All NEW Lexus LM 300h

ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU)

  • LM 300h (Executive 7-Seater)  5,500,000 บาท
  • LM 300h (Executive 4-Seater)  6,500,000 บาท
 

มาพร้อมการรับประกัน Warranty ดังนี้

  • รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • รับประกันแบตเตอรี่ Hybrid นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • รับประกันแบตเตอรี่ 12V นาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
  • รับประกันตัวถัง นาน 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 1,000 – 50,000 กิโลเมตร


Dimension มิติตัวถัง

  • ยาว  5,040 มิลลิเมตร
  • กว้าง  1,850 มิลลิเมตร
  • สูง  1,945 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ wheelbase  3,000 มิลลิเมตร
  • ความจุถังน้ำมัน 65 ลิตร

Engine เครื่องยนต์

LM 300h

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2AR-FXE 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,494 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 90.0 x 98.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบ/นาที

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Motor 2 ตัว 650V มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้า 143 แรงม้า 270 นิวตันเมตร และ มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหลัง 68 แรงม้า 139 นิวตันเมตร

เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังรวม 197 แรงม้า แบตเตอรี่ Nickel-Metal Hydride 6.5 Ah 244.8V 204 Cell ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four

แชสซีส์ และ งานวิศวกรรม Chassis – Engineering

  • เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 152 แรงม้า 206 นิวตันเมตร
  • มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Motor 2 ตัว 143 แรงม้า / 68 แรงม้า
  • แบตเตอรี่ Ni-MH 6.5 Ah 224.8V 204 Cell
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four
  • ช่วงล่างด้านหน้า MacPherson Strut
  • ช่วงล่างด้านหลัง Double Wishbone
  • ช็อคอัพแบบสวิงวาล์ว Swing-Valve
  • ระบบเบรกด้านหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน 296 มม.
  • ระบบเบรกด้านหลัง ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน 301 มม.

Exterior ภายนอก

  • ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ALM SPAT LEXUS
  • ยาง ขนาด 225/60 R17
  • พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPAS
  • กระจกรอบคันตัดแสง UV พร้อมระบบดูดซับเสียง
  • หลังคา Sunroof คู่ หน้า-หลัง
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
  • ไฟหน้า Projector Lens 3-LED
  • ไฟหน้าแบบปรับองศาส่องสว่างแบบอัตโนมัติ
  • ไฟส่องมุมหน้ารถ Cornering Lamps
  • ระบบปรับไฟหน้า สูง-ต่ำ Adaptive HighBeam System (AHS)
  • ไฟ Daytime Running Lights
  • ไฟตัดหมอก หน้า-หลัง
  • ไฟเบรกดวงที่ 3

Interior ภายในห้องโดยสาร

  • ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ / ทูโทน ดำ-ขาว
  • มาตรวัดเรืองแสง Optitron Meter
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
  • พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง ตกแต่งด้วยลายไม้
  • พวงมาลัยปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง ตกแต่งด้วยลายไม้
  • กระจกแต่งหน้า พร้อมไฟส่องสว่าง ด้านหน้า – ด้านหลัง
  • ช่องเก็บของคอนโซลกลาง พร้อมช่องเชื่อมต่อ AUX / USB
  • ม่านบังแดด ประตูด้านหลัง
  • ม่านบังแดด กระจกหน้าต่างด้านหลัง
  • ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 3-Zones
  • ระบบปรับอากาศ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง แยกส่วน พร้อมสวิตซ์ควบคุม
  • ระบบกรองอากาศ Clean Air Filter
  • ระบบปรับสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร Nano-e
  • ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Ambient Light ปรับได้ 16 สี
  • ประตูสไลด์ไฟฟ้า ซ้าย-ขวา
  • ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า

