ภายใต้ในสภาวะธุรกิจรถยนต์กำลังประสบปัญหาผลกำไรลดลงเรื่อย ๆ ผู้ผลิตรถยนต์เริ่มปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างหนัก เพื่อให้รอดพ้นจากสภาวะที่ไม่เป็นใจดังกล่าว และมีทีท่าว่ายิ่งนานวัน ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องยิ่งอยู่ภายใต้ความกดดันที่ทวีคูณขึ้นไปอีก ด้วยความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี, กฎหมายและสิ่งแวดล้อม

ล่าสุด Toyota สหรัฐอเมริกาก็ได้ทบทวนธุรกิจรถยนต์ของตนเองว่าสิ่งที่เป็นอยู่ มันใช่สำหรับ Toyota หรือลูกค้าหรือไม่ และถ้าไม่ใช่ Toyota จะสามารถตัดสิ่งไม่จำเป็น เพื่อรักษาผลกำไรได้หรือไม่

Jim Lentz ผู้บริหาร Toyota อเมริกาเหนือเปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังดำเนินงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ Toyota สามารถแข่งขันในแต่ละเซ็กเมนต์อย่างมีกำไรและพวกเขาก็สามารถผลิตรถยนต์ที่มีคุณค่าทางกลยุทธ์

เขากล่าวว่า Toyota กำลังพิจารณาว่าอาจจะมีการเพิ่มจำนวนรุ่นรถยนต์อเนกประสงค์ประเภท SUV หรือรถกระบะ โดยที่ยังคงรักษาตลาดรถยนต์นั่งอันแข็งแกร่งไว้เช่นเคย เพียงแต่ Toyota อาจจะมีการประเมินตลาดรถ Convertible และรถ Coupe ที่พวกเขายังไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้เต็มที่มากนัก

จากการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ก็ทำให้ทุกคนจับตามองว่านับจากนี้ไปรถสปอร์ตของ Toyota จะยังคงดำเนินกลยุทธ์เดิมที่อาจจะส่ง All NEW Supra และรวมถึงแผนการพัฒนารถรุ่นปัดฝุ่นอย่าง MR2 EV จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในอนาคตหรือไม่? หรือว่า Toyota อาจจะขายเพียงแค่ Toyota 86 ในสหรัฐอเมริกาเพียงรุ่นเดียว

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Toyota Motor ได้ประกาศสถานะทางการเงินจากการดำเนินธุรกิจทั่วโลกประจำไตรมาส 3 ของปี 2018 (เดือนกรกฏาคม – กันยายน 2018) โดยมีผลสรุปดังนี้

  • รายได้รวม 64,300 ล้านดอลลาร์ (2,112,000 ล้านบาท)
  • รายได้สุทธิ 5,150 ล้านดอลลาร์ (169,267 ล้านบาท) เติบโตขึ้น 28%
  • กำไรจากการดำเนินงานรวม 5,090 ล้านดอลลาร์ (167,209 ล้านบาท)

ที่มา : Automotive News