Suzuki เปิดตัว All NEW Swift ครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 27 ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา ก่อนจะขึ้นปีใหม่กันแบบฉิวเฉียด ซึ่งเป็นเซอร์ไพรส์อย่างมาก เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า รถใหม่จะมาเปิดตัวในช่วงไม่กี่วัน ก่อนจะหยุดปีใหม่แบบนี้

จากนั้นราวๆเดือน กุมภาพันธ์ 2017 ก็ได้ปรากฎตัวรถพรางตัววิ่งทดสอบในไทย กันอย่างรวดเร็ว และ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2017 นี้ ก็เริ่มออกมาวิ่งถี่ขึ้น ทั้งในเมือง และ นอกเมือง จนมีคุณผู้อ่านหลายต่อหลายท่าน ส่งภาพเข้ามาสอบถามกันไม่ขาดสาย

ผ่านมาครบ 1 ปีหลังเปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่น NEW Suzuki Swift ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวในไทยแล้ว สาเหตุที่ต้องวิ่งทดสอบเป็นระยะเวลานานก่อนเปิดตัว เนื่องจาก NEW Suzuki Swift เวอร์ชั่นไทย จะได้เครื่องยนต์ใหม่ เบนซิน 1.2 ลิตร Dual JET และ เข้าโครงการ Eco Car Phase 2 กำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย 8 กุมภาพันธ์ 2018 นี้

วันนี้ Headlightmag มีข้อมูลเบื้องต้นของ NEW Suzuki Swift เวอร์ชั่นไทย มาฝากคุณผู้อ่านกันครับ เบื้องต้นจะมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ดังนี้

  • 1.2 GA CVT
  • 1.2 GL CVT
  • 1.2 GLX CVT
  • 1.2 GLX Navi CVT

* ส่วนรุุ่นเกียร์ธรรมดา M/T จะตามมาทีหลัง

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 6 สี (ภาพอ้างอิงจากเวอร์ชั่นญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย)

  • สีแดง Ablaze Red Pearl
  • สีขาวมุก Pure White Pearl
  • สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic
  • สีเงิน Star Silver Metallic
  • สีเทา Mineral Gray Metallic
  • สีดำ Super Black Pearl

รายละเอียดของ NEW Suzuki Swift เวอร์ชั่นไทย ” เบื้องต้น “

Exterior ภายนอก

  • ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED
  • ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
  • ไฟท้าย LED พร้อมไฟหรี่ Light Guiding
 

Interior ภายในห้องโดยสาร

  • พวงมาลัยท้ายตัด D-Shape
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
  • หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen
  • รองรับ Apple Car Play
  • ระบบนำทาง Navigation System
  • ระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ idling Stop
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอแสดงผลดิจิตอล
  • ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
    

ระบบความปลอดภัย Safety

  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

 

Engine เครื่องยนต์

1.2 Dual JET 

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ DOHC 1.2 ลิตร 1,197 ซีซี. ระบบหัวฉีดคู่ Dual Jet กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 71.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 กำลังสูงสุด 83 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20

ต่างจากเวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่เป็นรหัส K12C

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12C 4 สูบ DOHC 1.2 ลิตร 1,242 ซีซี. ระบบหัวฉีดคู่ Dual Jet กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 74.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 118 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า

(ปัจจุบัน Suzuki Swift เวอร์ชั่นไทย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน K12B 4 สูบ 16 วาล์ว ระบบวาล์วแปรผัน VVT ขนาด 1.2 ลิตร 1,242 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 74.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.0 : 1 พละกำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ CVT)

คาดว่าเครื่องยนต์ใหม่นี้ น่าจะให้พละกำลังที่ต่อเนื่องกว่าเดิม และ ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม

 

ทางด้านโครงสร้างตัวถังของ All NEW Suzuki Swift จะเป็น Platform ใหม่ HEARTECT ความแข็งแกร่งที่อยู่ภายใต้น้ำหนักที่เบากว่าเดิม มีการปรับโครงสร้างพื้นตัวถังส่วนล่าง และ โครงกระดูกงู พร้อมทั้งเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้าง เพื่อความแข็งแรงแต่ไม่เบียดเบียนเนื้อที่ภายในห้องโดยสาร และ ที่เก็บสัมภาระ

Dimension มิติตัวถัง ของ All NEW Suzuki Swift

  • ยาว x กว้าง x สูง : 3,840 x 1,695 x 1,500 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,450 มิลลิเมตร

เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมที่มีขนาดมิติตัวถัง 3,850 x 1,695 x 1,510 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,430 มิลลิเมตร จะพบว่า รุ่นใหม่สั้นลงกว่าเดิม 10 มิลลิเมตร และ เตี้ยลง 10 มิลลิเมตร แต่ระยะฐานล้อก็เพิ่มขึ้น 20 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักตัวรถเบาลง 65 – 70 กิโลกรัม

 

รายละเอียด – รุ่นย่อย – สีตัวถังภายนอก และ ราคาอย่างเป็นทางการของ NEW Suzuki Swift ติดตามได้วันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ หากมีรายละเอียดความคืบหน้าก่อนเปิดตัว ทีมงาน Headlightmag จะมารายงานให้ทราบกันครับ

* ภาพประกอบบทความทั้งหมด เป็นรถเวอร์ชั่นญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/63591.0