Seating เบาะนั่ง

  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Semi-Aniline Leather
  • วัสดุเสริมความนุ่มของเบาะ Low Resilience Urethane
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ฉากกั้นห้องโดยสารด้านหลัง แบบพิเศษ Exclusive Partition
  • กระจกกั้นห้องโดยสารด้านหลัง แบบ Smart Mirror ปรับใส – ฝ้า
  • นาฬิกาแบบเข็ม Lexus Premium Analog Clock
  • เบาะนั่งด้านหลังแบบพิเศษ Executive Rear Seats
  • เบาะนั่งด้านหลัง ปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง
  • ระบบอุ่น เบาะนั่งด้านหลัง Heated Seats
  • ระบบระบายอากาศ เบาะนั่งด้านหลัง Ventilated Seats
  • ระบบเบาะนวด Massage Relaxation Seats
  • เบาะเสริมรองรับต้นขา Ottoman Seats
  • สวิตซ์ปรับตำแหน่งมาตรฐานเบาะนั่งด้านหลัง ควบคุมได้จากคนขับ และ ด้านหลัง
  • ที่วางแขน สำหรับที่นั่งด้านหลัง พร้อมช่องเก็บอุปกรณ์อเนกประสงค์
  • ตู้เก็บความเย็นส่วนตัว Personal Refridgerator


Entertainment ระบบความบันเทิง

  • หน้าจอกลาง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
  • รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay / Android Auto
  • ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charging
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
  • ระบบควบคุมส่วนกลาง Remote Touch Pad
  • ระบบแผนที่นำทาง Navigation System
  • หน้าจอ Multimedia ด้านหลัง ขนาด 26 นิ้ว
  • เครื่องเล่นแผ่น Blu-ray
  • ระบบควบคุมการทำงานส่วนกลางห้องโดยสารด้านหลัง Rear Central Control
  • ระบบเครื่องเสียง Mark Levinson Surround Sound 19 ลำโพง


Safety ระบบความปลอดภัย

  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบจัดการรวมไดนามิคของรถ VDIM ประกอบด้วย
    • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
    • ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS
    • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
    • ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
  • ระบบป้องกันก่อนการชน Pre-Crash Safety System (PCS)
    • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System
  • ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง Parking Support Brake
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control : All-Speed
  • ระบบติดตามช่องทางวิ่ง Lane Trace Assist (LTA)
  • ระบบเตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Warning
  • ระบบช่วยเปลี่ยนเลน Lane Change Assist
  • ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Monitor
  • ระบบเตือนมุมอับท้ายรถ ขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
  • กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ EC Mirror
  • ระบบกระจกมองหลังแบบกล้อง Digital Rear View Mirror
  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
    • คู่หน้า 2 ตำแหน่ง
    • ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
    • ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง
    • หัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Parking Assist System
  • กล้องรอบคัน 360 องศา พร้อมระบบ Panoramic 3D

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 2 สี

  • สีดำ Black
  • สีขาวมุก White Pearl Crystal Shine

ภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 2 สี

  • สีขาว Semi-Aniline Leather White
  • สีดำ Semi-Aniline Leather Black

ผลทดสอบ อัตราเร่ง Lexus LM 300h E-CVT E-Four 

Acceleration

  • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h : 11.23 วินาที
  • อัตราเร่ง 80 – 120 km/h : 7.46 วินาที

Top Speed

  • ความเร็วสูงสุด Top Speed :  183 km/h @ 5,700 rpm (-)

Lexus LM 300h | Executive 4-Seater FIRST CLASS  6,500,000 บาท

Short Review

สมราคา ถ้าคุณได้ลองนั่ง !

