Suzuki Ciaz Minorchange 1.2RS CVT – 675,000 บาท

Likes: พื้นที่ห้องโดยสารยาวและกว้าง นิสัยเป็นรถผู้ใหญ่ การใส่ใจในรายละเอียดจุดเล็กๆ ดีกว่า City และ Almera ช่วงล่างบาลานซ์ดีระหว่างนุ่มกับหนึบ

Dislikes: อัตราเร่งสู้พวกมีหอยไม่ได้ ไม่มีระบบป้องกันการลื่นไถล/ควบคุมการทรงตัว ดีไซน์ภายในบางจุดเริ่มเก่า เปลี่ยนจากรุ่นก่อนไม่มากเท่าที่ควร

Suzuki Ciaz RS ไมเนอร์เชนจ์ คือรถที่มีบุคลิก หนักแน่น ไปแบบสบายๆ นั่งก็สบาย ไม่น่าแปลกใจที่คนชอบเช่ารถ AVIS จะเลือกขับ Ciaz กันเยอะ อ้าว ทำไมจะไม่เช่าล่ะครับ ค่าเช่าเรตถูกสุด แต่ความสบายเวลาโดยสาร ฟีลที่ได้จากช่วงล่าง มันสู้รถขนาดโตกว่าค่าเช่าแพงกว่าได้สบายเลย ถ้าคุณเป็นคนที่ขับอีโคคาร์แบบที่เจ้าของอีโคคาร์ 80% เขาขับกัน และสามารถมองข้ามเรื่องแบรนด์หลัก แบรนด์รองไปได้ Ciaz คือรถที่มอบความสุขให้อย่างเท่าเทียมทั้งผู้ขับ และผู้โดยสารอย่างแท้จริง

ช่วงล่าง และความสบาย ยังเป็นจุดเด่นของมัน..ตั้งแต่วันนั้น และจนถึงวันนี้ มันบาลานซ์ระหว่างความนุ่มนวล กับความมั่นใจได้อย่างลงตัว ผมนั่งหน้า หรือนั่งหลัง ก็รู้สึกสบายและกระชับพอเหมาะ สำหรับการขับในเมือง ขับบนถนนขรุขระ หรือวิ่งทางไกลในระดับ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่เมื่อต้องขับแบบรีบๆ บนถนนในโค้ง ถ้าไม่นับเรื่องพวงมาลัยที่เฉื่อยๆ หุ่นยนต์ๆ แบบเอาใจผู้ใหญ่ 100% ช่วงล่างของ Ciaz ถือว่าอยู่ในอันดับดีระดับต้นของกลุ่ม แค่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเล่นโค้งแบบ Mazda 2 ก็เท่านั้น

สิ่งดีๆที่พบอีกอย่างก็คือ Suzuki ไม่ได้พยายามหั่นต้นทุนอะไรเพิ่มจากรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ ซ้ำยังให้ของเล่นมามากกว่าเดิม ในราคาที่ไม่เปลี่ยนแปลง ความใส่ใจในรายละเอียด มีซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆที่คุณอาจต้องใช้เวลาในการค้นพบสักนิด เช่นไฟหน้าปรับองศาการส่องของไฟ ลดการแยงตารถที่สวนมาได้ (ของดีที่คนไทยชอบช่างแม่ง) ระบบเครื่องปรับอากาศที่อุตส่าห์เอา Heater มาติดตั้งไว้ให้ คนเมืองเหนืออุ่นสบายแม้ยามขึ้นดอย และที่สำคัญคือมีช่องแอร์หลังให้ มีพนักเท้าแขนมาให้ทั้งหน้าและหลัง ระบบต่างๆอาจไม่ได้ทันสมัย แต่อย่างน้อยจอกลางของรุ่น RS ก็มีระบบนำทาง เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ และมีกล้องหลังกับเซ็นเซอร์มาให้

