Porsche ฉลองครบรอบ 70 ปี ในปี 2018 บริษัทจึงได้เริ่มพัฒนารถยนต์รุ่นพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสดังกล่าว ล่าสุด รถยนต์คันดังกล่าวได้เปิดตัวแล้วในชื่อ Porsche 911 Speedster ซึ่งร่วมพัฒนาขึ้นโดย Porsche Motorsport เป็นครั้งแรก โดยจุดเด่นคือการสานต่อตำนานของตัวถัง Speedster พร้อมเสริมเขี้ยวเล็บด้วยการรีดน้ำหนัก และยกขุมพลังของ GT3 RS มาใช้

ตัวถังของ Porsche 911 Speedster แปลกตาจากเจ้าชายกบทั่วไป เพราะผ่านการหั่นหลังคา และกระจกหน้าต่างให้เตี้ยลงมาจากรุ่นปกติ เสริมด้วยหลังคาผ้าแบบถอดได้ด้วยมือ เนื่องจากเน้นเรื่องการรีดน้ำหนัก ล้อเป็นแบบน็อตล็อคกลางพ่นสีดำ Satin Black ขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยาง Ultra High Performance

ฝากระโปรงหน้า – หลัง และแก้มคู้หน้า ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนกันชนหน้า – หลังทำจาก polyurethane น้ำหนักเบา และแนวคิดรีดน้ำหนักยังลามเข้าไปในห้องโดยสาร ด้วยการใส่แผงประตูน้ำหนักเบา, ตาข่ายเก็บของแผงประตู และถอดแอร์ออก แต่อย่างหลังสุดสามารถสั่งติดตั้งกลับได้ฟรี

การตกแต่งภายในของ Porsche 911 Speedster มากับหนังสีดำ พร้อมเดินด้ายสีแดงรอบคัน รวมไปถึงแดชบอร์ด สีแดงยังปรากฏในหลายจุดทั้งมือเปิดประตูด้านใน และจุดระบุ 12 นาฬิกาบนพวงมาลัย GT Sport ปิดท้ายด้วยการติดชื่อ Speedster บนพนักพิงศีรษะ, หัวเกียร์ และกันเตะประตูคาร์บอนไฟเบอร์

ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซินใช้ร่วมกับ GT3 และ GT3 RS แบบ 6 สูบนอน ขนาด 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 502 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 469 นิวตันเมตร ลากรอบได้สูงสุด 9,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0 – 96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 309 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แชสซีส์ใช้ร่วมกับ GT3 เช่นกันจึงได้อานิสงส์ระบบบังคัยเลี้ยว 4 ล้อ และจุดแท่นเครื่องใหม่ ที่พัฒนามาเพื่อความแม่นยำในการขับขี่โดยเฉพาะ ระบบเบรกอัพเกรดด้วย PCCB หรือ Porsche Ceramic Composite Brake ที่เบากว่าเบรกปกติ ด้านน้ำหนักตัวคงเหลือ 1,465 กิโลกรัม ซึ่งการเลือกใช้เกียร์ 6 MT นั้น ส่วนหนึ่งคือน้ำหนักเกียร์ลูกนี้ที่เบากว่า เกียร์ 7 MT 4 กิโลกรัม และ เกียร์ PDK 18 กิโลกรัม

Porsche 911 Speedster เปิดตัวแล้วในงาน New York Auto Show 2019 และมีกำหนดการเปิดรับจองในวันที่ 7 พฤษภาคม 2019 โดยจะผลิตจำนวนจำกัดทั่วโลกเพียง 1,948 คัน ด้านกำหนดการส่งมอบคาดว่าจะถึงมือลูกค้าในสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2019

ที่มา: Porsche