉบับแรกและทางวง รวมทั้งทางเบเกอรี่มิวสิคเองก็คงเข็มขัดสั้น(คาดไม่ถึง)
    ว่าเพลงมันจะดังจนร้องตามได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ฉบับนี้บรรจุไว้เป็นแทร็คที่3ในอัลบั้ม
    Dog Never Lies งานชุดแรกของโมเดิร์นด็อก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ
    ของการมิกซ์ซาวนด์ให้ดิบเหมือนกินเนื้อหมูคุโรโบตะย่าง10วินาที
  2. Acoustic Version เพลงที่สอง-หน้าA ชื่อก็บอกชัดเจนในตัวอยู่แล้วว่าอะคูสติก
    ท่วงทำนองที่ได้มาจึงปราศจากเสียงปรุงแต่งจากเครื่องดนตรีไฟฟ้า จะเรียกว่าฉบับ
    เกลี้ยงเกลาก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตามเสียงร้องของป็อด-ธนชัย อุชชิน ยังคงโหยหวน
    ไม่เสื่อมคลาย สิ่งที่ผมเซ็งมากก่อนจะมาพานพบกับเทปซิงเกิ้ลเพลง”…ก่อน”ก็คือ
    ฉบับอะคูสติกเป็นเพลงพิเศษที่ทำขึ้นมาใหม่เพื่อจับใส่อัลบั้มDog Never Liesในช่วง
    ระยะเวลาที่ตัวอัลบั้มเริ่มขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ถ้าจะเปรียบกับวงการรถยนต์มันก็คือ
    การMinorchangeโดยเพิ่มออพชั่นต่างๆมาให้ในตัวรถ แต่อันนี้คือเทปเพลง
    วิธีการของมันเท่าที่ทำได้คือถ้าไม่เปลี่ยนปก ก็เพิ่มเพลงใหม่ เพลงพิเศษ ซึ่งเป็นธรรมเนียม
    นิยมอย่างแพร่หลายของค่ายเพลงเมืองไทยในยุค90 ไม่เว้นแม้แต่เบเกอรี่ มิวสิค ตัวผมเอง
    ก็ตกเป็นเหยื่อการตลาดด้วยเช่นกัน ยอมควักเงินซื้อมาอีกม้วน โดยหาเหตุผลปลอบใจ
    ตัวเองว่า เป็นม้วนสำรองเผื่ออีกม้วนหนึ่งมันยืด ถ้าคุณจำเพลง”…ก่อน”อะคูสติกเวอร์ชั่นได้
    คุณต้องเคยร้องตามท่อนอิมโพรไวซ์ช่วงท้ายเพลงได้ เพราะนั่นคือท่อนร้องที่ไม่รู้ว่าป็อด
    เองด้นสดตอนอัดเสียงในสตูดิโอหรือตั้งใจแต่งขึ้นมาสำหรับฉบับอะคูสติกโดยเฉพาะ
    ท่อนนั้นร้องว่า”…เพราะว่าเธอเท่านั้น ที่ทำให้ฉันซึ้งในรักอันยิ่งใหญ่ หัวใจที่เคยหวั่นไหว
    เป็นไปเป็นความสดใส ขอเพียงให้เธอได้รู้…”
  3. Demo Version เพลงแรก-หน้าB มันก็คือAlbum Versionที่ยังไม่ผ่านการปรุง
    แต่งเสียงร้อง ภาพรวมของดนตรียังไม่สะเด็ดน้ำ ยังมีเสียงเคาะไม้กลองให้จังหวะ
    คล้ายๆคนทำราดหน้าเคาะตะหลิวรอเวลาที่แป้งจับตัวได้ที่ก่อนจะตักหมูกับคะน้า
    ใส่ลงไปในกะทะยักษ์ อ่าวนี่ผมกำลังเขียนเรื่องเพลงอยู่นี่หว่า ทำไมออกข้างทาง
    แวะร้านราดหน้าซะอย่างนั้น เดโม่เวอร์ชั่นนี้มีเรื่องให้ผมเขียนถึงเบเกอรี่มิวสิคอีก
    ประเด็น นั่นก็คือ การที่พวกเขาชาวขนมปังดนตรีนำเพลงที่อัดไว้ในวาระต่างๆแต่
    ไม่เคยถูกใช้งาน เพลงประเภทเทคสอง เดโม่เพลงต่างๆ หรือบางเพลงเป็นบันทึก
    การแสดงสดในไนท์คลับที่นำเพลงสากลมาร้องอย่างเช่น รัดเกล้า อามระดิษ