ในขณะที่หลายค่าย จะพยายามสร้างความเด่นด้วยเทคโนโลยี แล้วทำให้ผู้คนหลงใหลในเทคโนโลยีนั้น Suzuki Ciaz ดูเหมือนจะเป็นรถที่ถามกลุ่มคนที่ใช้รถแบบนี้จริง ว่าพวกเขารู้/ไม่รู้อะไร อยากได้/ไม่อยากได้อะไร แล้วก็พยายามทำรถให้ตรงต่อความต้องการของคนเหล่านี้มากที่สุด (เท่าที่ตัวถังแบบเก่าจะอำนวย) ถ้าเทียบเป็นเครื่องบิน ก็เหมือนกับว่า Nissan และ Honda ขาย Airbus A350 แล้ว แต่ Suzuki ขาย A330 ต่อโดยพยายามปรับให้มีลูกเล่นตามใจลูกค้าตัวจริง

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อมาตรฐานของอีโคคาร์ เปลี่ยนไปเยอะมากเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว ผมคงไม่สามารถใช้มาตรฐานของ 2015 ในการรีวิว Ciaz ณ วันนี้ได้ เพราะจะไม่เป็นการยุติธรรมกับผู้เล่นรายอื่นที่มีขายอยู่จริง ณ ขณะนี้

ดังนั้น สิ่งที่ Ciaz ยังขาดอยู่ ก็คือเทคโนโลยีเครื่องยนต์ พลัง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และอุปกรณ์ความปลอดภัยในเชิง Active/Passive เช่น มีถุงลมนิรภัยแค่ 2 ใบ ไม่มีระบบ Traction Control ไม่มีระบบช่วยเหลือเรื่องการทรงตัว ดังนั้น รายการอุปกรณ์ส่งเสริมความปลอดภัยในลักษณะนี้ จึงด้อยกว่าอีโคคาร์ของค่ายอื่น นอกจากนี้ Suzuki ยังต้องพยายามคิดแล้วว่าจะทำอย่างไรกับขุมพลังของ Suzuki Ciaz เจนเนอเรชั่นถัดไป อาจจะเป็นเครื่องเดียวกับ Swift เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน แล้วพยายามจูนให้ได้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีมากๆ เน้นเป็นรถสายประหยัดไปเลยก็ได้ เพราะถ้าเอาเครื่องเทอร์โบมาแข่งกับเขา เห็นทีจะยาก และไม่น่าเกิดได้ภายในเวลา 2-3 ปีนี้ เพราะถ้าได้..แล้ว Swift ล่ะต้องเปลี่ยนตามด้วยมั้ย? งานต่างๆที่ต้องทำเพิ่ม เงินที่ต้องลงทุน จะตามมาอีกเยอะ

จนกว่าจะถึงวันนั้น ผมมองว่าบทบาทของ Ciaz ในตลาดอีโคคาร์ก็จะยังไม่เปลี่ยน ท่ามกลางเด็กปีหนึ่งสดๆ แรงๆ Ciaz จะยังคงเป็นรถที่รักษาแนวทางเอาใจผู้ใหญ่ของมันเอาไว้แบบเดิม มอบสิ่งดีจากวันก่อนๆให้คุณแบบไม่หวงก้าง แม้ว่ามันจะยังขาดเทคโนโลยีใหม่ๆที่เราพบจากรถ New Model Change ของคู่แข่ง เรื่องนี้ ท้ายสุด ผู้ที่ตัดสินใจก็คือผู้บริโภค เพราะผมเข้าใจว่า ไม่ใช่ทุกคน ที่หลงใหลในแรงม้า พละกำลังอย่างที่ผมเป็น ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบช่วงล่างคม พวงมาลัยไวแบบผมชอบ บางครั้ง รถที่ดีที่สุดสำหรับคนหนึ่งคน ก็เป็นแค่รถคันหนึ่งที่ให้ความผ่อนคลายในเวลาขับ มีหน้าตาที่ดูแล้วปลื้มขับไปอวดแม่ได้ แอร์เย็น พาพ่อนั่งหลังพ่อไม่ด่า และอยู่ในงบประมาณที่เขาพอจะซื้อได้

มันอาจจะไม่ใช่อีโคคาร์ที่ผมเลือก (ถ้ามีเงินพอ) แต่สำหรับคนที่ต้องการรถในลักษณะดังกล่าว และดู Ciaz มาพักใหญ่ วันนี้ คุณคงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น