นับตั้งแต่ Nissan ได้เผยโฉม All NEW Altima เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนว่าหลาย ๆ คนจะให้ความสนใจกับรถ D-Segment รุ่นเปลี่ยนโฉมคันนี้เกินกว่าที่คาดคิด เพราะคงไม่มีใครคิดว่า Nissan จะกล้าพลิกโฉม Altima ให้มีวิวัฒนาการก้าวกระโดดได้ขนาดนี้

ประเด็นสำคัญของ All NEW Nissan Altima ที่หลายคนถามกันบ่อย ๆ คือมันจะเตรียมขึ้นสายการผลิตที่ไหนบ้าง, เปิดตัวตอนไหน, มีราคาเท่าไร และก็เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากจะรู้เบื้องหลังหรือแรงบันดาลใจในการออกแบบเช่นเดียวกัน

และนี่ก็คือทิศทางการออกแบบใหม่ของ All NEW Nissan Altima ที่แสดงถึงความเปลี่ยนแปลง โดยมีหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

1.ตลาดจีนมีอิทธิพลต่อการออกแบบ

Alfonso Albaisa ผู้บริหารฝ่ายการออกแบบ Nissan ได้หันหัวเรือการออกแบบไปสู่ระดับสากลเป็นครั้งแรก ถึงขั้นระดมนักออกแบบจากศูนย์การออกแบบจากจีน, ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา มาทำงานในสถานที่เดียวกันร่วมเดือน เพื่อหาข้อสรุปดีไซน์ของรถในขั้นสุดท้าย

แนวทางการออกแบบจะเกิดขึ้นในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เพราะตลาดจีนเป็นตลาดที่ Nissan ให้ความสำคัญกับยอดขายตามแผนธุรกิจใน 5 ปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าในประวัติศาสตร์ Altima คือรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อตลาดอเมริกาตามแนวคิดดั้งเดิมก็ตาม

Ken Lee ผู้อยู่ตำแหน่ง Project Leader เปิดเผยข้อมูลว่า ทีมนักออกแบบจากจีนให้ความสำคัญกับตัวรถที่ดูประกายแวววับและหรูหรามากขึ้น ด้วยการประดับโครเมี่ยมเพิ่มขึ้น ขยายขนาดไฟหน้า และเน้นการออกแบบภายนอก, ทีมออกแบบจากญี่ปุ่นต้องการให้รถที่ดูเติบโตขึ้น มีมาดหรู ขณะที่ทีมออกแบบจากสหรัฐอเมริกาก็ต้องการดีไซน์รถที่ดูโปร่งเบาและสปอร์ตมากขึ้น

2.คลื่นลูกใหม่ของรถ Sedan จะต้องเตี้ยลงและกว้างยิ่งขึ้น

All NEW Nissan Altima มีมิติตัวรถที่เตี้ยลง, ยาวขึ้นและกว้างขึ้น พร้อมทั้งตำแหน่งของห้องเครื่อง/ฝากระโปรงหน้าถูกกดต่ำลงไปอีก และการออกแบบเสาหลังคาแต่ละเสาให้ดูบางลง ก็ช่วยทำให้ตัวรถดูโปร่งเบาสบาย และช่วยเพิ่มความปลอดโปร่งภายในรถได้อีกทางหนึ่ง

และทิศทาง/รูปลักษณ์ของการออกแบบนี้ก็จะไปปรากฏลงในรถยนต์ Nissan รุ่นใหม่ ๆ ด้วยซึ่ง Lee เผยว่าแนวทางการออกแบบดังกล่าวจะเห็นได้ใน Next Sentra (Sylphy) และ Next Versa Sedan (Almera) ที่จะเปิดตัวในตลาดโลกภายในปี 2019 และหลังจากนั้นก็จะเป็น Next Maxima

3.Nissan มุ่งก้าวสู่เทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติ

เนื่องจาก Nissan ตัดสินใจยกเลิกเครื่องยนต์ VQ V6 3.5 ลิตรและแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ VC-Turbo 2.0 ลิตร ทำให้ต้องมีการออกแบบโครงสร้างตัวถังบริเวณห้องเครื่องด้านหน้าใหม่ให้ดูเพรียวบางกว่าเดิม พร้อมทั้งมีการขยายระยะฐานล้อให้ยาวขึ้น อีกทั้งมีการออกแบบแผงแดชบอร์ดแบบแนวกว้าง ก็ช่วยทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางกว่าเดิม

และทิศทางเหล่านี้ก็จะปรากฏใน Nissan รุ่นอื่น ถือเป็นการต้อนรับเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติ และขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำให้การออกแบบห้องเครื่องมีขนาดเล็กลง

วิสัยทัศน์ของรถยนต์ยุคหน้าที่ติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติก็คือการเอาใจใส่ในการออกแบบภายในห้องโดยสารมากยิ่งขึ้นกว่าปกติ ผู้ขับขี่เป็นอิสระ ไม่ต้องจับพวงมาลัย และพื้นที่ภายในห้องโดยสารก็จะเป็นพื้นที่แห่งการเข้าสังคม ด้วยเบาะนั่งที่สามารถปรับให้หันหน้าเข้าหากันได้

Albaisa กล่าวว่า วิสัยทัศน์ดังกล่าวมันจะเกิดขึ้นแน่ แต่ความเปลี่ยนแปลงของ Altima ที่เริ่มสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่นี้ ก็เป็นสัญญาณของจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง

ที่มา : Automotive News

รูปภาพ : Motor1 / Autoblog


ข้อมูลรายละเอียด  สามารถอ่านได้ที่นี่ : All NEW Nissan Altima (Teana) แนวคิด Energetic Flow และ ขุมพลังใหม่ 2.5 e-VTC / 2.0 VC-Turbo >> http://www.headlightmag.com/all-new-nissan-altima-teana/

All NEW Nissan Altima (Teana) แนวคิด Energetic Flow และ ขุมพลังใหม่ 2.5 e-VTC / 2.0 VC-Turbo