ผมรู้ตัวว่าจะต้องเดินทางไปญี่ปุ่น เป็นครั้งที่ 8 ในชีวิต ก็เมื่อช่วงสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้กลับมาเยือนประเทศญี่ปุ่นกันอีกครั้ง เร็วเช่นนี้ หลังจากเพิ่งบินไปเยือนมา
ครั้งล่าสุด เมื่อเดือนกันยายน 2012 ทิ้งช่วงกันแค่เพียง 5 เดือน เท่านั้น!

แถมยังเป็นช่วงเวลาที่แปลกกว่าการไปเยือนในครั้งก่อนหน้ามาแล้วทั้งสิ้น เพราะปกติแล้วผมต้อง
บินไปที่นั่นในช่วงปลายปีที่ลงท้ายด้่วยเลขคี่ เพื่อไปทำข่าวงาน Tokyo Motor Show

คราวนี้ ไปทำงานเหมือนกัน ทว่า เป็นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นทั่งเกาะ
หนาวเย็นเป็นบ้าเป็นหลัง ผิดจากช่วงนี้ของปีก่อนๆ ซึ่งต้องอุ่นขึ้นแล้ว แต่ปีนี้ กลับยังคงหนาว
สะท้านไปถึงทรวง อุณหภูมิ มีตั้งแต่ – 5 จนถึง 16 องศาเซลเซียส หนาวจนได้เห็นและสัมผัส
หิมะ เป็นครั้งแรกในชีวิต ก็ตอนอายุ 33 ปีนี่ละ!

หนาวจนคิดได้ว่า นี่ถ้า Honda ไม่ซื้อเสื้อหนาวแบบหนาๆ มาให้ แล้วปล่อยให้ผมแพ็คเสื้อหนาว
ที่มีอยู่ในบ้านไปเนี่ย คาดว่าผมคงไม่แคล้วต้องไปยืนสั่นเป็นหมีขั้วโลกเขย่าเซียมซี กลางสนาม
Twin Ring Motogi ในทริปนี้ แหงๆเลย

ครับ เจ้าภาพที่เชิญผมไปเจอความหนาวระห่ำครั้งนี้ คือ Honda พวกเขาอยากพาผมกับสื่อมวลชน
ชาวไทย รวม 20 สำนัก ไปร่วมเดินทางในทริป ที่ชื่อว่า The Journey of Accord ซึ่งเป็นทริปที่ทาง
คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานใหญ่ ของ Honda Automobiles (Thailand) บอกว่า อยากจะ
พามาสัมผัสประสบการณ์แบบ Unseen ที่หลายๆคน อาจไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ไม่เว้นแม้แต่
พี่พิทักษ์ เอง ก็ยังไม่เคยเดินทางไปยังสถานที่ ตามตารางทัวร์ครั้งนี้มาก่อนเหมือนกัน

คือ Unseen กันถึงขนาดว่า พี่เล็ก ไกด์จาก JTB ซึ่ง สื่อมวลชนชาวไทยหลายคนคุ้นเคยกันดี เพราะ
ร่วมทริปญี่ปุ่นกันไปหลายทริปแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็ยังได้สัมผันประสบการณ์ Unseen
มาก่อน ตลอดเวลาทำทัวร์ญี่ปุ่น มาร่วม 20 ปี เหมือนกัน! เช่นการไปพักที่เมือง Kinugawa แช่น้ำ
ในบ่อ Onzen (คนอื่นเขาแช่กันนะครับ ผมไม่ได้ไปแช่ด้วย) หรือแม้แต่ฝ่าตะลุยภูเขา Kusatsu
และ Shirane ในจังหวัด Gunma เพื่อชมวิวในสภาพที่เต็มไปด้วยหิมะ และนักเล่นสกี ที่อุณหภูมิ
ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ไหว้พระทั้งที่ศาลเจ้า Haruna ซึ่งสร้างขึ้นมากว่า 1,400 ปี อยู่ริมผา โขดหิน
และน้ำตกตามธรรมชาติ (วันที่ไปดู น้ำตกกลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว) และวัด Mizusawa Kannon
วัดเจ้าแม่กวนอิมเก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี ใน Gunma ฯลฯ

แต่ไฮไลต์สำคัญของทริปนี้คือ การพาทุกๆคน มาสัมผัสกับการเดินทางในช่วงที่ผ่านมาของ
Honda Accord ผ่าน บรรดา รถยนต์ทั้ง 8 รุ่น ที่จอดเรียงรายกันอยู่ใน Honda Collection Hall
ณ สนาม Twin Ring Motegi แห่งนี้ อันเป็นสนามเดียวกันกับที่เราจะได้เป็นคนไทยกลุ่มแรก
ซึ่งมีโอกาสทดลองขับ Honda Accord Generation 9 ใหม่ล่าสุด ในรอบ Exclusive Preview
ก่อนใคร

อ้าว! แล้ว ไหนละ Accord Generation ที่ 9 ?

