ถึงแม้ว่า Volkswagen Touareg มันคือ D-SUV ที่ใช้พื้นฐานร่วมกันกับ Porsche Cayenne เสมอมาตั้งแต่ Generation ที่ 1 แต่ดูเหมือนว่าภาพลักษณ์ของ Porsche Cayenne จะโดดเด่นเหนือชั้นกว่า Volkswagen Touareg เพราะ Positioning การตลาดของ Cayenne จะเป็น SUV หรูที่อิงภาพลักษณ์ความสปอร์ตและดีไซน์ภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์

แต่อย่างไรก็ดี Volkswagen Touareg ก็จัดว่าเป็น D-SUV ที่เปิดตัวในช่วงก่อนที่ตลาด SUV จะบูมในทุกวันนี้ นั่นก็ทำให้ Touareg ยังมีภาพลักษณ์บางอย่างที่แข็งแกร่งอยู่ เมื่อลูกค้าคิดจะซื้อ D-SUV สักคัน นี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่ Volkswagen จะสามารถตักตวงยอดขาย หากมีการปรับปรุงตัวรถให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าในทุกวันนี้

Volkswagen ได้เผยภาพ Teaser ของ All NEW Volkswagen Touareg ที่มาพร้อมสติ๊กเกอร์ปิดหน้า ปิดท้าย ที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่อาจทำให้ลูกค้าดั้งเดิมอาจจะรับไม่ได้

All NEW Volkswagen Touareg จะปรับบุคลิกใหม่เป็น D-SUV ที่มีการขับขี่ใกล้เคียงกับรถเก๋งมากยิ่งขึ้น ลดความสามารถด้านการขับขี่บนถนน Off Road ลง ลูกค้าจะรู้สึกได้ว่าเมื่อขับขี่ Touareg โฉมใหม่ก็ให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับรถยนต์ Sedan แบบยกสูงโดยมีจุดประสงค์หลักของความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ คือ Volkswagen หวังเอาใจลูกค้าที่นิยมซื้อ SUV กระแสหลักที่ไม่ได้ต้องการซื้อ SUV มาบุกป่าฝ่าดงมากขึ้นนั่นเอง

ตัวรถจะถูกสร้างขึ้นบนชุดโครงสร้างพื้นตัวถัง MLB-Evo ร่วมกับ Audi Q7 และ Porsche Cayenne รุ่นใหม่ ซึ่ง Jochen Bruening ผู้อำนวยการพัฒนา All NEW Volkswagen Touareg เผยว่า นี่เป็นโอกาสที่จะนำฟีเจอร์จากรถยนต์หรูหราแบบครบชุดมาติดตั้งลงในรถคันนี้

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Volkswagen ได้ติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวในเพลาล้อหลัง เพื่อช่วยให้ล้อคู่หลังบังคับเลี้ยวจนสามารถขับขี่ในที่แคบ ด้วยความเร็วต่ำได้ นั่นทำให้ Touareg โฉมใหม่จะกลายเป็น SUV ขนาดใหญ่ที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบเทียบเท่ากับ Golf รถคอมแพคท์ที่มีขนาดเล็กกว่ามาก

นอกจากนี้ Volkswagen ยังติดตั้งช่วงล่างแบบถุงลม เพื่อสร้างความรู้สึกการขับขี่ที่สะดวกสบาย และสามารถปรับความสูงของตัวรถแปรผันตามการใช้งานตั้งแต่ การขับขี่บนทางด่วนจนถึงการขับขี่ Off Road

ระบบป้องกันการพลิกคว่ำที่ถูกควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิคส์ก็ถูกจัดมาให้ใน All NEW Volkswagen ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่ติดตั้งลงใน Audi SQ7 ที่ถูกพัฒนาโดย Schaeffler

พร้อมกันนี้ Volkswagen ยังเคลมว่า Touareg เป็นรถยนต์คันแรกของของ Volkswagen ที่ได้ติดตั้ง Night-Vision Assistant ที่สามารถตรวจจับวัตถุจากพลังงานความร้อน