    ร้องเพลง I Will Survive ที่Witch Tavern ซอยทองหล่อ พวกเพลงเหล่านี้
    เบเกอรี่มิวสิค นำมารวมเป็นประเภท RARE Compilation ขายเป็นซีรี่ส์ต่อเนื่อง
    อยู่ราวๆ3ชุด จะเรียกว่ามันเป็นเสน่ห์ก็ได้ ที่เราจะได้ฟังงานเพลงครึ่งสุกครึ่งดิบ
    ก่อนมันจะถูกขั้นตอนพิถีพิถันต่างๆปรุงแต่งกลมกล่อมได้ที่แล้วไปโผล่ในตัวอัลบั้ม
    วางขายอย่างเป็นทางการ หรืออีกในแง่หนึ่งผมก็ยังแอบคิดอยู่ในใจลึกๆว่า นี่พวก
    พี่หากินกันแบบนี้เลยเหรอครับ เห็นว่าตัวเองเป็นเบเกอรี่ มิวสิค ผลิตขนมปังโฮมเมด
    เอร็ดอร่อยฉันพอใจจะโกยขอบขนมปังที่เฉือนกองไว้ข้างถาด จับออกมาใส่ถุงทำ
    แพ็คเกจจิ้งสวยๆวางขาย แปะฉลากเพิ่มมูลค่าทางการตลาดในนาม
    “RARE ITEM” มีอะไรไหม?
  4. Unbarked Version เพลงที่สอง-หน้าB ถ้าถามความเห็นส่วนตัวไม่เอาเหตุผลอื่นใด
    มาผูกโยงรองรับ ผมชอบฉบับนี้มากที่สุด เมื่อเพลง”…ก่อน”ยกเสียงร้องออกทั้งยวง
    คงไว้เพียงท่อนดนตรีตลอดสี่นาทีกว่าๆ ปล่อยให้เสียงกลองทีทำหน้าที่โดย”โป้ง-ปวิณ
    สุวรรณชีพ”ทำงานสอดประสานกับกีตาร์โซ่โล่จาก”เมธี น้อยจินดา”และการตบเบสที่
    โอบอุ้มจังหวะกลมกลืนไปกับเครื่องดนตรีอีกสองชิ้นข้างต้นจาก”บ๊อบ-สมอัตถ์ บุญยะรัตเวช”
    ทำให้เพลง”…ก่อน”ฉบับไม่เห่าแทร็คนี้มีเสน่ห์ตรงที่เราสามารถกางเนื้อร้องตามได้
    โดยไม่ต้องกลัวว่าจะร้องคร่อมเสียงพี่ป๊อด หรือจะเรียกว่านี่คือคาราโอเกะเวอร์ชั่น
    ก็ไม่ผิดนัก
  5. PRY Version เพลงที่สาม-หน้าB นี่คือเวอร์ชั่นที่เป็นไฮไลท์ของเทปซิงเกิ้ลม้วนนี้
    เลยก็ว่าได้ หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสาเหตุที่อยากได้เทปชุดนี้เพราะอยาก
    ฟังPRY Version จากวันนั้นถึงวันนี้นับระยะเวลาได้กว่า20ปีที่เพลงนี้เผยแพร่สู่
    สาธารณชนคนฟังเพลง จนป่านนี้ยังมีใครไม่ทราบบ้างว่าผู้ที่แต่งเพลงนี้คือ
    “พราย-ปฐมพร ปฐมพร”ผู้ชายคาดหน้าที่มีบุคลิกหลุดโลกที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เราเคย
    พานพบบนสารบบวงการเพลงไทย คิดดูสิครับว่าผู้ชายคนนี้เคยทำเพลงออกมาโดย
    ใช้สัญลักษณ์ต่างๆแทนชื่อเพลง เป็นที่ฮือฮาตื่นตะลึงทึ่งในไอเดียที่บางทีผมแอบคิดว่า
    ดีเจที่คิดจะเปิดเพลงของพรายในยุคนั้นอาจจะอึ้งเพราะไม่รู้จะขานชื่อเพลงออกอากาศ
    อย่างไร ก็ถ้าสมมุติว่าเพลงที่จะเล่นเป็นเพลงที่3หน้าA ใช้สัญลักษณ์เป็น”รูปหอกปลาย
    แหลมที่ประดับด้วยดอกไม้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก” ดีเจท่านนั้นอาจต้องตีความ
    แล้วตั้งชื่อเพลงนั้นเองว่า”รักเธอนะอีหอก”อะไรอย่างนี้เหรอ?

