วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม 2009 โีรงแรม Aetas Bangkok ซ.ร่วมฤดี

Nissan ประเทศไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรถรุ่นใหม่ เป็นก้าวที่สามแห่งปี 09 หลังจากที่ได้แนะนำ New Teana และ Navara Calibre เกียร์อัตโนมัติไปก่อนหน้านี้ และในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ก็ถึงคิวของรถยนต์นั่งขวัญใจวัยทำงานและคนเริ่มมีครอบครัวอย่าง Tiida เสียที

 

 

Nissan สามารถสร้างชื่อรถรุ่นนี้ให้เป็นที่รู้จักกันในแง่ของความกว้างขวางสะดวกสบายของห้องโดยสาร ซึ่งมีความยาวเทียบชั้นได้กับรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ แม้ในช่วงแรกจะมีปัญหากับการสื่อสารให้ผู้คนเข้าใจว่า Tiida เป็นรถที่อยู่ในระดับสูงกว่า Sub-compact เจ้าอื่นเช่น Honda Jazz และ Toyota Yaris จนทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเป็นรถที่ราคาสูงเกินตัวไปบ้าง

 

แต่ในช่วงปี 2008 เป็นต้นมา ด้วยการเปิดตัวรถรุ่น E20 ที่มีค่าตัวถูกลงจนน่าคบหามากขึ้น สนับสนุนด้วยการโปรโมตอย่างต่อเนื่อง ทั้งการดึงคุณปลื้มมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ Tiida Hatchback ต่อจากนั้นก็ปรับรุ่นซีดานให้ใช้ชื่อว่า Tiida Latio เพื่อสร้างความแตกต่างในการทำตลาด

จากนั้นการออกโฆษณาชุด Think about your love ones ของรุ่น 4 ประตู Latio ก็ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของรุ่น 4 ประตูโดดเด่นขึ้น แถมด้วยการเปิดตัว Latio B ที่มีราคาเริ่มต้นห้าแสนกลางๆ จนสามารถเรียกความสนใจจากผู้ที่กำลังจะซื้อรถระดับ B Segment ได้ดียิ่งกว่าเดิม ทั้งหมดนี้ทำให้รุ่น 4 ประตูสร้างยอดขายได้เท่ากับรุ่นแฮทช์แบ็คทั้งๆที่ในช่วงแรกมีเสียงวิจารณ์เรื่องรูปทรงที่ไม่ลงตัว ปิดท้ายด้วยการกระตุ้นตลาดให้กับรุ่น 5 ประตูอีกครั้งด้วยสามพี่น้องวง Vie Trio กับรุ่น Hatchback

 

การประชาสัมพันธ์ทั้งหมดนี้ เป็นไปตามแผนการกำหนดตลาดให้กับ Tiida ทั้ง 2 ตัวถังที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยรุ่น 5 ประตู จะเน้นการทำตลาดกลุ่มลูกค้าวัยเริ่มทำงานที่ต้องการรถขนาดไม่โต มีความคล่องตัวสูง มีความสะดวกสบายจนสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ในขณะที่รุ่น 4 ประตู มุ่งเน้นลูกค้ากลุ่มที่เริ่มมีครอบครัว ต้องการรถที่มีบุคลิกสุขุม และอบอุ่น แนวคิดนี้ยังถูกนำมาใช้ต่อกับ Tiida Minorchange ใหม่เช่นกัน

 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Nissan ได้คอยศึกษาการตอบสนองจากบรรดาผู้ใช้รถในโลกไซเบอร์ และสามารถนำมาซึ่งบทสรุปในการเปลี่ยนแปลงในรถรุ่น Minorchange ที่จะสามารถแก้ไขจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ให้ดีขึ้น และเสริมภาพลักษณ์ที่จะผลักดัน Tiida ให้มีความแตกต่างในการทำตลาดจากรถ Sub-compact ยี่ห้ออื่นอย่างชัดเจน แต่ยังแทรกกลางอยู่ระหว่างรถนั่ง B Segment และ C Segment ได้อย่างลงตัว

Nissan ตั้งเป้าการจำหน่ายสำหรับ Tiida ไมเนอร์เชนจ์นี้เอาไว้ที่ 7,000 คันภายใน 1 ปี หรือ 583 คันต่อเดือนโดยเฉลี่ย แ้ล้วอะไรที่จะช่วยให้ Nissan มั่นใจได้ว่ายอดขายระดับนี้จะไม่เกินความจริง? ลองอ่านต่อจากนี้ไป

 

Minorchange. Change what?

