Nissan GT-R R35 นอกจากจะเป็นตำนานรถสปอร์ตที่คนรักรถต้องพูดถึงในอนาคต แต่ Nissan GT-R ยังเป็นผู้นำในการกล้าแสดงวิสัยทัศน์การพัฒนาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาจนไปถึงการเปิดเผยรถต้นแบบโปรโตไทป์ก่อนการเปิดตัวจริงในปี 2007 พร้อมทั้งมีเรื่องราวในการพัฒนารถยนต์ที่มีให้ได้ยินเป็นระยะ ราวกับว่ารถคันนี้มีสถานะคล้าย ๆ ไอดอลคนหนึ่งที่มีวิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ

(Nissan GT-R Concept ปี 2001)

หากย้อนกลับไปยังปี 2001 ซึ่งเป็นปี Renault และ Nissan ร่วมเป็นพันธมิตรกันไปได้แค่เพียง 2 ปีเท่านั้น Nissan ได้เปิดตัว GT-R Concept ที่งาน Tokyo Motorshow 2001 ด้วยแนวคิดการออกแบบ GT-R แห่งยุคทศวรรษที่ 21 เมื่อย้อนกลับไปภาพความทรงจำช่วงนั้น สามารถสรุปได้ว่า รถต้นแบบที่ทุกคนเห็นในวันนั้น มันก็คือแบบดีไซน์เกือบขั้นสุดท้ายที่ใกล้เคียงกับรถคันจริงในทุกวันนี้

Nissan GT-R Concept ปี 2001 มีบุคลิกเด่นที่ทำให้ทุกคนจดจำตรงที่ ดีไซน์ด้านหน้า และดีไซน์ด้านท้าย ซึ่งน่าจะเป็นดีไซน์ที่ผู้คนให้การตอบรับที่ดี จนนำไปสู่การพัฒนาเป็น Nissan GT-R Proto เผยโฉมเมื่อปี 2005 ที่มีรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับ Nissan GT-R ปัจจุบันราว 85% เพราะถ้าหากลูกค้าในยุคนั้นไม่ชื่นชอบหน้าตาแบบ GT-R Concept จริง ทางทีมพัฒนาก็คงจะไม่กล้าสานต่อดีไซน์ในลักษณะนั้นแน่ ๆ

(Nissan GT-R Proto ปี 2005)

และเมื่อ Nissan ได้ค้นพบวิธีการแห่งความสำเร็จในการพัฒนา GT-R ด้วยตนเองแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ว่า Nissan ก็จะนำสูตรสำเร็จดังกล่าวกลับมาใช้ในการพัฒนา All NEW Nissan GT-R R36 อีกครั้ง

Alfonso Albaisa รองประธานอาวุโสฝ่ายออกแบบ Nissan Motor ยืนยันว่า Nissan จะเผยโฉมรถต้นแบบ ก่อนที่จะเปิดตัว All NEW Nissan GT-R R36 เวอร์ชันผลิตจริง เพียงแต่ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะมีการเผยโฉมรถต้นแบบถึง 2 เวอร์ชันเหมือนกับ Nissan GT-R ในปัจจุบันหรือไม่

(Nissan GT-R R35 ในปัจจุบัน)

อย่างไรก็ตาม Albaisa ยืนยันว่า Nissan GT-R50 ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับ All NEW GT-R R36 แต่อย่างใด มันถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จ Nissan GT-R และ Italdesign ครอรอบ 50 ปีเท่านั้น

All NEW Nissan GT-R R36 กำลังอยู่ในช่วงขั้นต้นของการพัฒนา และยังไม่สรุปดีไซน์ขั้นสุดท้าย แต่ยังยืนยันว่ายังคงบุคลิกดุกร้าวในแบบรุ่นปัจจุบัน และต้องจับตาว่าจะติดตั้งขุมพลังชนิดใดที่จะทำให้กลายเป็นรถ Super Sport ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก

ที่มา : Indianautosblog