 

จุดกำเนิดเพลง”…ก่อน”มีที่มาจากจดหมายแฟนเพลงผู้หญิงคนหนึ่งของปฐมพรที่เขียนมาหาเขา
เล่าถึงพี่สาวของเธอที่รักและบูชาในตัวปฐมพรอย่างมาก แต่สุดท้ายกลับจบชีวิตตัวเองลงเพราะ
สภาพจิตใจที่อ่อนแอ จดหมายฉบับนั้นที่ถูกส่งถึงมือปฐมพรยังเขียนต่ออีกว่า บางทีถ้าพี่สาวของ
เธอได้เจอได้คุยกับปฐมพร การตัดสินใจชั่ววูบจบชีวิตตนเองอาจไม่เกิดขึ้น และในเพลง”…ก่อน”
PRY Versionนี้นอกจากจะมีเสียงร้องแบบหลงๆเหินไปเหินมาของปฐมพรแล้ว(ต้องบอกอย่าง
ตรงไปตรงมาว่าปฐมพรเป็นศิลปินที่มีมุมมองการแต่งเพลงน่าสนใจ แต่สำหรับการขับร้องนั้นอยู่
ในระดับสอบตก) ช่วงต้นของบทเพลงเป็นการบันทึกเสียงอ่านจดหมายทุกตัวอักษรที่เคยเขียน
ถึงปฐมพรของน้องสาวผู้หญิงที่เสียชีวิตลงนั่นเอง คลอด้วยท่วงทำนองชวน
โศกเศร้าเคล้าน้ำตาอย่างยิ่ง

Before-Cheepchanok(audio-teams)

จดหมายหดหู่ฉบับนั้นกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ปฐมพรแต่งเพลงนี้ขึ้นมาโดยที่ครั้งแรกตั้ง
ชื่อเพลงว่า”เธอจากไปก่อน”ก่อนจะตัดคำให้สั้นลงเหลือแค่คำว่า”ก่อน”ในเวลาต่อมาเมื่อ
ตอนที่เขาและสุกี้-กมลสุโกศล แคลปป์ ซึ่งตอนนั้นเพิ่งเรียนจบกลับมาจากอเมริกา กำลัง
ไฟแรงดูแลการผลิตให้วงแร๊พTKOและคุ้นเคยกับปฐมพรอยู่พอสมควร ในช่วงเวลาใกล้กัน
เมื่อโมเดิร์นด็อกตั้งใจหอบเอาโปรเจ็คท์ทำเพลงชุดแรกมาให้สุกี้ดูแลการผลิต วันหนึ่งใน
ขณะที่อยู่ในห้องอัดสุกี้เหลือบไปเห็นเนื้อเพลง”เธอจากไปก่อน”ของปฐมพร จึงขอมาใส่
ไว้ในอัลบั้มของโมเดิร์นด็อก เพราะตอนนั้นยังขาดเพลงช้าอยู่พอดี นอกจากนั้นตัวปฐมพร
เองยังเคยนำเพลงนี้มาร้องใหม่ซึ่งถูกบรรจุไว้ในอัลบั้มบันทึกการแสดงสดของเขาราวๆ
ต้นยุค2000 โดยที่เนื้อเพลงมีการดัดแปลงเล็กน้อยจากท่อนที่ร้องว่า”…ก่อนที่คนอย่าง
ฉันจะหมดไฟ…”เปลี่ยนไปร้องว่า”…ก่อนคนจนอย่างฉันจะหมดไฟ…”