ดูดีๆครับ….อยู่มุมซ้ายบนนั่นไง….

ยังไม่เห็นอีกเหรอ?

นี่ละครับ รูปโฉมคันจริงของ Accord ใหม่ เวอร์ชันไทย หน้าตา ก็ไม่ได้แตกต่างไป
จากเวอร์ชัน อเมริกาเหนือเท่าใดนักหรอก

น่าเสียดายว่า ณ วันที่เขียนต้นฉบับนี้ (3 มีนาคม 2013) Honda มิได้ส่งข้อมูลตัวรถใดๆให้กับ
กลุ่มสื่อมวลชนที่เดินทางร่วมทริปไปด้วยกันเลย ดังนั้น ทุกสิ่งที่คุณจะได้อ่านในบทความ
ทดลองขับ ของทุกสื่อในช่วงวันเปิดตัวนั้น จะเป็นข้อมูลที่ แต่ละคน สังเกต หรือพยายามเก็บ
ข้อมูลด้วยตนเองทั้งสิ้น

ยิ่งเรื่องรูป ยิ่งแล้วใหญ่ งานนี้ Honda ขอความร่วมมือ งดถ่ายรูปรถ ขณะทดลองขับ ในสนาม
เพราะจะมีภาพถ่ายจาก ช่างภาพมือโปร ที่ Honda ว่าจ้างมาเพือ่การนี้โดยเฉพาะ ดูแลให้ ถ้า
อยากได้ช็อตไหนเป็นพิเศษ ให้บอกช่างภาพเขาได้เลย เดี๋ยวน้าเขาจัดให้

การเผยแพร่ ก็ต้องมีกำหนดเวลา คือ ปล่อยภาพชุดแรกทีคุณเห็นนี้ ในวันที่ 4 มีนาคม จากนั้น
ภาพชุดใหญ่ ที่น้าช่างภาพชาวญี่ปุ่น บันทึกไว้ จะแจกให้กับสื่อมวลชนทุกคน รวมทั้งผมด้วย
ก็ต้องรอจนถึงวันเปิดตัว คือ วันที่ 11 มีนาคม 2013

ส่วนภาพ Presentation บน Power Point ก็ถ่ายไม่ได้อีก อ้างว่า มีรายละเอียดบางอย่างที่ไม่เหมือน
กับรถยนต์เวอร์ชันไทย ซึ่งเท่าที่นั่งดูไปเรื่อย ก็ไม่เห็นว่ามันจะต่างจากรถยนต์เวอร์ชันไทยกัน
ตรงไหนเลยแหะ

สรุปแล้ว ก่อนขึ้นเครื่องบินกลับมาเมืองไทย ช่วงหัวค่ำ ผมได้แต่ภาพถ่ายที่เห็นอยู้นี้ มาโพสต์ให้
คุณผู้อ่านได้เห็นกันก่อน เพียงแค่นี้เลยจริงๆ!

ภาพน้อยมาก จนเขียนอะไรต่อแทบไม่ได้เลย นี่คือสาเหตุที่ผมตัดสินใจว่า จำเป็นต้องปล่อย
เวอร์ชัน TEASER ออกมาก่อน ที่จะปล่อยบทความ Exclusive First Impression กันออกมา
ในช่วงหลังจากที่ได้รับชุดภาพอีกชุดแล้ว  ซึ่งก็ยังไม่รุ้ว่าเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ…เฮ้ออออออออ…!

มันจะอะไรกันนักกันหนาหนอ…. ??

เอาวะ! ไม่เป็นไร! มีให้มาแค่ไหน ลงแค่นั้น!

