ใช่เพียงแต่ค่ายยุโรป ที่จะใช้เวที แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 15 กันยายนที่จะถึงนี้
เป็นเวทีเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของตน เพราะผู้ผลิตฝั่งญี่ปุ่นเอง ก็ยังคงเตรียมแผนเปิดตัวยานยนต์
ยุคต่อไปให้เห็นกันเป็นครั้งแรกบนเวทีนี้ หลายรุ่นด้วยกัน

หนึ่งในนั้น คือ โตโยต้า ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก (ไปแล้ว)
ขนรถยนต์ไอบริด มาเปิดตัวในงานนี้ ถึง 2 รุ่น ยังไม่นับการเปิดตัวของรถยนต์รุ่นใหม่ ในตลาด
เป็นครั้งแรก ในโลก และ ครั้งแรกในยุโรป


TOYOTA
– AURIS HYBRID
– PRIUS PLUG-IN HYBRID Concept
– iQ Sport
– iQ Collection
– New Land Cruiser “European Debut”

งานนี้ โตโยต้า เก็งไว้เลยว่า จะเปิดศักราชรถยนต์ไอบริดของตนในยุโรป อย่างจริงจังเสียที
หลังจากชิมลาง ด้วยการเปิดตัว พรีอุส ทำตลาดในยุโรปมานานเกือบ 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่ค่อย
ได้รับความนิยมจากชาวยุโรปมากเท่าคนอเมริกัน

และรถที่จะเบิกเนตรชาวยุโรป  ให้คุ้นชินกับระบบไอบริด ของโตโยต้า กันเสียที ก็คือ
ออริส ไฮบริด คอนเซพท์ ซึ่งถ้าเป็นผู้ติดตามข่าวสารวงการรถยนต์มาตลอด ก็คงจะรู้ว่า
ออริส นั้น มันก็คือตัวถัง แฮตช์แบ็ก 5 ประตู ของ ตระกูล โคโรลล่า ใหม่ นั่นเอง

การนำขุมพลัง ไฮบริด มาใส่ในออริส นั้น เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณบอกกับโลกว่า
ต่อจากนี้ โตโยต้า จะเริ่มพัฒนารถยนต์ไฮบริด ที่มีราคาถูกลง จนใครๆก็ซื้อหามาขับใช้งาน
กันได้แล้ว ด้วยเหตุที่ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีปริมาณการผลิตที่เยอะมากขึ้น จนต้นทุน
การผลิตแบ็ตเตอรี และระบบขับเคลื่อนต่างๆถูกลง

แต่…ไม่ใช่แค่ ออริส ไฮบริด เท่านั้น ที่โตโยต้า เล็งเอาไว้ คราวนี้ โตโยต้า จะเปิดเผยความคืบหน้า
ล่าสุด ในการพัฒนารถยนต์ไฮบริด ของตน ให้สามารถ เสียบปลั๊ก ชาร์จไฟ จาก เต้าเสียบตามบ้าน
ได้แล้ว และนั่นคือ พรีอุส ปลั๊ก อิน ไอบริด ซึ่ง คราวนี้ ผู้ขับขี่จะสามารถขับ พรีอุส ในโหมด
รถไฟฟ้า ล้วนๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันได้เลย ถ้าใช้รถแค่วันละ 20 กิโลเมตร โตโยต้า คำนวน
ดูแล้วว่า ปีนึง เผลอๆ เจ้าของรถที่ซื้อไป อาจจะเติมน้ำมันเต็มถัง แค่ครั้งเดียว ต่อ 1 ปี เท่านั้น!!!
อย่างไรก็ตาม กำหนดการทำตลาดจริง จะเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกาก่อนในปี 2010 จากนั้นในยุโรป
ช่วงต้นปี 2010 จะเริ่มปล่อยให้ลูกค้าเช่าซื้อ จำนวน 150 คัน เพื่อทดลองตลาด

รายละเอียดทางเทคนิคต่างๆ ยังไม่มีการเปิดเผย จนกว่าจะถึงวันที่ 15 กันยายนนี้

และ ขอให้จับตา พรีอุส ปลั๊ก อิน ไอบริด ให้ดี เพราะรถรุ่นนี้ กำลังอยู่ในแผน ที่โตโยต้า
เตรียมจะนำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ซึ่งคาดกันว่า น่าจะเกิดขึ้น ราวๆ ปี 2011 เพราะต้องรอ
ให้ พรีอุส รุ่นล่าสุด เปิดตัวในตลาดเมืองไทยกันก่อนหน้านั้น….

