PSA Group อันประกอบไปด้วยรถยนต์แบรนด์ Peugeot, Citroen, DS และล่าสุด Opel/Vauxhall กลายเป็นกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่อันดับ 2 ในยุโรปต่อจาก Volkswagen Group ที่เริ่มน่าจับตามองขึ้นทุกวัน ด้วยฝีมือการบริหารต้นทุนของ Carlos Tavares : CEO ที่ฝึกปรือกลยุทธ์การหั่นต้นทุนมาจาก Carlos Ghosn จนนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาประยุกต์และพลิกแพลงจน PSA Group กลับมามีผลกำไรและมีกระแสเงินสด เพียงแต่มีคำถามเดียวที่น่าสงสัยคือ PSA Group จะช่วยเสกให้ Opel กลับมามีผลกำไรได้หรือไม่? เพราะที่ผ่านมา Opel มีแต่ยอดขายที่ค่อนข้างน่าพอใจในยุโรป แต่ก็ยังขาดทุนต่อเนื่องอยู่ดี

PSA Group ได้แถลงผลประกอบการประจำปี 2017 โดยจำแนกดังนี้

  • มีรายได้สุทธิ 1,930 ล้านยูโรหรือ 74,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5%
  • มีรายได้รวม 65,000 ล้านยูโรหรือ 250,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%
  • รายได้จากการดำเนินงาน 3,990 ล้านยูโรหรือ 154,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23%
  • สำหรับแผนกรถยนต์ Opel มีรายได้จากการดำเนินงานขาดทุน 179 ล้านยูโรหรือ 7,000 ล้านบาท

ในภาพรวมของ PSA Group ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในการรักษาระดับความมั่นคงของบริษัทถึงแม้ว่า Opel จะเป็นแบรนด์รถรายเดียวที่ยังขาดทุนก็ตาม และยังเป็นตัวเลขขาดทุนที่น้อยกว่าความคาดหวังของ JPMorgan Chase & Co. analyst ถึงครึ่งหนึ่งกันเลยทีเดียว

นับเป็นสัญญาณที่ดีของ PSA Group ที่ตั้งใจก้าวเข้ามาเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจรถยนต์ Opel/Vauxhall ให้กลับมามีผลกำไรจริง ๆ เพราะขนาด PSA Group เพิ่งได้ Opel/Vauxhall เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชายคาอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2017 ก็เริ่มเห็นผลงานกันแล้ว และถ้าพวกเขามีโอกาสบริหารงานเต็มเวลาตลอดทั้งปี ก็น่าเชื่อว่าพวกเราจะได้เห็นแบรนด์ Opel/Vauxhall ไปในทางที่ดีขึ้น

Jean-Baptiste de Chatillon ผู้บริหารฝ่ายการเงิน CFO ของ PSA Group ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงอันทรงพลังกำลังจะเกิดขึ้นแก่ Opel/Vauxhall หลังจากบรรลุข้อตกลงด้านแรงงาน เขามั่นใจว่าแบรนด์รถยนต์จากเยอรมันรายนี้จะกลับมามีกำไรแน่ภายในปี 2020

Evercore ISI market ได้วิเคราะห์ไว้ว่า Opel จะถึงจุดคุ้มทุนภายในปีนี้ และสามารถกลับมามีกำไร margin 1.2% ภายในปี 2020 ที่ถือว่ายังน้อยกว่าเป้าหมายของ PSA Group ที่ตั้งไว้ถึง 2% เพราะถึงแม้ว่า PSA Group จะพยายามทุกวิถีทางแล้ว แต่ในสภาวะยอดขายในยุโรปชลอตัวขนาดนี้ พวกเขาก็สามารถตักตวงได้เท่าที่มันควรจะเป็น ถึงแม้ว่ามีการเปิดตัว Opel Grandland X และ Crossland X แต่ดูเหมือนว่าแบรนด์ Opel กำลังอยู่ในจุดที่ลูกค้าชาวยุโรปไม่ค่อยให้ความสนใจกันแล้ว

ที่มา : Automotive News