 

สำหรับรุ่น 5 ประตูนั้น ภายนอก มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

1. โคมไฟหน้า (หมายเหตุ :รุ่น 1.8 ตัวท้อป ยกเลิกไฟหน้าแบบซีน่อน และหันมาใช้ไฟฮาโลเจนแบบเดียวกับรุ่นอื่นๆ)
2. กันชนหน้า
3. กระจังหน้าลายใหม่ที่ละม้ายคล้ายคลึงกับรถรุ่น Murano ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยโครเมียมเพื่อทำให้ด้านหน้าของรถดูเหมือนใหญ่ขึ้นและให้ความรู้สึกที่หรูหรา ในขณะที่รุ่นก่อนหน้านี้จะออกไปทางแนวสปอร์ตวัยรุ่นกว่า
4. ไฟเลี้ยวแก้มข้าง เปลี่ยนจากทรงเหลี่ยมเป็นทรงรี

5. ไฟท้ายใหม่ที่มีมิติและเป็นสันนูนขึ้นมากกว่าเดิม
6. กันชนหลังเปลี่ยนใหม่เพื่อให้รับกับรูปทรงของไฟท้ายที่เปลี่ยนไป

แถมด้วยข่าวดีสำหรับคนชอบรถสีแปลก รุ่น 5 ประตูจะมีโทนสีใหม่ ส้มเมทัลลิกมาให้เลือก และเท่าที่เห็นจากตัวรถจริง ดูแปลกตาแบบไม่แสบสันต์จนเกินไปนัก ถ้านำมาจอดข้างรถสีเหลืองอมเขียวที่เคยมีขายในล็อต E10 น่าจะทำให้คนแถวนั้นอยากกินน้ำมะนาวกับน้ำส้มปั่นไม่มากก็น้อย

 

 

 

ส่วนรุ่น 4 ประตูนั้น ภายนอก มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้

1. โคมไฟหน้า
2. กันชนหน้า
3. กระจังหน้าลายใหม่ที่เหมือนกับของรุ่น 5 ประตู แต่สีของกระจังหน้าจะเป็นสีเทาที่โทนอ่อนกว่า
4. ไฟเลี้ยวแก้มข้าง เปลี่ยนจากทรงเหลี่ยมเป็นทรงรี

เพิ่มโทนสีเทาเมทัลลิก ที่ดูเคร่งขรึม แต่เงางามภายใต้แสงที่สาดส่อง ชวนให้พาเข้าคาร์แคร์ขยันลงแว็กซ์เป็นยิ่งนัก
(รุ่น 5 ประตูก็มีสีนี้ให้เลือกนะ)

 

 

สำหรับภายใน จุดที่สังเกตได้ทันทีที่ก้าวเข้าไปนั่งคือแผงแดชบอร์ดส่วนกลางในรุ่น 1.6G และ 1.8G ซึ่งมีการคาดแผงสีเงินตามแนวตั้ง ไล่ตั้งแต่ช่องแอร์ลงมาจนครอบคลุมแผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ ตำแหน่งของวิทยุติดตั้งไว้ตำกว่าปกติเล็กน้อย พร้อมทั้งได้ช่องเก็บของตรงกลางซึ่งมีฝาปิดขนาดใหญ่ ใช้วิธีกดเพื่อให้กลไกสปริงดันเปิด ทั้งหมดนี้ทำให้หน้าตาโดยรวมน่าพิศมัยขึ้นมากกว่ารุ่นเดิมที่ค่อนข้างจะดูเรียบง่ายไปนิด โดยในรุ่น 5 ประตู 1.6G และ 1.8G จะเน้นโทนภายในสีดำอย่างที่เคยใช้มาในรุ่นเก่า

 

 

ส่วนรุ่น4 ประตู จะมาในโทนสีครีมคัสตาร์ด หรูหรา ยิ่งในรุ่น 1.6 มีลายไม้สีตัดกันได้อย่างลงตัว
(เริ่มรู้สึกอยากกินคัสตาร์ดดีๆสักถ้วยละทีนี้)

 

 

 

ที่หน้าปัด เปลี่ยนหน้าตาใหม่มาใช้พื้นขาวแทนพื้นดำแบบเดิม สังเกตจอสีส้มทางด้านขวาให้ดี แล้วจะพบว่ามีมาตรวัดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มเข้ามาให้

 

