สงสัยจะยังคงแค้นเคือง เรื่องที่ Nissan ปรับปรุง GT-R จนเอาชนะตนเอง ในสนามนูร์เบิร์กริง
ในบ้านตัวเองที่เยอรมันได้เป็นผลสำเร็จ  คราวนี้ ปอร์เช เลย ตัดสินใจ ปรับปรุง 911 GT3 อันดุดัน
มากพออยู่แล้ว ให้บ้าระห่ำสุดขีดคลั่ง ด้วยกรรมวิธีลดน้ำหนัก และเพิ่มสมรรถนะกันใหม่อีกระลอก
ออกขายในชื่อ 911 GT3 RS โดยปอร์เช เพิ่งเผยภาพคันจริงออกมาแล้ว เมื่อ 20 สิงหาคม 2009
ที่ผ่านมา และถูกวาง ตำแหน่งการตลาดในฐานะ Racing Version ของ 911 GT3

หัวใจสำคัญในการปรับปรุงสมรรถนะนั้น อยู่ที่การปรับปรุงเครื่องยนต์ บ็อกเซอร์ 6 สูบนอน เพิ่ม
ความจุกระบอกสูบให้ใหญ่โตขึ้น จาก 3.6 ลิตร เป็น 3.8 ลิตร เพื่อช่วยเรียกพละกำลัง และแรงบิด
ให้มาถึงทันเท้าผู้ขับขี่เร็วยิ่งขึ้น และต่อเนื่องยิ่งกว่า

การปรับปรุงดังกล่าว ทำให้พละกำลังของ 911 GT3 RS เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 15 แรงม้า (BHP)
เมื่อเทียบกับ 911 GT3 รุ่นปัจจุบัน เป็น 450 แรงม้า (BHP) ซึ่งแตกต่างจากเครื่องยนต์อื่นใดในโลก
เพราะไม่ต้องใช้ ระบบอัดอากาศใดๆมาช่วยเลย (ประเด็นนี้ พีอาร์ ของ ปอร์เช เยอรมัน จงใจเขียนกัด
Nissan GT-R เต็มๆ เพราะรายนั้นยังต้องพึ่งพา เทอร์โบคู่ อยู่ดี)  นั่นทำให้อัตราส่วนแรงม้า ต่อปริมาตร
ความจุกระบอกสูบ 1 ลิตร อยู่ที่ 118 แรงม้า อีกทั้งปอร์เชยังเคลมว่า พละกำลังสูงขนาดนี้ ก็ยังสามารถ
ขับใช้งานได้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย!

ถ่ายทอดกำลังลงสู่ล้อคู่หลัง ด้วย เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ที่ได้รับการปรับปรุง ทั้ง ด้านน้ำหนักตัว
และอัตราทดเกียร์เสียใหม่ เป็นแบบ Short Ratio เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานรองรับกับแรงบิด
มหาศาลอย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะอยู่บนสภาพถนนแบบไหน และพฤติกรรมการขับของผู้ขับขี่ “ห้าว”
ในระดับใด

เมื่อทำระบบขับเคลื่อนให้แรงขึ้นแล้ว ก็ต้อง ยกระดับระบบกันสะเทือนให้สอดคล้องตามไปด้วย
คราวนี้ เป็นครั้งแรก ที่ปอร์เช ปรับแต่งระบบควบคุมกันสะเทือน PASM (Porsche Active Suspension
Management) ที่ติดตั้งอยู่แล้วใน 911 GT3 มาจูนระบบใหม่ ให้เป็นพิเศษ รวมทั้งระบบ PADM (Porsche
Active Drivetrain Mounts) จุดยึดแท่นเครื่อง ที่สามารถปรับความแข็ง เพิมความยืดหยุ่น และให้ตัว
ได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และรองรับการเคลื่อนตำแหน่งไป-มาระหว่างเครื่องยนต์ และโครงสร้าง
ตัวถังด้านหลังรถ ขณะขับขี่ ในสภาพเส้นทางคดเคี้ยว อย่างดุดัน

ล้อคู่หน้าเป็นล้ออัลลอย 19 นิ้ว สวมด้วยยางขนาด 245/35 ZR 19 ขณะที่ล้อคู่หลัง
ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 19 นิ้ว แต่มีความกว้าง ถึง 12 นิ้ว จะสวมด้วยยางขนาด 325/30 ZR 19
ทั้ง 4 ล้อ ใช้ยางที่ได้รับการออกแบบ และมีค่ากำหนดจากทางโรงงาน ให้ได้สเป็กสอดคล้องกับ
สมรรถนะตามที่ตนกำหนด อีกทั้งยังมีการปรับความกว้างช่วงล้อหน้า และหลังให้กว้างขึ้น
สมดุลกันมากกว่ารุ่นอื่นๆ อีกด้วย

เมื่อสมรรถนะร้อนแรงขึ้นอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ การออกแบบภายนอก เพื่อช่วยจัดการกับ การไหลผ่าน
ของอากาศ ตามหลัก อากาศพลศาสตร์ หรือ Aerodynamic ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะ
การเพิ่มแรงกด (Down force) ในขณะใช้ความเร็วสูงๆ และช่วงการเข้าโค้ง ให้มากขึ้นกว่า GT3 รุ่นปกติ
ปอร์เชจึงพัฒนาสปอยเลอร์แบบปีกหลังใหญ่ ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ น้ำหนักเบา ขณะที่ตัวซัพพอร์ตปีก
ที่ยึดอยู่กับตัวรถ ทำจากอลูมีเนียม รวมทั้งชุด Aero Part รอบคัน ให้กับรถรุ่นนี้เป็นพิเศษ อย่างแตกต่าง
ไปจาก 911 ทุกรุ่นในตระกูล รวมถึงการเสริมบุคลิก ข่มขวัญผู้คนบนท้องถนน ด้วยท่อไอเสียไทเทเนียม
น้ำหนักเบา พร้อมปลอกท่อไอเสียคู่ขนาดใหญ่ ติดตั้งด้านใต้ ตรงกลาง ชุดเปลือกกันชนหลัง
อีกทั้งยังมีการตกแต่งห้องโดยสารในสไตล์ถอดแบบมาจากรถแข่งทางเรียบของยุโรป เป๊ะ!

และเรื่องเล็กน้อย ที่มีส่วนช่วยลดน้ำหนักลงได้ก็คือ ปอร์เช จะมีแบ็ตเตอรีแบบ ลิเธียม ไอออน ให้ลูกค้า
สามารถเลือกติดตั้ง แทนแบ็ตเตอรีแบบตะกั่ว จากโรงงาน ได้เป็นอุปกรณ์สั่งพิเศษ (Optional parts)
ซึ่งจะทำให้น้ำหนักตัวรถ หายไปได้อีกมากกว่า 10 กิโลกรัม!!

ปอร์เชกำหนดราคาขายของ 911 GT3 RS ไว้ที่ 122,400 ยูโร โดยยังไม่รวมภาษีต่างๆ และจะเริ่มต้นส่งรถ
ขึ้นโชว์รูมกัน ในเดือนมกราคม 2010 เป็นต้นไป ส่วนราคาในเมืองไทย โทรไปสอบถามกันเองได้ ที่
AAS Auto Service ถนนวิภาวดีรังสิต

———————————-///————————————-