By Gigabright

จะว่าไปแล้วการเปลี่ยนงานของบรรดาคนในแวดวงยานยนต์นั้น เหมือนกับการละเล่นพื้นบ้านของไทยอย่างเก้าอี้ดนตรี ที่สลับสับเปลี่ยนวนกันไปมาระหว่างบริษัท โดยในครั้งนี้เป็นคราวของแบรนด์จากทางฝั่งยุโรป ประกอบได้ด้วย Bentley (United Kingdom), Volkswagen (Germany), Seat (Spain) และ Skoda (Czech republic)

เมื่อ Matthias Rabe หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของค่าย Volkswagen จะย้ายไปทำหน้าที่หัวหน้าวิศวกรให้กับแบรนด์รถหรูอย่าง Bentley ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยเป็นการไปแทนที่ Werner Tietz ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในปัจจุบัน ทำให้เขาต้องย้ายไปนั่งเก้าอี้รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา (R&D) ให้กับค่าย Seat ที่ซึ่ง Matthias Rabe เองเคยทำงานที่นั่นในตำแหน่งนั้นมาก่อนเช่นกัน

เส้นทางการทำงานในสายอุตสาหกรรมยานยนต์ อันยาวนานของ Matthias Rabe เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1988 ที่ Volkswagen Group เป็นที่แรก หลังจากนั้นเขาได้ย้ายมาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคนิคให้กับ Seat ในปี 2011 โดยตำแหน่งสุดท้ายของเขาที่ Seat คือรองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา (R&D)

ก่อนที่จะกลับมาสู่อ้อมแขนของบ้านหลังเดิมหรือ Volkswagen อีกครั้ง ในฝ่ายปฏิบัติการและพัฒนาเทคโนโลยี ต่อมา เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็น หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีเมื่อเดือนมีนาคม 2019 โดยเขาได้สร้างผลงานเอาไว้ให้กับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Volkswagen Golf GTI และรถยนต์แฮทช์แบ็คพลังานไฟฟ้า ID3 ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ของ Volkswagen

ในระหว่างที่ Matthias Rabe ทำงานให้กับ Seat เขาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนารถยนต์รุ่น Ibiza และ Leon โฉมปัจจุบัน ส่วนผลงานชิ้นสุดท้ายของเขาคือ EI-Born รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) คันแรกของ Seat ที่ใช้แพลทฟอร์มร่วมกันกับ Volkswagen ID3 นอกจากนี้เขายังเป็นผู้หลักดันในการพัฒนาแบรนด์ Cupra ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ Seat สำหรับแตกยอดไปสู่ตลาดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ (SUV) อีกด้วย

ด้าน Adrian Hallmark ว่าที่เจ้านายใหม่ของ Matthias Rabe ณ Bentley Motors ดูจะหมายมั่นปั้นมือให้เขามาช่วยพัฒนาแบรนด์อย่างเต็มที่ โดยกล่าวว่า “ประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทางด้านการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีที่ผ่านมาของ Rabe เป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีว่า เขาจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันและส่งเสริมรถยนต์รุ่นใหม่ของเรา เพื่อนำพาให้ Bentley เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของกลุ่มรถยนต์ระดับหรูในอนาคตอย่างแน่นอน”

ในขณะนี้ทาง Bentley กำลังซุ่มพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ ซึ่งหวังจะให้เป็นพระเอกของรถยนต์ในระดับนี้เลยทีเดียว คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จ พร้อมออกสู่สายตาโลกในปี 2025 ส่วนประสบการณ์ของ Werner Tietz เขาเริ่มต้นการทำงานครั้งเป็นแรกให้กับ Volkswagen ในปี 1994

จากนั้นได้ย้ายค่ายมาทำงานให้กับ Audi ในปี 2005 ด้วยตำแหน่งรองประธานบริหารฝ่ายตัวถังและรุ่นย่อย (Body & Trim) ที่ Porsche ในปี 2011 ก่อนจะย้ายมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาที่ Bentley ในปัจจุบัน โดยเก้าอี้ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคนิคของ Seat ที่เขาจะย้ายไปในเดือนกรกฏาคมนี้ เดิมทีเป็นของ Axel Andorff ที่เพิ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม 2019

Axel Andorff ยังเคยทำงานให้กับ Mercedes-Benz ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนา และออกแบบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาก่อน และในเดือนกรกฎาคมนี้เขาจะย้ายไปดำรงตำแหน่ง หัวหน้าสายการผลิตรถยนต์นั่งขนาดกลาง และรถ MEB ให้กับ Skoda แทนที่ Matthias Glodny ซึ่งจะย้ายกลับไปร่วมงานกับ Volkswagen อีกครั้งหลังจากที่เขาเคยทำงานให้กับค่ายนี้มาแล้วกว่า 22 ปี

ที่มา: autocar