แว้บแรก ใช่ครับ เมื่อเห็นราคาของ Lexus LM 300h รุ่น Executive 4-Seater ปาเข้าไป 6,500,000 บาท ในใจผมก็คิด เห้ย บ้าไปแล้ว ! จะแพงไปถึงไหน ถือว่าแพงที่สุดในบรรดารถตู้ MPV จากโรงงานที่ขายในประเทศไทย มันก็แค่ Toyota Alphard / Vellfire มาแปะตรา Lexus เท่านั้นเอง มันจะแพงอะไรนักหนา ในใจก็คิดแต่คำว่า แพง แพง แพง

แต่…ความคิดของผมนั้นเปลี่ยนไปทันที เมื่อได้มาลองนั่งเจ้า Lexus LM 300h รุ่น Top of the line – Executive 4-Seater คันนี้ ผมรู้สึกว่าทุกอย่างมันช่างลงตัว และ เหนือกว่ารถผู้บริหารที่คาดคิดเอาไว้เยอะ มันสะดวกสบายยิ่งกว่า Mercedes-Benz S-Class / BMW 7-Series / Audi A8 หรือแม้กระทั่งรุ่นพี่ Flagship อย่าง Lexus LS ในค่ายของตัวเอง หากคุณมองหารถผู้บริหารที่นั่งโดยสารแล้วผ่อนคลายอย่างแท้จริง แต่ในบริบทว่ามีคนขับรถให้ Lexus LM 300h จะตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะทั้งภาพลักษณ์ และ การใช้งาน

Lexus LM 300h หรือ ชื่อเต็มจริงๆของมันก็คือ Luxury Mover เป็นครั้งแรกของ Lexus ที่ทำรถตู้แบบ MPV ออกมา โดยใช้พื้นฐานของ Toyota Alphard / Vellfire ที่เราคุ้นเคยกันดี ในรุ่น Top of the line รถตู้คันใหญ่ขนาดนี้ แต่ด้านหลังมีเพียง 2 ที่นั่งเท่านั้น ! ใช่ครับ จากเดิมรถตู้ด้านหลังจะเป็นเบาะ 2 หรือ 3 แถว แต่กับ LM 300h จะถูกปรับให้เหลือเพียง 2 ที่นั่งเท่านั้น เสมือนเป็น FIRST CLASS CABIN ในสายการบินเลยทีเดียว

เบาะนั่งด้านหลังแบบ FIRST CLASS หุ้มด้วยหนังผิวสัมผัสเนียนนุ่ม Semi-Aniline Leather เสริมด้วยโฟมยูรีเทน AdaptiPedic by Woodbridge ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในรุ่นนี้ ตัวยูรีเทนโฟมจะลดแรงกด และ ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีขึ้นกว่าเบาะธรรมดาทั่วไป นั่งจริงแล้วมันก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆนะครับ ว่ามันนุ่ม และ ไม่เมื่อยเลยเวลานั่งนานๆเทียบกับเบาะทั่วไป บวกกับช่วงล่างที่ใช้ช็อคอัพแบบสวิงวาล์ว Swing Valve ทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง ทำให้มันต่างจาก Alphard / Vellfire ปกติไปอีกหน่อย ซับแรงสะเทือนรอยต่อถนน หรือ การจัมพ์คอสะพานได้นุ่มนวลขึ้น

เบาะนั่งด้านหลังปรับด้วยไฟฟ้า ทั้งจากปุ่มด้านข้างเบาะ และ จากหน้าจอ Touchscreen กลาง Rear Seat Center Control มีฟังก์ชั่นนวดให้เลือกถึง 7 รูปแบบ นวดทั้งตัว หรือ แยกส่วนได้ เช่น Shoulder, Lumbar, Full Body ปรับระดับความแรงได้อีก นอกจากนี้ยังมีส่วนรองน่อง Power Ottoman ปรับด้วยไฟฟ้า ตัวเบาะรองหลังปรับได้เกือบจะนอนราบไปเลยทีเดียว หากกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยเวลานั่งโดยสาร Lexus ก็ออกแบบชุดเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด จากด้านหลังบริเวณเสา D ครอบคลุมการใช้งานเข็มขัดนิรภัยทั้งตอนปรับเอนนอน หรือ นั่งตรง ไม่ต้องกังวลหากเวลาเกิดอุบัติเหตุ จะมีติดอยู่เล็กน้อยก็ตรงที่เบาะนั่งด้านหลัง ไม่สามารถปรับเลื่อนหน้า-ถอยหลังได้ แต่ทดแทนด้วยการปรับเอน และ เหยียดนอนได้เกือบจะนอนราบ 180 องศา

