ผู้ผลิตรถยนต์ สัญชาต สเปน ภายใต้ร่มโพธิ์ ของกลุ่ม Volkswagen AG ประกาศแผนฟื้นฟูเพื่อสร้างกำไรให้ได้
ภายใน ระยะ 5 ปี ออกมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนี่เป็นสัญญาณแรก ที่ทำให้โลกเริ่มรับรู้ว่า Seat (เซียต) กำลังมีปัญหาสำคัญ
และอาจถึงขั้น มีผลกระทบต่อความอยู่รอดในระยะยาว

คำแถลงดังกล่าว มีขึ้น เมื่อราวๆ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม รายละเอียด ที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนนั้น
แทบไม่ค่อยบอก หรือชี้แจงข้อมูลออกมามากนัก หนึ่งในสิ่งที่ Seat กำลังพยายามทำอยู่ คือการปรับปรุงโรงงาน
Martorell ของตน ใกล้กับกรุง Barcelona ของสเปน ให้มีประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้น โดยในปัจจุบัน
Seat ทุกรุ่น มีกำลังการผลิตรวมกันเพียงแค่ 60% จากกำลังการผลิตของโรงงาน ทั้งที่ความจริงแล้ว Seat
ควรจะผลิตรถยนต์ของตน ออกมามากถึง 90% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จึงจะเริ่มมีกำไรขึ้นมาบ้าง!!

ทางแก้ในเบื้องต้น คือความพยายามที่จะ นำ Audi Q3 อันเป็น Premium Compact SUV จากเพื่อนร่วมค่าย
อย่าง Audi มา ผลิตที่โรงงานแห่งนี้ ควบคู่ไปกับความพยายามในการปรับปรุงรถออกมาให้โดนใจลูกค้า
ในยุโรปมากกว่าที่เป็นอยู่

James Muir ประธาน และ CEO ของ Seat บอกกับสื่อมวลชนว่า แผนการ 5 ปี ครั้งนี้ “คือ ความพยายามครั้งสุดท้าย
สำหรับแบรนด์นี้ มันไม่มีความหมายเป็นอื่นใดไปได้” เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมไม่อาจ เชื่อมั่นได้ว่า ความพยายาม
ลดต้นทุนอย่างเดียว จะทำให้ Seat กลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง แต่ผมเชื่อว่า มันน่าจะช่วยให้ แผนดังกล่าวสำเร็จเป็นจริงได้”

ภาพรวมของปัญหาที่ Seat ต้องเผชิญในระยะเวลาที่ผ่านมาคือ การมีรถยนต์ที่ไม่อาจต่อสู้กับคู่แข่ง ซึ่งแข็งแกร่งมาก
ในตลาดยุโรป รวมไปถึงคู่แข่งอย่าง Volkswagen แบรนด์แม่ของตนอีกด้วย ความพยายามจะสร้างบุคลิกตัวเอง
ให้เป็นรถยนต์ ในแนวขับสปอร์ต ดุๆ พอจะช่วยให้ Seat กับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ในช่วง ต้นทศวรรษ 2000
แต่เมื่อเอาเข้าจริง หากไม่นับรุ่นแรงๆ ที่แปะชื่อต่อท้ายแต่ละรุ่นว่า Cupra หรือ Cupra R แล้ว Seat ก็แทบจะไม่มีรถรุ่นไหน
ดึงดูดให้ผู้คนสนใจได้มากพอเลย ขนาด Seat Bolero ก็ยังต้องใช้วิธี ขยายทางเลือกให้ลูกค้า ด้วยการนำ Audi A4
ทั้ง Saloon และ Avant ที่ตกรุ่นไปแล้ว มาปรับหน้า ทาปาก ขายกันใหม่ ต่อเนื่องอีกระลอก แถมความพยายามที่จะพลิก
รถยนต์ ซีดาน รุ่นเคยขายดีอย่าง Toledo ให้กลายเป็นรถยนต์ หน้าตาพิลึกๆ แปลกๆ ก็กลายเป็นว่า ขายไม่ดีตามคาด
สถานการณ์ก็ดูจะแย่ลง และทุกวันนี้  แทบจะเรียกได้ว่า Seat อยู่ได้จากยอดขายของรถยนต์ B-Segment Sub-Compcat
Hatchback รุ่น Ibiza รวมทั้ง ตลาดในสเปนเอง เท่านั้นเลยจริงๆ

เราได้แต่คอยดูกันต่อไปว่า อนาคตของ Seat นับจากนี้ อีก 5 ปีข้างหน้า จะกลับมาลืมตาอ้าปากได้อย่างที่ควรจะเป็นหรือเปล่า?