Nissan เป็นค่ายรถยนต์ลูกครึ่งฝรั่งเศสที่กล้าพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าสำหรับตลาด
บุคคลทั่วไปจนกลายเป็น Nissan Leaf ที่ยังคงครองยอดขายรถไฟฟ้าสูงที่สุดในโลก
แต่ Nissan ก็ยังไม่กล้าทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยี Hybrid มากนักเนื่องจากพวกเขามอง
ว่าตลาดรถไฟฟ้าน่าจะมีอนาคตสดใสกว่า

Nissan Gripz Concept รถต้นแบบขุมพลัง Series Hybrid (E-Power)

Nissan Gripz Concept รถต้นแบบขุมพลัง Series Hybrid (E-Power)

เวลาเปลี่ยนไป ใจคนก็เปลี่ยนแปลงไปได้ เมื่อ Nissan Motor ได้เข้าครอบครองกิจการ
Mitsubishi Motors ในอัตราหุ้นส่วนร้อยละ 34 ก็ทำให้ Nissan สามารถนำทรัพยากร
และเทคโนโลยีจาก Mitsubishi มาต่อยอดกระทำการบางอย่างได้

ผู้บริหารระดับสูงจาก Nissan ได้ยืนยันแก่ AutoExpress แล้วว่า Nissan ขอกลับหลัง
หันมาพัฒนาเทคโนโลยี Plug-in Hybrid มากขึ้นนอกเหนือจากการพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้า

Takashi Shirakawa ผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา Nissan Europe ก็บอกใบ้ว่า
Nissan อาจนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid จาก Mitsubishi Outlander PHEV
รถรุ่นขายดีที่สุดของ Mitsubishi ในยุโรปมาประยุกต์กับรถยนต์ Nissan สำหรับตลาด
ยุโรปด้วย

2016_12_28_Mitsubishi

Shirakawa อธิบายเหตุว่าทำไม Nissan จะต้องหันหลังกลับไปยัง Plug-in Hybrid
ก็เพราะว่าเทคโนโลยี Hybrid มันจะเป็นสะพานเชื่อมไปยังตลาดรถไฟฟ้าอันเป็นเทคโนโลยี
ที่ Nissan มองว่ามันคืออนาคต

กระบวนการพัฒนายังอยู่ในขั้นตอนพูดคุยเท่านั้น ไม่ได้มีการลงมือพัฒนา แต่สำหรับ
รถยนต์รุ่นต่อไปก็น่าจะได้เห็นเทคโนโลยีแบบเดียวกับ Mitsubishi Outlander PHEV

Shirakawa ทิ้งท้ายว่าลูกค้าทั่วไปมีความกระตือรือร้นที่จะเป็นเจ้าของ EV ขนาดเล็กซึ่ง
ขณะนี้ทางบริษัทกำลังคิดวิธีแก้ปัญหาสำหรับรถไฟฟ้าเจเนเรชั่นต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Mitsubishi PHEV

ความพิเศษของเทคโนโลยี Mitsubishi PHEV ที่ทำให้ Nissan ต้องสนใจและสามารถ
นำพายอดขาย Outlander PHEV ไปสู่ความนิยมในยุโรปได้ เพราะมันมีโหมดการขับเคลื่อน
ถึง 3 โหมด ได้แก่

1.โหมด EV สามารถวิ่งได้ระยะไกลสุด 55 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตร
2.โหมด Series Hybrid แบบเดียวกับ Nissan Note E-Power คือให้เครื่องยนต์
ปั่นกำลังไฟฟ้าลงสู่แบตเตอรี่ โดยให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่สร้างพลังขับเคลื่อน
3.โหมด Parallel Hybrid ที่เครื่องยนต์สันดาปทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า

ที่มา : AutoExpress