เมื่อเตรียมลงจากรถ จะมีปุ่ม Standard Position ให้เรากด ซึ่งถ้าเรากดปุ่มนี้เพียงครั้งเดียวแบบ One-Touch ตัวเบาะนั่งจะปรับมาให้ในตำแหน่งมาตรฐานในทันที แยกส่วนกันทั้งซ้าย และ ขวา อีกทั้งยังมีปุ่มนี้สามารถควบคุมได้จากด้านหน้า ในกรณีที่คนขับรถต้องการปรับเบาะให้อยู่ในตำแหน่งเดิม เมื่อผู้โดยสารด้านหลังลงจากรถไปแล้วอีกด้วย เรียกได้ว่า ศึกษาการใช้งานจริงมาเป็นอย่างดี เบาะคนขับมี Memory ให้ 3 ตำแหน่งแล้ว เบาะนั่งด้านหลังก็ต้องไม่น้อยหน้า มีฟังก์ชั่นบันทึกความจำให้ด้วยเช่นกันอีก 3 ตำแหน่ง ทั้งเบาะซ้าย และ เบาะขวา

นอกจากนี้ตัวเบาะยังมีฟังก์ชั่นระบายอากาศ และ อุ่นร้อน สามารถปรับความแรงได้ ตัวหน้าจอกลาง Touchscreen ที่ใช้ควบคุม สามารถควบคุมระบบปรับอากาศ, ปรับเบาะ, ควบคุมระบบเครื่องเสียง, ไฟส่องสว่าง Personal Light ที่มี Dimmer ให้ถึง 4 ระดับ ปรับองศาการส่องสว่างได้เหมือนบนเครื่องบิน แต่เสียดายที่ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่สามารถปรับได้ถึง 16 สี ไม่สามารถควบคุมจากหน้าจอ Control กลางตรงนี้ได้ ต้องเอื้อมไปปรับที่ชุดควบคุมบนหลังคาแทน

ระบบความบันเทิงโดย Mark Levinson คู่บุญประจำรถ Lexus ที่มีให้มากถึง 19 ลำโพง ควบคุมด้วยเทคโนโลยี Quantum Logic Surround มีเครื่องเล่นแผ่น Blu-ray เสียงโคตรจะสมจริงรอบทิศทาง สมจริงมากจนรู้สึกต่างจากรถทั่วไปที่เราคุ้นเคยกัน ระบบความบันเทิงสามารถแยกส่วนได้ ด้านหน้า – ด้านหลัง มิหนำซ้ำยังมีช่องเสียบหูฟังส่วนตัว และ ช่องชาร์จไฟ USB 2.1A ให้อีก 2 ตำแหน่ง สำหรับที่นั่งทั้ง 2 ฝั่ง เรียกได้ว่า ครบครันทุกความบันเทิงอย่างแท้ทรู หน้าจอด้านหลังขนาดใหญ่โตมโหฬาร ขนาด 26 นิ้ว สามารถเสียบสาย HDMI เอาภาพเคลื่อนไหวขึ้นหน้าจอได้จาก SmartPhone