แต่ก่อนหน้าที่ปฐมพรจะนำมาขับร้องเอง ช่วงปลายยุค90 จู่ๆก็มีนักกีตาร์อะคูสติกฝีมือดี
(ปัจจุบันแกเข้าขั้นเซียน)คนหนึ่งชื่อ”ชีพชนก ศรียามาตย์” ออกอัลบั้มเพลงบรรเลงชื่อว่า
“เพลงพราย” งานชุดนั้นมีเพลง”…ก่อน”ที่พรายตั้งใจมอบให้ชีพชนกนำมาตีความใหม่ด้วย
สารภาพตามตรงว่าจนถึงทุกวันนี้เพลง”…ก่อน”ฉบับที่ชีพชนกบรรเลงอะคูสติกกีตาร์ยังเป็น
ฉบับที่ผมชื่นชอบอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ต้องอธิบายครับว่ามันมีบางเพลงที่ผมเคยชอบ
ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่เมื่อนานๆไปพอหยิบกลับมาฟังใหม่ กลับไม่รู้สึกหรือหลงเหลือความ
ลุ่มหลงนั้นอยู่อีกเลย ถ้าคุณผู้อ่านจะมองผมด้วยหางตาแล้วแบะปากด้วยความหมั่นไส้ก็
ขอเชิญปฎิบัติได้ทันที ผมไม่ถือสา

ชีพชนก ศรียามาตย์ นำเพลง”…ก่อน”ไปตีความใหม่และผลิตออกมาในรูปแบบเพลงบรรเลง
ที่อุดมไปด้วยเมโลดี้ที่ไพเราะ เสียงพริ้วไหวของอะคูสติกกีตาร์จากปลายนิ้วของชีพชนก
ลดความดุดันในเวอร์ชั่นต้นฉบับลง ถ้า”…ก่อน”ฉบับโมเดิร์นด็อกคือความร้อนแรงของดวง
อาทิตย์ที่ส่องไปยังดอกทานตะวัน เพลง”…ก่อน”ฉบับของชีพชนก คงเปรียบได้กับความเย็น
ของลมที่พัดเข้ามาหาต้นจำปีให้ส่งกลิ่นหอมจากดอกมาแตะจมูกเราเมื่อเดินผ่าน

เพลง “…ก่อน”สำหรับผมแล้วมีความทรงจำอีกอย่างหนึ่งที่อดจะไม่พูดถึงไม่ได้ ตามปกติเวลา
เราไปดูคอนเสิร์ต ก็มักจะเดาออกแทบจะในทันทีว่าศิลปินนักดนตรีมักเก็บเพลงที่ฮิตที่สุดไว้
ช่วงท้ายก่อนการแสดงจะจบลง เรียกว่าอั้นไฮไลท์ไว้ตอนท้ายว่างั้นเถอะ แต่ในโชว์ที่ชื่อ
“Café is Close” ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตปิดอัลบั้มCafe งานชุดที่สอง
ของโมเดิร์นด็อก พวกเขาทำในสิ่งตรงกันข้าม ทันทีที่ผู้ชมปรบมือต้อนรับการปรากฎตัวของสมาชิก
วงทุกคนบนลานกลางแจ้งของศูนย์วัฒนธรรมฯจบลง อินโทรทำนองที่คุ้นหูของเพลง “…ก่อน”ดัง
ขึ้นมาสร้างความประหลาดใจแก่ผู้ชมในวันนั้นอย่างมาก ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คนที่รู้จักโมเดิร์นด็อกเป็น
อย่างดี จะไม่รู้สึกประหลาดใจแม้แต่น้อย เพราะแนวทางการทำดนตรีของหมาทันสมัย ไม่ใช่ตอบ
สนองในสิ่งที่คนฟังต้องการ แต่เป็นการสร้างความประหลาดใจในสิ่งที่คนฟังคาดไม่ถึงต่างหาก

 

MUSIC GETS THE BEST OF ME

ขอบคุณภาพปกอัลบั้ม”เพลงพราย”จากเว็บไซต์ Audio-Teams.com