Toyota C-HR 1.8 Hybrid High1,159,000 บาท

Likes: อุปกรณ์มาครบครันกว่ารุ่นเบนซิน มี Radar Cruise Control และระบบความปลอดภัยครบ ประหยัดเชื้อเพลิง ช่วงล่างบาลานซ์ดีได้ทั้งบู๊และบุ๋น มีสีสันให้เลือกเยอะกว่ารุ่นเบนซิน

Dislikes: รุ่นเบนซินเร่งดีกว่า ขับสนุกกว่า  ภายในไม่ล้ำเตะตาเท่าภายนอกรถ การเก็บเสียงไม่ดีเท่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่น และไหนๆจะราคาระดับนี้แล้วขอล้อลายสวยกว่านี้หน่อยเถอะ

หลังจากที่เราเคยได้ลองขับ C-HR 1.8 MID เครื่องยนต์เบนซินกันไปแล้ว การที่ได้มาเจอกับรุ่น 1.8 Hybrid High จึงไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพรส์มากนัก เพราะรุ่นเบนซินได้สร้างมาตรฐานที่ดีในด้านการขับขี่เอาไว้ โดยเฉพาะในเรื่องช่วงล่างที่มีความนุ่มนวลระดับพาพ่อพาแม่วัยแก่เฒ่านั่งได้ แต่กลับเกาะโค้งเกาะถนนดีอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่านี่เหรอวะ Toyota? รุ่น Hybrid นั้นมีความแตกต่างกันน้อยมาก แพลทฟอร์ม TNGA ทำงานของมันได้ดี ซับความตึงตังเล็กๆน้อยๆได้ดีกว่า HR-V ไมเนอร์เชนจ์ และ CX-3 แต่พอวิ่งเร็วๆแล้วควบคุมอยู่หมัด เลี้ยวเป็นเลี้ยว ส่วนการตอบสนองแป้นเบรกถือว่าดีสำหรับรถไฮบริดแต่จะมีจังหวะเบรกหน้าทิ่มที่ความเร็วต่ำ ต้องอาศัยความชินและเบาเท้าในการละเลียดแป้นสักหน่อย

การเพิ่มเงิน 120,000 บาทจากรุ่นเบนซิน MID คุณจะได้ไฟหน้า Full LED, ไฟเลี้ยวกระพริบไล่จากหัวไปท้ายเหมือนรถทำความสะอาดทางด่วนกทม. (เหมือน Lexus และ Audi) ไฟหน้าปรับสูง/ต่ำอัตโนมัติ ไฟท้าย Full LED, Ambient Light แสงสีตกแต่งภายในไม่กี่กระจุก และ T-Connect TELEMATICS ซึ่งอันที่จริงสิ่งเหล่านี้จะมีในรุ่น Hybrid MID ราคา 1,069,000 บาทอยู่แล้ว

แต่สำหรับ Hybrid High คุณจะมีปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ระบบฟอกอากาศ Nanoe, ระบบนำทาง, ไฟสูงแบบปรับแสงหลบรถสวนโดยอัตโนมัติ, ระบบเตือนรถในจุดบอดกระจกมองห้าง, ระบบช่วยเตือนเวลามีรถตัดด้านหลังเวลาถอยหลัง, เบรกอัตโนมัติก่อนการชนที่ความเร็วต่ำ, เตือนรถเบี่ยงออกนอกเลนและหน่วงที่พวงมาลัย ระบบ Cruise Control แม้จะยังไม่อัจฉริยะขนาดหยุดและเดินหน้าได้ แต่ก็มีเรดาร์ที่ช่วยให้ปรับความเร็วตามรถคันหน้าได้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ก็ยังขาดของ Nice to have เช่นเบาะคนขับปรับไฟฟ้าและหลังคาซันรูฟ และล้ออัลลอยก็ควรจะเอาลายตัวท้อปของญี่ปุ่นมาใส่สักหน่อยจะดูเก๋สมราคากว่านี้

บรรยากาศในห้องโดยสารก็ดูเกือบเหมือนกับตัว 1.8 มาก เส้นสายบางจุดดูจะล้ำอนาคต แต่คุณจะเจอบางส่วนที่ดูโบราณเช่นวิธีการติดตั้งเครื่องเสียงไปบนกรอบที่ยกขึ้นมา ไม่สวย แต่ก็ง่ายหน่อยตอนคิดจะเปลี่ยนเครื่องเสียง วัสดุไม่ได้ดีกว่า CX-3 หรือ HR-V แต่ความแน่นหนาในการประกอบอยู่ในระดับตามราคา เบาะนั่งยกมาจากตัวเบนซิน หมอนรองศีรษะจะดันไปข้างหน้ามากถ้าคุณชอบขับแบบตั้งเบาะตรง การเก็บเสียงของ C-HR นั้น ก็สรุปได้ว่าอยู่ในระดับที่พอใช้ได้ แต่เสียงลมจากตัวถังท่อนบนจะดังกว่ารถเวอร์ชั่นประกอบญี่ปุ่น รุ่นไฮบริดจะเก็บเสียงจากด้านล่างดีกว่ารุ่นเบนซิน ไม่แน่ใจว่าเพราะแบตเตอรี่ขวางเสียงไว้หรือไม่

