ในที่สุด ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของตระกูล Corolla ในตลาดญี่ปุ่น ก็มาถึงจุดที่สมควรเปลี่ยนแปลงได้เสียที นั่นก็คือการปัดฝุ่นภาพลักษณ์ Corolla ให้กลับมาเป็นรถยนต์ขวัญใจคนรุ่นใหม่วัยหนุ่มสาว ที่ต้องการรถยนต์คุณภาพไว้วางใจได้อีกครั้งหนึ่ง

ทำไมถึงต้องเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ใหม่ในตลาดญี่ปุ่น?

จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงก็คือการเปิดตัว Toyota Corolla Generation ที่ 10 (ปี 2006 – 2013) ระหว่างตลาดญี่ปุ่นและตลาดโลก ด้วยขนาดตัวถังที่แตกต่างอย่างชัดเจน

(Toyota Corolla Generation 10 เวอร์ชันญี่ปุ่น)

สำหรับ Toyota Corolla Generation ที่ 10 ตลาดญี่ปุ่นจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป

  • Toyota Corolla Axio ก็คือ Corolla Sedan ที่มีมิติความยาว x กว้าง x สูง : 4,390 x 1,695 x 1,465 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,600 มิลลิเมตร
  • Toyota Corolla Fielder ก็คือ Corolla Wagon มีมิติความยาว x กว้าง x สูง : 4,220 x 1,695 x 1,515 มิลลิเมตร 2,600 มิลลิเมตร

สำหรับ Toyota Corolla Generation ที่ 10 ตลาดโลก มีมิติความยาว x กว้าง x สูง : 4,55 x 1,760 x 1,465 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,600 มิลลิเมตร

จะเห็นได้ว่า Toyota Corolla รุ่นที่ 10 เวอร์ชันญี่ปุ่นเคยพยายามรักษาขนาดตัวถังให้อยู่ในกฏเกณฑ์ 5 Number ที่มีความกว้างของตัวถังไม่เกิน 1,700 มิลลิเมตร เพื่อเอาใจลูกค้าชาวญี่ปุ่นเป็นหลัก และเมื่อสังเกตให้ดีจะพบว่า ดีไซน์ตัวรถเริ่มมีดีไซน์ที่ดูอนุรักษ์นิยมมากยิ่งขึ้น เพื่อเอาใจลูกค้าดั้งเดิมที่ยังเป็นแฟนพันธุ์แท้ Corolla มาในสมัยอดีต

(Toyota Corolla Generation 11 เวอร์ชันญี่ปุ่น)

จุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือการเปิดตัว Toyota Corolla Generation ที่ 11 เวอร์ชันญี่ปุ่น (ปี 2012 – ปัจจุบัน) รหัสตัวถัง E160 ที่มีรูปโฉมภายนอก-ภายใน ไม่เหมือนกับ Corolla E170 ที่จำหน่ายในตลาดไทยและตลาดโลกเลยแม้แต่น้อย โดยเน้นรูปลักษณ์อนุรักษ์นิยมแบบ 100% เพราะชื่อเสียงของ Corolla ณ ตอนนั้นจัดเป็นรถยนต์ที่คนรุ่นใหม่ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว

จนในที่สุด ปี 2018 Toyota Motor จึงคิดใหม่ทำใหม่ด้วยการยุบรวมรถยนต์ตระกูล Corolla ให้มีดีไซน์, ขนาดตัวถังและฟีเจอร์เหมือนกันทั่วโลก ไม่แยกตัวถัง ไม่แยกดีไซน์ ตามภูมิภาคเหมือนที่แล้ว ๆ มา

วันนี้ (26 มิถุนายน 2018) Toyota ญี่ปุ่นได้เปิดตัว All NEW Corolla Sport ตัวถัง Hatchback สวนทางกับในอดีตที่มักเปิดตัวตัวถัง Sedan ก่อน ในครั้งนี้ Corolla Sport จะกลับมาเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ครั้งใหม่ระหว่างตัวแบรนด์และลูกค้าคนรุ่นใหม่