Accord ใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Excel in all Areas” นั่นคือ การนำรถรุ่นเดิม มา
ปรับปรุงในจุดด้อยต่างๆให้ดีขึ้นยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ และต้องเหนือชั้นยิ่งกว่าคู่แขจ่งสำคัญ อย่าง
Toyota Camry ให้จงได้

รายละเอียดวิศวกรรม คร่าวๆ ที่คุณควรทราบกันไว้ก่อนก็คือ ตัวรถจะสั้นลงกว่ารุ่นเดิม ราวๆ
90 มิลลิเมตร เหลือ 4,860 มิลลิเมตร กว้างข้น 5 มิลลิเมตร มาอยู่ที่ 1,850 มิลลิเมตร ความสูง
จะลดลงมา 10 มิลลิเมตร เหลือ 1,455 มิลลิเมตร ระยะานล้อ ก็จะสั้นลงอีก 25 มิลลิเมตร เหลือ
2,775 มิลลิเมตร ถือว่าเป็นครั้งแรกในการพัฒนา Accord ใหม่ ที่ทีมวิศวกรตั้งใจทำรถออกมา
ให้เล็กลงกว่ารุ่นเดิม แต่ยังคงรักษาขนาดห้องโดยสารให้ยาวขึ้น เพิ่มพื้นที่วางขา ยาวขึ้นอีก
15 มิลลิเมตร เพิ่มระยะวางขา 35 มิลลิเมตร แต่มีพื้นที่ห้องเก็บของ เท่าเดิม ได้อีกด้วย

คราวนี้ Honda จะทำตลาด Accord ใหม่ในบ้านเรา เพียง 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ เท่านั้น โดย
จะไม่มีขุมพลังแบบ V6 3.5 ลิตร วางจำหน่ายอีกต่อไป เนื่องจากยอดขายน้อยมากจนไม่คุ้ม
ต่อการตัดมาขายในประเทศไทย สู้ผลิตเพื่อส่งออกไปออสเตรเลีย หรือตลาดอื่นๆ จะดีกว่า

เครื่องยนต์ ทั้ง 2 ขนาด จะอยู่บนพื้นฐาน บล็อก 4 สูบ 16 วาล์ว  มีทั้งขนาด 2,356 ซีซี พร้อม
ระบบ แปรผันวาล์ว i-VTEC ลดกำลังลงจากเดิม 180 แรงม้า (PS) เหลือแค่ 174 แรงม้า (PS)
ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร (22.41 กก.-ม.) ลดน้ำหนักลงจากเดิม 4.5 %

ส่วนรุ่น 2.0 ลิตร ยืนหยัดอยู่กับขุมพลังรหัส R20A บล็อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร
กันตามเดิม ตัวเลขสมรรถนะ ก็ยังคงเท่าเดิมคือ 155 (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด
190 นิวตันเมตร (19.36 กก.-ม.) ที่ 4,300 รอบ/นาที

ที่สำคัญ ทั้ง 2 ขุมพลัง ถูกปรับเซ็ตมาให้เติมน้ำมันเบนซิน แก็สโซฮอลล์ ได้ถึงระดับ
E85 ( เอทานอล 85% น้ำมัน 15%) กันเลยทีเดียว! แถมยังจะปล่อยก๊าซ คาร์บอนได-
ออกไซด์ ในระดับป้วนเปี้ยนแถวๆ 100 – 150 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้ Accord ใหม่
ได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษี สรรพสามิต แบบใหม่ที่จะจัดเก็บตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป
อีกด้วย

และแน่นอนว่า ทั้งคู่จะถ่ายทอดกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยเกียร์อัตโนมัติ
5 จังหวะ…ตามเดิม! ไม่ใช้ CVT และ ไม่ใช้ 6 จังหวะ ส่วนระบบกันสะเทือนหน้า
จะเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัต ขณะที่ด้านหลัง จะเป็นแบบเดียวกับเวอร์ชัน
อเมริกาเหนือ

Honda อ้างว่า ตัวรถถูกปรับปรุงให้มีออพชัน และคุณภาพการขับขี่ รวมทั้งความพิถีพิถัน
ในการประกอบ และการเลือกใช้วัสดุ มากกว่าเวอร์ชันอเมริกาเหนืออย่างเห็นได้ชัด

จุดเด่นของ Accord ใหม่ เวอร์ชันไทย อยู่ที่ การติดตั้ง กล้องไว้ใต้กระจกมองข้าง เพื่อ
ส่องให้เห็นรถที่แล่นมาจากทางด้านข้างฝั่งซ้าย ในมุมมองที่กว้างขึ้นเป็นพิเศษ ถึงแม้
จะเป็นเทคโนโลยี ที่ดูผ่านๆ จะเหมือนกับ ระบบ BLIS ของ Volvo ซึ่งนำมาใช้ใน
บ้านเราตั้งแต่ปี 2008 แล้ว แต่ในความจริง ระบบของ Honda จะแตกต่างจากระบบ
BLIS นิดนึง ตรงที่ จะไม่เตือนด้วยสัญญาณไฟสว่าง บริเวณฐานสามเหลี่ยมของ
กระจกมองข้าง แต่กล้องจะส่งสัญญาณภาพ ไปฉายบนหน้าจอมอนิเตอร์สี ขนาด
8 นิ้ว ด้านบนบนแผงควบคุมกลาง ของแผงหน้าปัดแทน

