“Cayenne” รถ SUV รุ่นแรกของ Porsche ที่ถูกผลิตขึ้น และ ปรากฏแก่สายตาคนทั่วโลกเป็นครั้งแรก ในปี 2002 ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักของแฟนพันธุ์แท้ Porsche และ นักลงทุนทั้งหลายในขณะนั้น หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนแนวคิดครั้งสำคัญ ของค่ายที่รถยนต์ที่มุ่งผลิตแต่รถสปอร์ตเพียงอย่างเดียว

ในระยะเวลา 15 ปี ของการทำตลาด SUV ของ Porsche สำหรับรุ่นแรก และ รุ่นที่ 2 ทำให้ Cayenne ได้พิสูจน์ตัวเอง ด้วยการสร้างยอดขายกว่า 760,000 คันทั่วโลก จนกลายเป็นรถยนต์รุ่นที่สำคัญที่สุดรุ่นหนึ่งของ Porsche สามารถพลิกฟื้นสถานการณ์ของค่ายรถยนต์จากเมือง Stuttgart ให้กลับมามีรายได้มหาศาล จนถึงขั้นต้องขยายโรงงานในเมือง Osnabruck เพื่อผลิตให้ทันต่อความต้องการของตลาด

 

เพื่อสานต่อความสำเร็จ ล่าสุด 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา Porsche ได้เปิดตัว All NEW Cayenne รุ่นที่ 3 (3rd Generation) อย่างเป็นทางการ โดยเบื้องต้น จะมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Cayenne และ Cayenne S

รูปทรงภายนอกของ All NEW Cayenne ถูกปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่ ที่แม้จะดูคล้ายรุ่นเดิม มาพร้อมกับกระจังหน้าแนวนอนพาดยาวจากด้านซ้าย ถึง ด้านขวา ทำให้มิติตัวรถด้านหน้าดูกว้างขึ้นอย่างชัดเจน ด้านข้างมีการกระชับสัดส่วนของกระจกโอเปร่าหลัง (บริเวณเสา C-Pillar) ให้สั้นลง

ด้านหลังมีการใช้ไฟท้ายแบบ LED สามมิติ คาดยาวตามแนวฝากระโปรงท้าย คาดว่าได้รับแรงบันดาลใจจาก Porsche Panamera มาเต็มๆ ส่วนล้ออัลลอยมีให้เลือก 2 แบบ 2 ขนาด ทั้ง 19 นิ้ว และ 21 นิ้ว

นอกเหนือจากระบบไฟหน้าแบบ LED ที่จะถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐานใน All NEW Cayenne ทุกคันแล้ว Porsche ยังได้นำเสนอนวัตกรรมไฟหน้า Porsche Dynamic Light System Plus ซึ่งทำงานโดยใช้หลอด LED จำนวน 84 หลอด เปล่งความเข้มแสงแบบอิสระ สามารถปรับองศาของจานฉาย ตามการหมุนพวงมาลัย นอกจากนั้นยังมีการใช้กล้องตรวจจับรถยนต์ที่อยู่ในระยะของลำแสงไฟหน้า และ จัดการเพื่อไม่ให้เกิดแสงรวบกวน ซึ่งมีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริม


Porsche ได้นำเทคโนโลยีการลดน้ำหนักโครงสร้างตัวถัง โดยใช้การผสมผสานชิ้นส่วนระหว่างโลหะผสม (Alloy) และ เหล็กกล้า ที่ก่อนหน้านี้เคยนำไปใช้กับ Porsche 911 และ Porsche Panamera มาใช้กับ All NEW Cayenne ด้วยเช่นกัน โดยในส่วนของตัวถังภายนอกจะใช้วัสดุอลูมิเนียมทั้งหมด ใช้ Platform จากทาง Volkswagen Group’s MLB “ Evo Platform ” ที่ใช้ใน Audi Q7 และ Bentley Bentayga

ส่วนประกอบของโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างด้านหน้า และ แชสซีส์เกือบทุกชิ้น ใช้โลหะผสม ทำให้สามารถลดน้ำหนักไปได้ถึง 65 กิโลกรัม (น้ำหนักรุ่นเดิมอยู่ที่ 2,040 กิโลกรัม และรุ่นใหม่อยู่ที่ 1,985 กิโลกรัม)

การใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้สามารถลดน้ำหนักตัวลงไปได้อีก 10 กิโลกรัม แม้ว่าจะต้องรองรับกับอุปกรณ์อิเล็กทอนิกส์ต่างๆ มากมาย เช่น ไฟหน้า LED, ระบบช่วยจอด (Parking Assist), ระบบเชื่อมต่อ Internet LTE และ การเชื่อมต่อ Wifi, Porsche Connect Service และ ระบบป้องกันคนเดินบนทางเท้า เป็นต้น

Dimension มิติตัวรถ

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,918 x 1,983 x 1,696 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,895 มิลลิเมตร
  • ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 770 ลิตร (ไม่พับเบาะ) – 1,710 ลิตร (พับเบาะ)

เทียบกับ Cayenne รุ่นเดิม (2nd Generation)

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,855 x 1,939 x 1,705 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,895 มิลลิเมตร