Yoshiki Konishi : Chief Engineer ผู้รับผิดชอบการพัฒนา All NW Toyota Corolla Generation ที่ 12 กล่าวว่า Corolla มีความเปลี่ยนแปลงเสมอเมื่อกาลเวลามาถึง และเวลานี้ก็ถึงเวลาของ Corolla : Fun To Drive DNA ที่มาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อแห่งยุคใหม่ เหมาะสำหรับลูกค้าที่อยากสัมผัสประสบการณ์แห่งประวัติศาสตร์และสมรรถนะการขับขี่แบบรถยุคหน้า

All NEW Toyota Corolla Sport มีรูปโฉมแบบเดียวกับ All NEW Toyota Auris ในยุโรป ออกแนวสปอร์ตที่เอาใจคนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ ถ้าให้หาจุดต่างคงจะเป็นโลโก้ C ตัวใหญ่ ตัวรถถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง TNGA มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ มิติตัวรถกว้างและเตี้ยแบน

ภายในห้องโดยสารจะถูกออกแบบให้ชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในตำแหน่งที่เตี้ยลง เพื่อขยายความปลอดโปร่ง ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ ตัดกับสีเงินเป็นบางจุด , แผงข้างประตูและเบาะนั่งบางส่วน ติดตั้งหน้าจอสัมผัส TFT ขนาด 7 นิ้ว และมาตรวัดความเร็ว / MID แบบแสดงผลสี TFT

พิเศษสุดสำหรับเวอร์ชันญี่ปุ่น Toyota ลงทุนออกแบบเบาะนั่ง Bucket Seat ทรงสปอร์ตในรุ่น Top สุดที่มีการแซมด้วยสีแดงเพื่อเพิ่มความดุดัน นอกจากนี้ยังมีรุ่นภายในห้องโดยสาร ทูโทนให้เลือกด้วย

ระบบช่วงล่าง

  • ด้านหน้า : McPherson Strut
  • ด้านหลัง : Double Wishbone

มาพร้อมกับโช๊คอัพที่มีส่วนประกอบของน้ำมันและวัสดุผสมแตกต่างกัน ผ่านการทดสอบช่วงล่างกว่า 600 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามีการขับขี่ที่สะดวกสบายและมีการบังคับควบคุมแม่นยำ มีรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.1 เมตร

Toyota เคลมว่า Corolla Sport เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องวางหน้าคันแรกในญี่ปุ่น ที่ใช้ Linear-solenoid แบบ AVS (Adaptive Variable Suspension system) เทคโนโลยีเดียวกับ Lexus สามารถปรับแรงกดของโช๊คแต่ละข้างให้รองรับตามสภาวะพื้นผิวของถนนและสภาวะการขับขี่ มุ่งหวังสร้างความสบายและให้ความรู้สึกการขับขี่ที่หรูหราตลอดการเดินทาง

เครื่องยนต์

1.8 Hybrid 2ZR-FXE

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Atkinson Cycle ระบบวาล์วแปรผัน VVT-I ขนาด 1.8 ลิตร 1,797 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร (14.2 กิโลกรัม-เมตร) ที่ 3,600 รอบ/นาที

ประกบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส 1NM ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร (16.3 กิโลกรัม-เมตร) ให้พละกำลังรวมกัน 122 แรงม้า (PS) แบตเตอรี่ นิกเกิล เมทัล ไฮดราย มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีที่สุด 34.2 กิโลเมตร/ลิตร

เบนซิน 1.2 ลิตร เทอร์โบ 8NR-FTS

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Atkinson Cycle ระบบวาล์วแปรผัน VVT-iw อินเตอร์คูลเลอร์เทอร์โบ ขนาด 1.2 ลิตร 1,196 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 71.5 × 74.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า (PS) ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตันเมตร (18.9 กิโลกรัม-เมตร) ที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Sport sequential shiftmatic 10 จังหวะ

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ติดตั้งมาให้ในทุกรุ่น ได้แก่