ขุมพลังไฮบริด 1.8 ลิตร 122 แรงม้า มีจุดน่าชื่นชมตรงที่การบริหารจัดการพลังงาน มีการปรับปรุงจากสมัยเป็น Prius 1.8 ชัดเจน สามารถวิ่งใน EV Mode ได้นานกว่า ประจุไฟเร็ว และตัดต่อกำลังได้เนียนขึ้น และทั้งๆที่ตัวรถหนากินลมมากกว่า ล้อโตกว่า Prius แต่กลับประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าแบบเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม อัตราเร่งกลับไม่ดีเท่าที่ควร แม้ว่าช่วงออกตัวจะดูเหมือนมีพละกำลังดี แต่ขับสักพักเดียวจะรู้เลยว่าอารมณ์เด็กซ่าบ้าพลังอย่างรุ่น 1.8 เบนซินมันหายไปเยอะพอสมควร อัตราเร่ง 0-100 และเร่งแซง 80-120 ออกมาพอๆกับรถบ้านพันห้าและช้ากว่ารุ่น 1.8 เบนซินแบบเต็มวินาทีทั้งสองย่านวัดความเร็ว

ทำให้รู้สึกสงสัยว่า ทำไมพอเป็น Camry ทาง Toyota สามารถทำรุ่น 2.5 ไฮบริดให้แรงและเร็วกว่ารุ่นเบนซินชัดเจนและประหยัดมาก แต่พอเป็น C-HR กลับทำ 1.8 ไฮบริดออกมาช้ากว่า 1.8 เบนซิน ทั้งๆที่คนซื้อจ่ายเงินแพงกว่า กลายเป็นว่าซื้อตัวท้อป แพงสุด อุปกรณ์เยอะ แต่วิ่งๆไปโดนรุ่นล่างสุดแซงหาย

หลายคนอาจจะมองว่าคนซื้อ Hybrid เขาไม่คิดเรื่องพวกนี้ แต่เลี่ยงไม่ได้หรอกว่าคนที่ไม่ชอบไฮบริด แต่อยากได้อุปกรณ์ครบๆ มันก็มี ดูจากยอดขายของคู่แข่งอย่าง HR-V ที่พอไมเนอร์เชนจ์ ปรับราคาและอุปกรณ์ใหม่ ก็กลับมาแซง C-HR ได้อีกครั้ง Toyota เองก็คงกุมขมับ เพราะรุ่นเบนซินเจออัตราสรรพสามิตแพงกว่ารุ่นไฮบริด ถ้าจับตัวเบนซินใส่ออพชั่นเท่า Hybrid High ราคาคงหลุดไปล้านสอง ก็มีคนด่าอีก ส่วนผม? เรื่องอุปกรณ์ต้องดูเป็นอย่างๆไป แต่ที่ไม่พอใจคือทำไมคุณต้องเอาสีสวยๆดีๆไปไว้ในรุ่นไฮบริด มันเหมือนกับบ้านที่เห่อลูกคนใดคนหนึ่งมากกว่าอีกคนอย่างชัดเจนจนน่าเกลียด

ดังนั้น ในเมื่อทางเลือกมันมีแค่นี้ สิ่งที่ C-HR Hybrid High มอบให้คุณได้ ก็คือรถที่ประหยัดเชื้อเพลิง ช่วงล่างดีแบบแบ่งๆกันระหว่างนุ่มและหนึบลงตัว อุปกรณ์ครบแบบ 97% ยังไม่ครบจนฉีกคู่แข่งขาด อัตราเร่งแค่พอให้ไม่อายรถ 1.5 ลิตร ถ้าคุณชอบของเล่นเยอะ แต่ไม่ชอบรถแบกถ่าน ขอเชิญ HR-V RS ที่เร็วกว่า ถูกกว่า แต่ทำใจกับช่วงล่างที่สู้ใครในตลาดไม่ได้ทั้งเรื่องนุ่มเรื่องเกาะ หรือถ้าคิดว่านั่งแค่สองคน อยากได้รถขับสนุกเร้าใจ ของเล่นท่วมคัน CX-3 2.0SP จะตอบโจทย์คุณได้ดีกว่า แต่ต้องรับทราบว่าถ้าเป็นเรื่องการกินน้ำมัน ก็คงสู้รถไฮบริดม้าน้อยๆไม่ได้


จะดูคลิปของตัวเบนซิน? เชิญที่นี่เลยครับ

The Clip : Toyota C-HR 1.8 MID ครอสโอเวอร์ค่ายสามห่วง ช่วงล่างเป๊ะ