รุ่นใหม่ 3rd Generation ยาวขึ้น 63 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 44 มิลลิเมตร เตี้ยลง 9 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อเท่าเดิม

ภายในห้องโดยสาร ถูกออกแบบให้มีความสปอร์ต และ หรูหรามากขึ้น จุดเด่นอยู่ที่หน้าจอ ระบบสัมผัส Touchscreen ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมกับระบบ Porsche Communication Management (PCM) รุ่นล่าสุด ที่ต่อยอดมาจาก Panamera มีฟังก์ชั่นต่างๆ ให้เลือกใช้งาน ทั้งระบบสั่งการด้วยเสียง, ระบบ Porsche Connect Plus ที่ช่วยในการเชื่อมต่อ Internet,  ระบบนำทาง Navigation System ที่มีสามารถรายงานการจราจรได้แบบ Real Time ฟังก์ชั่นหลักในรถยนต์สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยการหมุนสวิตซ์บริเวณคอนโซลกลาง ส่วนการควบคุมฟังก์ชั่นย่อยอื่นๆ จะใช้การสัมผัส (Touch-sensitive Surface)

การออกแบบชุดมาตรวัดต่างๆ ยังคงเอกลักษณ์ของ Porsche ด้วยการใช้แบบวงกลม 5 วง ตรงกลางจะเป็นมาตรวัดรอบแบบ Analog และ ด้านข้าง 2 ฝั่ง ใช้หน้าจอดิจิตอลความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว ซึ่งจะแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมด ควบคุมโดยสวิตซ์บนพวงมาลัย

เครื่องยนต์ของ All NEW Cayenne เบื้องต้นมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น

Cayenne

เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร 2,995 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 5,300 – 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,340 – 5,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TipTronic S ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปล่อย CO2 ที่ 205 – 209 g./km. ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ภายใน 6.2 วินาที (5.9 วินาที ในโหมด Sport Plus)ความเร็วสูงสุด 245 km/h

Cayenne S

เครื่องยนต์เบนซิน V6 2.9 ลิตร 2,894 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 440 แรงม้า ที่ 5,700 – 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TipTronic S ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปล่อย CO2 ที่ 209 – 213 g./km. ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ภายใน 5.2 วินาที (4.9 วินาที ในโหมด Sport Plus) ความเร็วสูงสุด 265 km/h

สามารถเลือกติดตั้ง Sport Chrono Package with PSM Sport ที่ให้ผู้ขับขี่ สามารถควบคุม และ สั่งการรูปแบบการทำงานของเครื่องยนต์ได้ตามต้องการ โดยผ่านสวิตช์เลือกรูปแบบการขับขี่ ซึ่งมีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกใช้งานได้ถึง 4 รูปแบบ ได้แก่

  • Normal
  • Sport
  • Sport Plus
  • Individual

มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive เป็นมาตรฐานสำหรับทุกรุ่นย่อย มาพร้อมกับ Porsche Traction Management (PTM) ซึ่งสามารถเลือกรูปแบบการกระจายกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวต่างๆ รวมถึงควบคุมการทำงานของ Differential Lock ปรับโหมดได้ 4 รูปแบบ  ไม่ว่าจะเป็น

  • Mud (โคลน)
  • Gravel (กรวด)
  • Sand (ทราย)
  • Rock (หิน)

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ทั้งในแบบ On Road และ Off road สำหรับ All NEW Cayenne

นอกเหนือจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแล้ว ยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ เช่น

  • ระบบตรวจจับวัตถุตอนกลางคืนด้วยกล้องอินฟราเรด (Night Vision Assist)
  • ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร (Lane Keeping Assit)
  • ระบบช่วยเหลือขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Parking Assist)
  • กล้องมองภาพรอบคัน (Surround View)

และ ระบบ Porsche InnoDrive ที่ช่วยในการมองเห็นเส้นทางข้างหน้าในระยะทางที่กว้างไกลยิ่งขึ้น ทำงานร่วมกับระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)

ช่วงล่าง เน้นความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นหลัก แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต ด้วยโครงสร้างช่วงล่าง Porsche 4D Chassis Control ใช้ระบบช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ และ ระบบเลี้ยว 4 ล้อ (adaptive air suspension with new three-chamber technology) ครั้งแรกใน Cayenne ควบคุมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 48 โวลต์

เสริมด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ Porsche Dynamic Chassis Control Sport (PDCC Sport) ซึ่งประกอบด้วย Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) และ Active Roll Stabilization ด้วย ส่วนระบบเบรก มีการใช้ Porsche Surface Coated Brake (PSCB) ที่ใช้การเคลือบ Tungsten carbide บนจานเบรก ถูกนำมาใช้สำหรับ All NEW Porsche ในรุ่นที่มีล้อขนาด 21 นิ้ว อีกด้วย

ราคาจำหน่ายของ All NEW Porsche Cayenne ในเยอรมัน (ยังไม่รวมภาษีของประเทศไทย)

  • Cayenne ราคาเริ่มต้นที่ 74,828 ยูโร (ราวๆ 2,950,000 บาท)
  • Cayenne S ราคาเริ่มต้น 91,964 ยูโร (ราวๆ 3,630,000 บาท)

 

ที่มา : Porsche