Honda WR-V ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก Jazz GK ได้มีรุ่น Minorchange ตามมาแล้ว แม้ Jazz ตัวใหม่ จะเปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นไปแล้วก็ตามที ส่วนกำหนดการเปิดตัวของ Jazz ยกสูงคันนี้ อันที่จริงต้องเปิดตั้งแต่เดือนเมษายน แต่พิษ COVID-19 ทำให้เลื่อนมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนสีที่มีให้เลือกนั้นมี 6 แบบด้วยกัน ดังนี้

  • สีเงิน Lunar Silver Metallic
  • สีเทา Modern Steel Metallic
  • สีส้ม Premium Amber Metallic
  • สีน้ำตาล Golden Brown Metallic
  • สีขาว Platinum White Pearl
  • สีแดง Radiant Red Metallic

Honda WR-V Minorchange ปรับเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าเป็นกระจังหน้าโครเมี่ยมแบบ Solid Wing ขนาดใหญ่ รับกับไฟหน้าทรงใหม่แบบ LED ส่วนกันชนหน้าปรับใหม่เช่นกัน ด้านข้างยังคงมีกาบพลาสติกสีดำ ติดตั้งชายล่างตัวถังรอบคันเช่นเดิม เสริมภาพลักษณ์พร้อมลุยด้วยราวหลังคา ไฟท้ายเป็นแบบ LED Signature ทรงใหม่สงวนไว้ให้ตัวท็อป ปิดท้ายด้วยล้อลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว

ห้องโดยสารปรับอุปกรณ์มาหลายรายการทั้ง เบาะผ้าลายใหม่และหน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อระบบ Android Auto – Apple CarPlay ในรุ่นท็อปจะมีหลังคา Sunroof, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส, พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, แดชบอร์ดตกแต่งสีเงิน, หน้าจอ MID, Push Start พร้อมกุญแจ Keyless, ไฟอ่านแผนที่ และ ที่วางแขนตรงกลาง

ขุมพลังของ Honda WR-V Minorchange มีขุมพลังให้เลือกสองแบบ ดังนี้

เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC

แบบ 4 สูบ SOHC ขนาด 1,199 ซีซี. กำลังสูงสุด 90 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

เครื่องยนต์ดีเซล i-DTEC

แบบ 4 สูบ DOHC ขนาด 1,498 ซีซี. เทอร์โบ กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

 

ระบบความปลอดภัยใน Honda WR-V Minorchange ทุกรุ่นมี ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS – EBD, ระบบแจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบแจ้งเตือนเมื่อใช้ความเร็วเกินที่ตั้งไว้, ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ เมื่อกดเบรกและคันเร่งพร้อมกัน, จุดยึดเบาะ ISOFIX, ระบบล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่ตั้งไว้ และ ระบบปลดล็อคประตูเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

Honda WR-V Minorchange เปิดตัวที่ประเทศอินเดียไปเมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย สนนราคาจำหน่ายที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 849,900 –  1,099,900 รูปีอินเดีย (ราว 354,000 – 459,000 บาท)

ที่มา : indianautosblog, paultan