ค่ายดาวสามแฉกเดินหน้าตามแผนเปิดตัวรถยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้ามากกว่า 20 รุ่น ภายในปี 2020 ด้วยการขยายเทคโนโลยี EQ Power มายัง A-Class และ B-Class เป็นครั้งแรกในชื่อ Mercedes-Benz A 250e และ B 250e โดยรุ่นแรกมีให้เลือกทั้งตัวถัง 4 ประตู และ 5 ประตู ส่วนขุมพลังที่ใช้เป็นแบบเดียวกันทั้งหมด

Mercedes-Benz A 250e และ B 250e ติดตั้งชิ้นส่วนเพิ่มของระบบอย่างชาญฉลาดหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นไว้ใต้พื้นรถ, อุโมงค์เกียร์, ถังน้ำมัน และใต้เบาะหลัง ทำให้ความจุบรรทุกสัมภาระลดลงจากรุ่นทั่วไปไม่มาก ส่วนระบบอำนวยความสะดวก MBUX ยังมีมาให้ พร้อมปรับแต่งให้สั่งเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่แบบ Comfort, ECO และ Sport เสริมด้วยระบบสั่งการผ่านกุญแจ ให้เครื่องปรับอากาศทำงานก่อนขึ้นรถ

ขุมพลังของทุกรุ่นเป็นแบบเดียวกันกับ เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.3 ลิตร 1,332 ซีซี. เทอร์โบ กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,620 รอบ/นาที เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 102 แรงม้า และ 300 นิวตันเมตร

เมื่อเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้า ทำงานร่วมกัน จะได้พละกำลังรวม 218 แรงม้า 450 นิวตันเมตร แบตเตอรี่มีขนาด 15.6 kWh ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8F-DCT 8 จังหวะ ทุกรุ่นสามารถทำความเร็วสูงสุดด้วยพลังงานไฟฟ้า 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนสมรรถนะในแต่ละแบบตัวถัง มีดังต่อไปนี้

  • A 250e
    • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 6.6 วินาที
    • ความเร็วสูงสุด Top Speed 235 km/h
    • ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว เป็นระยะทางสูงสุด 74 – 76 km.
  • A 250e Saloon
    • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 6.7 วินาที
    • ความเร็วสูงสุด Top Speed 240 km/h
    • ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว เป็นระยะทางสูงสุด 75 – 77 km.
  • B 250e
    • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 6.8 วินาที
    • ความเร็วสูงสุด Top Speed 235 km/h
    • ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว เป็นระยะทางสูงสุด 70 – 77 km.

Mercedes-Benz A 250e และ B 250e รองรับการชาร์จหลากหลายรูปแบบ โดยการชาร์จผ่าน Wallbox ขนาด 7.4 kW สามารถชาร์จไฟจากระดับ 10 – 100% ภายในเวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที ส่วนการชาร์จแบบ Direct Charge สามารถชาร์จไฟจากระดับ 10 – 80% ภายในเวลา 25 นาที

ทั้ง 3 แบบตัวถัง มีกำหนดการเปิดตัวภายในปีนี้ และเปิดรับจองแล้วสำหรับ Mercedes-Benz A 250e แต่ Mercedes-Benz B 250e จะตามมาภายหลังในอีกไม่กี่สัปดาห์ สนนราคาจำหน่ายโดยที่ยังไม่รวม ภาษีนำเข้าของประเทศไทย ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • A 250e ราคาเริ่มต้นที่ 36,943.55 ยูโร (ราว 1,255,000 บาท)
  • A 250e Saloon ราคาเริ่มต้นที่ 37,300.55 ยูโร (ราว 1,267,000 บาท)
  • B 250e ราคาเริ่มต้นที่ 37,663.50 ยูโร (ราว 1,279,000 บาท)

ที่มา : Daimler