ที่นั่งด้านหลังถูกกั้นด้วย Privacy Partition ติดตั้งกระจกใสตรงกลาง สามารถปรับความขุ่น ฝ้า-ใส ด้วยระบบไฟฟ้า ! ล้ำสุดๆเลยครับ สามารถสั่งงานล็อคกระจกตัวนี้ ไม่ให้คนขับเปิดได้ด้วยจากปุ่ม Control ด้านหลัง หากเราต้องการความเป็นส่วนตัว มีช่องเก็บรักษาความเย็นให้ตรงกลาง ใส่ขวดน้ำขวด 1.5 ลิตร ได้ถึง 4 ขวด จากการศึกษาการใช้งานรถแบบนี้มาเป็นอย่างดี Lexus ก็ไม่ลืมที่จะมีช่องสำหรับวางกระเป๋ามาให้ผู้โดยสารด้านหลังด้วย ทั้งซ้าย และ ขวา สำหรับคุณผู้หญิง และ คุณผู้ชาย ไม่ต้องวางกับพื้น หรือ หาที่วางที่ยากลำบาก

แต่…ใช่ว่าจะเฟอร์เพ็คไปซะหมด เพราะจากที่ผมลองนั่งกับมันมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ผมค้นพบว่า LM 300h Executive 4-Seater ยังขาดของสำคัญไปอย่างหนึ่ง คือ โต๊ะ ! ใช่ครับ โต๊ะแบบพับเก็บได้ สำหรับเซ็นเอกสาร หรือ วางเอกสาร ทั้งๆที่รุ่น 7 ที่นั่งมีให้ แต่รุ่น 4 ที่นั่งกลับขาดตรงนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

มาที่ส่วนด้านหน้ากันบ้าง ถึงแม้รถแบบนี้จะเน้นนั่งโดยสาร แต่ผมอยากจะเล่าถึงส่วนการขับขี่บ้างจะได้ข้อมูลครบทุกด้าน เครื่องยนต์นั้นถูกยกมาจาก Toyota Alphard แบบยกชุด เบนซิน 2.5 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ พละกำลังรวม 197 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four ตัวเลขอัตราเร่งไม่น่าเกลียดเลยครับ สำหรับรถคันใหญ่โตแบบนี้ อัตราเร่งออกตัว 0-100 km/h อยู่ที่ 11.23 วินาที ไวกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ที่เราเคยทดสอบใน Vellfire 2.5

อัตราเร่งแซง 80-120 km/h ก็ทำได้ระดับที่น่าพึงพอใจ 7.46 วินาที ไวกว่า Vellfire 2.5 เหมือนเช่นเคย ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเท่าที่ลองใช้ดูเฉลี่ยอยู่ประมาณ 12 km/l ในการใช้งานจริง

สรุปภาพรวมจากที่เคยมองว่าโคตรแพง รถอะไรเนี่ย ! แต่พอมานั่งจริง ใช้งานจริง กลายเป็นประทับใจมากครับ ทุกอย่างมันดูลงตัว รายละเอียดต่างๆดูมีการคิดมา วิจัย – สำรวจพฤติกรรมการใช้งานมาเป็นอย่างดี 6,500,000 บาท เทียบกับรถในรูปแบบเดียวกัน เรียกได้ว่าไม่มีคู่แข่งในตลาด และ ไม่มีใครเทียบ แต่ถ้ามองดูที่งบประมาณราวๆ 6 ล้านบาท ก็จะได้รถระดับ Flagship ของค่ายอย่าง Mercedes-Benz S-Class / BMW 7-Series / Audi A8 หากต้องการเน้นที่การนั่งโดยสารด้านหลังเพียงอย่างเดียว Lexus LM 300h จะทำคะแนนนำลิ่ว แต่ถ้าต้องขับด้วยล่ะก็ คงต้องไปทางฝั่งนู้นเสียมากกว่า

แต่ผมยืนยันได้ครับ 6,500,000 บาท กับ Lexus LM 300h ไม่ได้แพงเกินไปเลย กับ ประสบการณ์การนั่งโดยสารระดับ FIRST CLASS แบบนี้ เพราะ ยอดจองตอนนี้เกินกว่า 100 คันไปแล้ว จองตอนนี้ได้ยินแว่วๆมาว่า รับรถราวๆปีหน้าครับ


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/75400.0