ผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติอังกฤษได้ก้าวเข้าสู่บทใหม่ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ SUV คันแรกของบริษัท ในรอบ 106 ปี หลังก่อตั้งกับ Aston Martin DBX ที่ยังคงผสานเอกลักษณ์ของค่ายเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ทั้งในเรื่องของ DNA หน้าตาและสมรรถนะ ด้านรายละเอียดมิติตัวถังมีดังนี้

  • ยาว x กว้าง x สูง : 5,039 x 1,998 x 2,220 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 3,060 มิลลิเมตร

 

Aston Martin DBX ยังรักษาเอกลักษณ์กระจังหน้าขนาดใหญ่เอาไว้ ส่วนขนาดไฟหน้าดูจะมีขนาดเล็กลง เมื่อเทียบกับสัดส่วนตัวถัง ไฟท้ายเพรียวยาวเชื่อมต่อเข้าหากันทั้งสองฝั่ง ไฟ DRL ติดตั้งอยู่ตรงกรอบช่องดักลมกันชนหน้า เสริมภาพลักษณ์ SUV ด้วยการใช้สีดำตัดขอบล่างตัวถังรอบคันตามสูตร ด้านหลังดูแปลกตากับฝาท้ายที่ยกขึ้นสไตล์ตูดเป็ด ปิดท้ายด้วยท่อไอเสียปลายเดี่ยวออกสองฝั่ง

ห้องโดยสารรองรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง วัสดุตกแต่งมีให้เลือกตามใจชอบ ทั้งหนังและลายไม้แท้หลายรูปแบบ ผ้าหลังคาและแผ่นบังแดดควบคุมด้วยไฟฟ้าสำหรับหลังคา Panoramic Sunroof ทำจาก Alcantara ทั้งหมด มาตรวัด TFT มีขนาด 10.25 นิ้ว ส่วนหน้าจอสัมผัสเป็นแบบ TFT เช่นกัน ขนาด 12.3 นิ้ว ด้านความจุพื้นที่บรรทุกสัมภาระหลังเบาะอยู่ที่ 632 ลิตร และเพิ่มขึ้นได้ด้วยเบาะหลังปรับพับแบบ 40:20:40

ขุมพลังของ Aston Martin DBX เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร 3,982 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 83 x 92 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 8.6 : 1 กำลังสูงสุด 550 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 2,200 – 5,000 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 291 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยตามมาตรฐานของ EU ที่ 6.98 กิโลเมตร/ลิตร

platform ของ Aston Martin DBX ทำจากอะลูมิเนียมแบบเดียวกับที่ใช้ในรถสปอร์ต ทำให้รีดน้ำหนักตัวถังเหลือ 2,245 กิโลกรัม ส่วนช่วงล่างเป็นแบบปรับระดับได้ ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ สามารถลดความสูงลงจากปกติได้อีก 50 มิลลิเมตร และ เพิ่มความสูงได้อีก 45 มิลลิเมตร ด้านระบบความปลอดภัยมี Active Safety หลายรายการ รวมไปถึงกล้องมองภาพรอบคัน

Aston Martin DBX เปิดตัวเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ประเทศจีน พร้อมเปิดรับจองแล้ว ก่อนเริ่มส่งมอบในไตรมาสที่สองของปี 2020 ส่วนแหล่งกำเนิดจะอยู่ที่โรงงานในประเทศอังกฤษ ด้านราคาจำหน่ายเริ่มต้นในอังกฤษซึ่งยังไม่รวม ภาษีนำเข้าของประเทศไทยอยู่ที่ 158,000 ปอนด์ (ราว 6,177,000 บาท) พิเศษลูกค้า 500 คนแรก จะได้รับชุดอุปกรณ์ตกแต่ง 1913 Package พร้อมสิทธิ์ในเข้าร่วมงานเลี้ยงระดับภูมิภาค

ที่มา: Aston Martin