  • ระบบเบรกอัตโนมัติ พร้อมตรวจจับคนเดินถนนได้ทั้งตอนกลางวัน/กลางคืน และตรวจจับผู้ขับขี่จักรยานเฉพาะตอนกลางวัน Pre-Collision System with Pedestrian and Bikes Detection
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนอัตโนมัติ Lane Tracing Assist
  • ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam
  • ระบอ่านป้ายจราจรเพื่อควบคุมความเร็ว, สั่งหยุด, ห้ามเข้าและเตือนเมื่อพบเครื่องหมายห้ามแซง Road Sign Assist
  • ระบบเบรกอัตโนมัติ เมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลังหรือถอยจอดใกล้วัตถุในระยะกระชั้นชิดเกินไป Intelligent Clearance Sonar

จุดขายอีกประการที่ทำให้ Toyota Corolla Sport จะกลายเป็นรถของคน Generation ใหม่ นั่นก็คือระบบเชื่อมต่อสารพัดทั้งกับรถยนต์และเพื่ออำนวยความสะดวก อาทิ

ระบบการเชื่อมต่อเพื่อความปลอดภัยและรักษาความปลอดภัย

  • e-Care Driving Guidance : ผู้ขับขี่รับคำแนะนำจาก Call Center หรือดีลเลอร์ เมื่อมีสัญญาณไฟเตือนบางอย่างปรากฏ
  • e-Care Health Check Report : ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเช็ค ระดับน้ำมันเครื่อง, ระดับแบตเตอรี่กุญแจอัจฉริยะ หรือเพื่อตรวจสอบว่ามีไฟสัญญาณเตือนอะไรปรากฏ โดยสามารถนำข้อมูลชุดนี้ไปปรึกษาปัญหากับดีลเลอร์ได้
  • Connected Maintenance Package : เสนอการเช็คระยะตามเวลาที่เหมาะสม บนพื้นฐานข้อมูลตัวรถ นอกเหนือจากตรวจสอบเป็นระยะ
  • MyTOYOTA for T-Connect Driving Diagnosis : การวินิจฉัย จากแนวโน้มของการขับขี่ คะแนนและคำแนะนำจะส่งต่อยังสมาร์ทโฟน
  • MyTOYOTA for T-Connect My Car Security : ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสถานะของบานประตูถูกเปิดอยู่หรือไม่, สัญญาณเตือนติดหรือไม่, สัญญาณเตือนถูกเปิดหรือไม่

 

ระบบการเชื่อมต่อเพื่อความสะดวกสบาย

  • HELPNET® : ผู้ให้บริการจะให้ความช่วยเหลือผู้ขับขี่ ผ่านตำรวจหรือแผนกดับเพลิง เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยทันที เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน ระบบจะติดต่อขอความช่วยเหลือทันที พร้อมทั้งมีระบบ D-Call Net เพื่อเก็บข้อมูลพื้นฐานของรถยนต์เพื่อตัดสินใจว่าควรเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉินทางเฮลิคอปเตอร์หรือไม่
  • Operator Service : ผู้ให้บริการรองรับคำร้องขอจากผู้ขับขี่ เช่น การตั้งค่าจุดหมายปลายทางของแผนที่ เป็นต้น
  • Agent : รองรับการออกคำสั่งด้วยเสียงเพื่อตั้งค่า, หาข่าว และสภาวะอากาศ
  • LINE My Car Account : ผู้ขับขี่สามารถตั้งแผนที่จุดหมายปลายทางผ่าน LINE app และรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทั้งระดับน้ำมันและสภาวะอากาศ

All NEW Toyota Corolla Sport จะเตรียมจำหน่ายในเครือข่าย Toyota Corolla ทั่วญี่ปุ่น ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดา iMT จะจำหน่ายในเดือนสิงหาคม ตั้งเป้ายอดขายเบาะ ๆ เพียงแค่ 2,300 คัน/เดือน

 

ที่มา : Toyota


ข้อมูล All NEW Toyota Corolla (Altis) Hatchback เวอร์ชั่นญี่ปุ่น >> http://www.headlightmag.com/news-all-new-toyota-corolla-hatchback-jdm-spec/

ข้อมูล All NEW Toyota Corolla (Altis) Hatchback เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ก่อนเปิดตัว 26 มิ.ย. นี้