ประการต่อมา ในรุ่น G ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 4 หรือ 5 ประตู เครื่อง 1.6 หรือ 1.8 ลิตรก็ตาม จะได้เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติที่แสดงผลเป็นจอดิจิตอลมาใช้ นับว่าเป็นการยกเอาอุปกรณ์ที่มักพบแต่ในรถระดับ Compact มาใส่ในรถที่มีราคาใกล้เคียงรถระดับ Sub-compact โดยที่ Latio G น่าจะเป็นรถยนต์นั่งที่มีแอร์ดิจิตอลอัตโนมัติที่ราคาถูกที่สุดในตลาดรถยนต์ขณะนี้

 

 

ระบบเครื่องเสียง จากรุ่นเดิมที่เป็นแบบแผ่นเดียว เล่น MP3 ไม่ได้ ในที่สุด Nissan ก็จับเครื่องเสียงที่มี MP3 พร้อมช่อง AUX มาใส่ Tiida ให้ครบทุกรุ่นยกเว้น Latio B นอกจากนี้หากเป็นรุ่น G เครื่องเสียงดังกล่าวจะถูกต่อเชื่อมเข้ากับพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ให้ผู้ขับสามารถควบคุมเครื่องเสียงจากพวงมาลัยได้อีกต่างหาก

รถรุ่น Hatchback 1.6S, Latio 1.6M และ Latio 1.6B ซึ่งไม่มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ จะใช้วิธีปรับค่าต่่างๆด้วยการหมุนลูกบิดเช่นเดียวกับรถรุ่นเดิม และมีแดชบอร์ดตรงกลางเหมือนกับรถรุ่นเดิมดังรูปข้างล่าง

 

 

 

ส่วนรายละเอียดทางด้านเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง Nissan Tiida Minorchange ยังคงใช้เครื่องยนต์ HR16DE 109 แรงม้า และ MR18DE 126 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดเกือบทุกรุ่น ยกเว้น Latio 1.6B M/T

 

 

 

How much is it?

สำหรับราคาที่ Nissan ตั้งไว้ให้กับ Tiida Minorchange นี้ จัดว่าเพิ่มขึ้นจากรุ่นเก่าตั้งแต่ 5,000-16,000 บาท ยกเว้นรุ่น 1.8 ที่น่าประหลาดใจว่าทำไม Nissan ตรึงราคาไว้เท่าเดิม ทำให้ส่วนต่างระหว่างรุ่น 1.6G 5dr และ 1.8G 5dr ในขณะนี้เหลือเพียง 37,000 บาทเท่านั้น

Tiida Latio (4 ประตู)
รุ่น B เกียร์ธรรมดา – 564,000 บาท
รุ่น B เกียร์อัตโนมัติ – 594,000 บาท
รุ่น M เกียร์อัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย/ ABS  – 681,000 บาท
รุ่น G  เกียร์อัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย/ ABS  -737,000 บาท

Tiida Hatchback
รุ่น S เกียร์อัตโนมัติ  – 688,000 บาท
รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย/ ABS – 762,000 บาท
รุ่น 1.8G เกียร์อัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย/ ABS – 799,000 บาท

 

 

 

นับเป็นความพยายามในการต่อวีซ่าให้กับ Tiida ของ Nissan ที่น่าสนใจ ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์ในบางรุ่นเข้าไปจนน่าจะสามารถลดเสียงค่อนขอดว่าอุปกรณ์ไฮเทคน้อยไปนิดลงได้ ในขณะที่ใครที่ไม่สนความหรูหรา ก็ยังมีรุ่นที่ราคาเป็นมิตรกว่าให้คบหากันได้ให้เลือก

Headlightmag ยังต้องรอคิวในการทดสอบอีกสักพักเพื่อที่จะได้ข้อสรุปมาบอกเล่ากันต่อ ณ ที่นี้ว่าของเก่าที่ดีอยู่แล้ว ยังดีอยู่หรือไม่ และของใหม่ที่เพิ่มหรือเปลี่ยนเข้ามา ทำให้รถน่าคบขึ้นเพียงไร ใครที่สนใจ Tiida Minorchange และรอมานานแสนนานแล้ว วันนี้ท่านสามารถติดต่อขอทดลองขับ และขอรับข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้เลย หรือพยายามหาจังหวะไปช้อปปิ้งหรือทำธุระให้ตรงกับวันและสถานที่ดังต่อไปนี้

 

 

 

พิเศษสุด: โปรโมชั่นเฉพาะในช่วงเปิดตัวทั้ง ทีด้า และ ทีด้า ลาติโอ   อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 1.99% ( เงินดาวน์  20%, ระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน) ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ( ประกันภัยซ่อมห้าง Premium Protection Insurance)