รวมทั้งจะมีเทคโนโลยีระบบสื่อสารภายในรถ ที่คล้ายคลึงกับระบบ Internavi Premium
ซึ่งมีใช้ในรถยนต์ Honda ที่ญี่ปุ่น อยุ่แล้ว ระบบนี้จะพิเศษตรงที่ สามารถอัพเดทแผนที่
ได้ ในกรณีที่ยังไม่เคยมีแผนที่ระบุไว้มาก่อน เราแค่ขับรถไปตามถนน ระบบก็จะลาก
เส้นแผนที่ไปตามที่เราขับ แล้วก็จะส่งไปบันทึกไว้ยัง Server ขนาดใหญ่ ระบบนี้จะ
ทำงานบนพื้นฐานของ Application บนโทรศัพท์ Smart Phone หมายความว่า ใครที่ใช้
Honda อยู่ ก็ดาวน์โหลด App นี้ มาใช้งานเองได้เลยทันที! งานนี้ Honda มั่นใจว่าระบบ
ของตน ที่กำลังจะเปิดตัวสู่ตลาดเมืองไทยในเร็วๆนี้ จะเหนือชั้นกว่า ระบบสื่อสารของ
Toyota Smart G Book อย่างแน่นอน ! การันตีแล้วจาก การเป็นระบบนำทางที่ช่วยเหลือ
ให้ชาวญี่ปุ่น ได้ค้นพบเส้นทางที่ใช้งานได้ และใช้งานไม่ได้ Update Real Time ในช่วง
แผ่นดินไหว และสึนามิเข้า ในเขต Tohoku เมื่อ 11 มีนาคม 2011 มาแล้ว

สมรรถนะจะเป็นอย่างไรนั้น คงบอกได้เพียงสั้นๆ ในวันนี้ แต่เพียงว่า “อัตราเร่งคล้ายๆ
กับรุ่นเดิม คันเร่งตอบสนองไวพอกันกับ Honda รุ่นใหม่ๆ ในช่วง 2 ปีมานี้ แต่ที่น่าจับตา
ก็คือ การบังคับควบคุมรถ ผ่านช่วงสลาลอมที่ความเร็ว 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ชัดเจนเลยว่า
ความคล่องแคล่ว มีมากขึ้น Agility ดีขึ้น พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์แบบ
ไฟฟ้า EPS (Electronics Power Steering) ถูกปรับปรุงให้ บังคับเลี้ยวได้เฉียบคม ฉับไว
แต่เป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงพวงมาลัยแบบไฮโดรลิก มากขึ้น น้ำหนักพวงมาลัยในช่วง
ความเร็วต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่ต้องแก้ไขอะไรอีก เซ็ตมาดีมากๆ “

รูป และรายละเอียดเพิ่มเติม คงต้องรอดูกันอีกครั้ง หลังวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่จะ
มีขึ้นในเมืองไทย วันที่ 11 มีนาคม 2013 (2 ปี หลังเกิดเหตุการณ์ สึนามิ ในญี่ปุ่นพอดีเป๊ะ!)

ถึงวันนั้น ผมคงจะมีรายละเอียดของตัวรถมาเล่าสู่กันฟังมากกว่านี้ เล่าสัมผัสการขับขี่
ได้มากกว่านี้ และที่สำคัญที่สุดก็คือ

มีรูปมาโพสต์ให้คุณๆได้ดูกัน มากกว่าที่เป็นอยู่นี้แน่ๆ!

——————————–///——————————-

ขอขอบคุณ / Special Thanks to :
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ / PR. Division
บริษัท Honda Automobile (Thailand ) จำกัด

เอื้อเฟื้อตลอดการเดินทางในครั้งนี้เป็นอย่างดี

J!MMY
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความ โดยผู้เขียน ภาพถ่ายทั้งหมด เป็นลิขสิทธิ์ของ Honda Motor Co.
ประเทศญี่ปุ่น ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
4 มีนาคม 2013

Copyright (c) 2013 Text (All pictures is own by Honda Motor Co.)
Use of such content either in part or in whole without permission is prohibited.
First publish in www.Headlightmag.com

March 4th,2013

แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เชิญได้ คลิกที่นี่ / Comments are Welcome! CLICK HERE