เอกลักษณ์ของแบรนด์ BMW แคว้นบาวาเรียที่ทุกคนรู้จักคือต้องเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม และต้องเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้น แม้ว่ากระแสความนิยมพื้นที่ห้องโดยสารมากจะครองตลาดรถยนต์ในปัจจุบันก็ตาม นั่นก็เป็นเสน่ห์ของ BMW

เชื่อว่าข่าวชิ้นนี้สร้างความตกตะลึงให้กับวงการแน่นอนเมื่อ Mr. Norbert Reithofer ดำรงตำแหน่ง CEO ของ BMW เยอรมนี กล่าวยืนยันในที่ประชุมผู้สื่อข่าวรถยนต์ประจำปี 2010 โดยมีหลักฐานเป็นเอกสารคำพูดในเว็บไซต์สำหรับสื่อมวลชน ใจความว่า BMW จะพัฒนารถยนต์รุ่นต่อไปที่เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าแน่นอน

 
 

สาเหตุสำคัญที่ BMW ถึงขนาดต้องยอมใช้พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าก็เพราะตลาดรถขนาดเล็กกำลังเติบโตในตลาดโลกอย่างไม่หยุดยั้ง  และตลาดรถหรูขนาดใหญ่ก็ค่อย ๆ หดตัวลง จึงไม่แปลกใจที่ BMW จะเตรียมกระโจนเข้าไปหาตลาดรถเล็กหรูแน่นอน

BMW วางแผนผลิตรถยนต์ภายใต้พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ ขนาดตัวถังยาวระหว่าง 3.8 เมตร – 4.3 เมตร และจะครอบคลุมไปถึง Mini ที่จะออกโฉมใหม่ในปี 2014 อีกด้วย

ชัดเจนแล้วว่า BMW จะไม่ไปยุ่งระบบขับเคลื่อนรถสร้างชื่ออย่าง 3-Series จนถึง 7-Series อย่างแน่นอน

ถ้ายังไม่เข้าใจอีกผมก็จะบอกว่า BMW จะใช้พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าใน 1-Series รุ่นตัวต่อไปนั่นเอง ขณะที่รุ่นปัจจุบันยังใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังร่วมกับ 3-Series

นอกจากนี้โปรเจคท์ที่สำคัญ BMW ยังแอบซุ่มพัฒนารถขนาดซับคอมแพคท์ระดับหรูท้าชน Audi A1 และจะสร้างบนพื้นฐานระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่ BMW เตรียมไว้นั่นเอง 

ตลาดซับคอมแพคท์ระดับหรู ณ ปัจจุบัน ยังเป็นตลาดที่มีคู่แข่งแข่งขันน้อยมาก เพราะค่ายรถหรูส่วนใหญ่ยังวุ่นวายอยู่กับการจัดประเภทรถยนต์ของตนกันอยู่โดยเฉพาะ Mercedes-Benz ที่ยังต้องสร้างความชัดเจนระหว่าง A และ B Class ให้ได้เสียก่อน ซึ่งผู้เขียนคาดว่า A-Class จะมีบุคลิคเป็นรถซับคอมแพคท์ระดับหรูมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน

และก็ยังมีความเป็นไปได้สูงอีกเช่นกันว่า BMW จะนำพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าไปใช้กับรถไฟฟ้าขนาดเล็กของตนภายใต้โครงการ Mega City EV ได้เช่นกัน แต่ความชัดเจนของโครงการนี้เราต้องรอกันต่อไปครับ

 
 

Mr. Reithofer กล่าวเพิ่มเติมในสำนักข่าว Financial Times ว่าพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าแบบใหม่นี้ช่วยเพิ่มพูนกำไรให้ BMW มากขึ้นเพราะรถที่ถูกใช้พื้นตัวถังนี้มีหลากรุ่นและมีจำนวนผลิตที่มากพอคุ้มทุนจนมีกำไรต่อหน่วยมากขึ้น

Mr. Klaus Draeger หัวหน้าฝ่ายพัฒนารถยนต์ BMW กล่าวเพิ่มเติมในสำนักข่าว Financial Times อีกว่า BMW จะผลิตรถยนต์ที่ใช้พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าแบบใหม่นี้มากถึง 6-8 แสนต่อปี ไม่นับรวม Mini ถือว่าเป็นยอดผลิตตั้งเป้าที่มากพอสมควร ยิ่งหากเปรียบเทียบยอดขาย BMW ทั้งปี 2009 ที่มียอดจำหน่าย 1.29 ล้านคันทั่วโลก เราก็ยิ่งเห็นแล้วว่า BMW ให้ความสำคัญกับพื้นตัวถังนี้มากแค่ไหน

การที่ BMW มุ่งตรงเข้าไปสู่เซกเมนต์ “รถเล็กระดับหรู”นั้น BMW เชื่อว่าตลาดนี้จะค่อย ๆ เติบโตปีละ 4-6 เปอร์เซ็นต์ และถึงจุดเติบโตสุด ๆ ในปี 2020 ซึ่งถึงตอนนั้นรถในตลาดนี้จะช่วยลดไอเสียคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึง 25 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรถรุ่นปัจจุบัน

ที่สำคัญพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าแบบใหม่ BMW ก็ไม่หวงก้างไว้ใช้คนเดียวแน่นอน ถ้าหากมีบริษัทรถสนใจพื้นตัวถังนี้ BMW ก็จะยินดีเป็นพันธมิตรด้วย

ข่าวชิ้นนี้แฟน BMW คิดอย่างไรครับ