ภายในห้องโดยสารก็จะพบกับความพรีเมี่ยมที่พิเศษกว่า Volkswagen Touareg รุ่นก่อน ๆ ด้วยการติดตั้งหน้าจอแสดงผลบริเวณผู้ขับขี่ขนาด 12 นิ้ว พร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 15 นิ้วตรงกลางแผงแดชบอร์ด รองรับการออกคำสั่งด้วยการสัมผัส, คำสั่งเสียงหรือออกคำสั่งด้วยการวาดมือ

หากย้อนกลับไปยังสมัย Volkswagen Touareg รุ่นแรกเมื่อปี 2002 ยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีโหมด Hi-Low เพื่อเน้นการเดินทางในถิ่นธุรกันดาร ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่พอเข้าสู่ Generation ที่ 2 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีโหมด Hi-Low กลายเป็นออพชั่นที่ลูกค้าต้องติ๊กเลือกว่าจะเอาหรือไม่ แต่สำหรับ All NEW Volkswagen Touareg นั้น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีโหมด Hi-Low นั้นกลับถูกตัดทิ้งออกจากสารบบไป เพราะ Volkswagen ได้พัฒนาซอฟท์แวร์ควบคุมการทำงานระบบขับเคลื่อนให้สามารถสั่งการได้อย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งฮาร์ดแวร์ที่มีการทำงานซับซ้อนและมีน้ำหนัก ซึ่งก็พ้องกับข้อมูลยอดขายก็รายงานมาว่า มีลูกค้าไม่ถึง 5% ที่เลือกซื้อ Touareg รุ่นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่มีโหมด Hi-Low

All NEW Volkswagen Touareg ยังใส่ใจกับการพัฒนาที่เน้นการใช้งานอเนกประสงค์เป็นหลัก ด้วยการขยายความยาวตัวรถ 77 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มความปลอดโปร่งให้แก่ห้องโดยสารตอนหลัง และมีเนื้อที่ห้องสัมภาระเพิ่มขึ้นอีก 110 ลิตร เพื่อเป็นการลบเสียงวิจารณ์จากรุ่นเดิมที่ไม่ค่อยมีพื้นที่เก็บของมากนัก

นอกจากนี้ Touareg โฉมใหม่ยังรองรับน้ำหนักลากจูงถึง 3,500 กิโลกรัมเหนือชั้นกว่า Volvo XC90 ที่รองรับการลากจูงเพียงแค่ 2,700 กิโลกรัมเท่านั้น

งานออกแบบภายนอก Touareg ก็เป็นสิ่งที่ Volkswagen ใส่ใจเป็นพิเศษ ด้วยการออกแบบใบหน้าที่ดูซับซ้อนและสง่างามมากกว่าที่เคยเป็นมา ด้วยการใช้วัสดุโครเมี่ยมเพิ่มมากขึ้นซึ่งใบหน้าแบบนี้จะถูกจริตกับลูกค้าชาวจีนมาก แต่สำหรับเวอร์ชันยุโรปนั้น ทางทีมออกแบบก็ได้เตรียมกระจังหน้าที่ออกโทนสีดำเอาไว้ด้วย เพราะลูกค้าชาวยุโรปส่วนใหญ่ไม่ชอบกระจังหน้าที่มาพร้อมกับโครเมี่ยมสะท้อนความแวววาวมากนัก

สิ่งที่น่าสนใจคือ All NEW Volkswagen Touareg จะกลับมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ถอดเครื่องเบนซินและเน้นเครื่องดีเซลในระยะหนึ่ง ในช่วงเปิดตัวจะมีเครื่องยนต์เบนซิน V6 ใหม่ 2 เครื่อง ดีเซล V6 ใหม่อีก 2 เครื่อง ในอนาคตอันสั้นก็จะเตรียมเปิตดัวรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล V8 ในตอนหลัง

ในช่วงสิ้นปี 2019 ก็จะมีการแนะนำขุมพลัง Plug-in Hybrid ที่จับคู่กับเครื่องยนต์ 4 สูบ โดยจะวางราคาไว้สูงกว่าเครื่องยนต์เบนซิน V6

All NEW Volkswagen Touareg จะชิงเปิดตัวที่ ปักกิ่ง ประเทศจีนในวันที่ 23 มีนาคมนี้ และคาดว่า Touareg ใบหน้าเวอร์ชันยุโรปจะอวดโฉมที่งาน Geneva Motorshow 2018

ที่มา : Automotive News