 

นอกจากนี้ โตโยต้า ยังเตรียมจะต่อยอด เจ้า เปี๊ยก iQ รถยนต์ 4 ที่นั่ง ที่เล็กและสั่นที่สุดในโลก
ด้วยการเผยให้เห็นถึงช่องทาง ที่โตโยต้า คิดจะทำต่อไปกับเจ้า iQ ทั้งเวอร์ชัน สปอร์ต ซึ่งขณะนี้
กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา รวมทั้ง รุ่นตกแต่งในสไตล์พิเศษเป็นตัวของตัวเอง iQ Collection
ซึ่ง เราจะเริ่มทะยอยได้เห็นกันตั้งแต่ปีหน้า 2010 เป็นต้นไป

 

และท้ายสุด กับการเปิดตัว แลนด์ครุยเซอร์ใหม่ เวอร์ชันยุโรป เป็นครั้งแรก หลังจากการเปิดตัว
ในตลาดญี่ปุ่น มาตั้งแต่ ปลายปีที่แล้ว จนเศรษฐีบ้านเรา สั่งนำเข้าผ่านผู้ค้ารายย่อย แอบๆทะยอย
ซื้อหามาขับไปล่วงหน้าเป็นปี

LEXUS
– Concept Car “LF-Ch”
– LS Minorchange “World Debut”
– GS Minorchange
– IS & IS-F Update

ในที่สุด ก็ถึงเวลาที่เล็กซัส เตรียมจะเข้าไปแย่งชิงกลุ่มลูกค้า วัยรุ่น เช่นเดียวกับที่ Audi BMW และ
Mercedes-Benz กำลังพยายามทำอยู่กันเสียที ด้วยการเข็นรถต้นแบบ LF-Ch สีเหลืองทองอร่าม
คันใหม่ขึ้นแท่นหมุนในงานเดียวกัน

การเผยโฉมของ รถต้นแบบ LF-Ch นั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ มีผลวิจัยในสหรัฐอเมริกา
บ่งชี้ว่า เล็กซัส กำลังจะมีปัญหาเรื่องอายุเฉลี่ยของกลุ่มลูกค้า ที่สูงขึ้น เนื่องจากเล็กซัส เปิดตัวในยุคที่
บรรดา ผู้คนในกลุ่ม ที่นักการตลาดเรียกว่า Baby Boomer (ประมาณว่า เกิดในยุค 1960 เป็นต้นมา)
การทำตลาดด้วยการมุ่งเน้นคุณภาพการประกอบ ความไว้ใจได้ในเรื่องคุณภาพ และวัสดุที่เลือกใช้
รวมทั้งความเงียบสงบของห้องโดยสาร จึงกลายเป็นสิ่งดึงดูดใจ ลูกค้าในกลุ่มวัยดังกล่าว จนกระทั่ง
ปัจจุบันนี้ วันที่พวกเขาเริ่มแก่ตัวไปทุกวันๆ และยังเกาะอยู่กับแบรนด์ เล็กซัส อย่างเหนียวแน่น
จนทำให้ เล็กซัส เสียโอกาส ที่จะทำตลาด กับลูกค้ากลุ่มอายุน้อยลงมา ไปมากมายเลยทีเดียว
ลำพัง การออกรถรุ่น IS และเวอร์ชันสมรรถนะสูง IS-F เพียงเท่านั้น ยังไม่เพียงพอที่จะเอาใจ
ลูกค้าในกลุ่มเศรษฐี ไอโซ วัยเยาว์ ได้

แน่นอน โตโยต้าคาดหวังจะใช้ประโยชน์ จากขุมพลัง ตระกูล HSD (Hybrid Synergy Drive)
ที่มีอยู่แล้วใน รถยนต์ไฮบริดรุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะ รุ่น PRIUS เป็นพื้นฐานในการต่อยอด ไปสู่
การสร้างรถยนต์ไฮบริด หลายๆรุ่น บนพื้นฐานงานวิศวกรรมร่วมกัน

ดังนั้น จึงเป็นไปได้สูงมากว่า เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและมอเตอร์ไฟฟ้า รวมทั้งแบ็ตเตอรี
ที่จะถูกวางลงใน PRIUS จะถูกวางลงใน AURIS HYBRID และ เวอร์ชันจำหน่ายจริงของ
LF-Ch ซึ่งคาดว่าจะมีกำหนดเปิดตัวในตลาดทั่วโลก อีกไม่เกิน 1-2 ปีนับจากนี้

นอกจาก LF-Ch แล้ว บนพื้นที่บูธของ เล็กซัส จะมีการเปิดตัวครั้งแรกในโลก ของ LS460
Minorchange ซึ่งงานนี้ คาดว่าจะมีเวอร์ชัน สปอร์ต SZ ที่จะเอาใจลูกค้าซึ่งชื่นชอบการขับรถเอง
โดยจะเป็นเวอร์ชันที่มีการปรับปรุงระบบกันสะเทือนให้แข็งขึ้น รวมทั้ง GS Minorchange
ตามติดตลาดญี่ปุ่น และ การปรับปรุงอุปกรณ์นิดๆหน่อยๆ ใน IS กับ IS-F สปอร์ตซีดานตัวแรง

———————————————–///—————————————————